หน.ปชป.เผย 2 วันชง ป.ป.ช.จัดการ “สุกำพล” มั่วถอดยศ ยันนอกราชการทำไม่ได้ พร้อมลุยอภิปราย ไม่ถอนชื่อแนบท้ายญัตติเป็นนายกฯ ท้า รบ.มาตรวจสอบ สวนเจอสอบกลับอย่าร้อง จี้ดูแลม็อบ “เสธ.อ้าย” หวั่นปะทะ ปัดสร้างเงื่อนไข รับคุย “ชินวรณ์” ปมทุจริตคุรุภัณฑ์แล้ว เตือน ขรก.รับใช้การเมืองระวังโดนแบบ รมว.กห.
วันนี้ (13 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าขณะนี้กำลังรอคำสั่งของศาลปกครอง กรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งของพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมกันนี้จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการทางอาญาต่อ พล.อ.อ.สุกำพล ภายใน 2 วันนี้ด้วย โดยนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าการร้องเรียนต่อศาลปกครองให้ถอนคำสั่งของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสามารถทำได้ เพราะคำสั่งทางวินัยทหารใช้ได้กับทหารที่อยู่ในราชการเท่านั้น
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ระบุว่าไม่กังวลกรณีที่คนของรัฐบาลพยายามพูดว่าตนเองขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. เนื่องจากคำสั่งปลดตนเองออกจากราชการเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจะทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจตามปกติ โดยจะไม่มีการเปลี่ยนชื่อตนเองออกจากรายชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีแนบท้ายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นองค์กรเดียวที่วินิจฉัยให้ตนพ้นสภาพ ส.ส.ได้ยังไม่มีคำวินิจฉัยใดๆ
ส่วนการที่รัฐบาลเตรียมตรวจสอบฝ่ายค้านกลับในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมรับการตรวจสอบ และหากตนถูกพาดพิงก็พร้อมจะชี้แจงต่อที่ประชุม โดยขอเรียกร้องให้รัฐบาลอย่าหวาดกลัวการอภิปรายของฝ่ายค้าน และยอมรับการตรวจสอบเช่นกัน ส่วนการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลความสงบเรียบร้อย ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างมวลชนที่เห็นต่าง โดยยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ใช่ฝ่ายสร้างเงื่อนไขความรุนแรงให้เกิดขึ้น
สำหรับกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ชี้มูลความผิดนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาธิการ ในคดีทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างคุรุภัณฑ์อาชีวศึกษาในโครงการไทยเข้มแข็งนั้น นายอภิสิทธิ์ระบุว่าได้พูดคุยกับนายชินวรณ์แล้ว โดยทางพรรคพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ขอให้ข้าราชการอย่ารับใช้ฝ่ายการเมือง ไม่เช่นนั้นอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เช่นเดียวกับการที่ตนจะฟ้องร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
