รอง ผบช.น.เผยความาคืบหน้าเรื่องการรติดตามสจับกุมคนร้ายทำร้าย “ราเมศ” บาดเจ็บสาหัส ชี้ ตร.เดินทางเพื่อจะไปสอบปากคำแล้วแต่ญาติไม่ให้เข้า! ตำรวจยังมืดแปดด้านตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายไม่ชัด
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. เปิดเผยกรณีที่นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถูกดักทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พักอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล เพื่อดูอาการของนายราเมศว่าพร้อมที่จะให้ปากคำได้หรือไม่ แต่ทางมารดาและพี่ชายยังไม่ยอมให้เข้าพบ โดยขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้เพื่อติดต่อกลับเท่านั้น ขณะนี้ต้องการให้ทางญาติรีบติดต่อกลับเพื่อนำคำให้การของนายราเมศไปให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบหาเบาะแสของคนร้าย อีกทั้งกล้องวงจรปิดก็มีระยะเวลาในการบันทึกภาพ ซึ่งปกติจะประมาณ 7 วัน และตั้งแต่เกิดเหตุก็ผ่านมานานหลายวันแล้ว เกรงว่าภาพวงจรปิดจะถูกลบไปเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายราเมศเป็นทีมงานทนายความที่ไปยื่นถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติการณ์ที่ส่อกระทำทุจริตต่อหน้าที่ กรณีมีคำสั่งโดยมิชอบถอดยศร้อยตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะนำมาเป็นประเด็นด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า เรื่องนี้ก็เพิ่งทราบจากสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามจะทำการตรวจสอบทั้งหมดในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกรณีที่นายราเมศ เคยออกไปพูดออกอากาศในเรื่องทางการเมืองที่อาจทำให้บางกลุ่มบางคนไม่พอใจด้วย ส่วนการเอาเรื่องมาปะติดปะต่อเพื่อดูในส่วนของประเด็นต่างๆ ก็ต้องสอบปากคำทีมงานและคนใกล้ชิดของนายราเมศให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
“เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเชื่อว่าคนร้ายต้องการทำร้ายร่างกายเพื่อข่มขู่ โดยตีและลงไปซ้อม แต่คงไม่ถึงขนาดต้องการให้เสียชีวิต ซึ่งหากคนร้ายจะก่อเหตุขนาดนั้นก็น่าจะทำได้ ขณะนี้มุ่งประเด็นไปที่ความโกรธแค้นเป็นหลัก ส่วนในเรื่องทางการเมืองนั้นก็ยังไม่ชัดเจน แต่ปกติในเวทีการเมืองก็มีการโต้เถียงรุนแรงอยู่แล้ว แต่ก็ไม่พบว่าจะก่อความรุนแรงขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนพยายามติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจ” รอง ผบช.น.กล่าว
ต่อมาเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.บางนา เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนายราเมศ ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น.พร้อมด้วยชุดพนักงานสอบสวน เดินทางไปสอบปากคำนายราเมศ แต่ยังคงไม่สามารถให้การได้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่ซี่โครงต้องพักรักษาตัวก่อน ทางชุดพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบปากคำญาติผู้บาดเจ็บ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใดเช่นกัน
พ.ต.อ.กัญชลกล่าวอีกว่า ในส่วนของคดีได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ การ์รินทร์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.บางนา เจ้าของคดี ให้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อม 5-6 ปาก ทราบว่าชัดเจนในเรื่องของคนร้ายสวมหมวกทั้ง 2 คน ในส่วนของรถคันที่ก่อเหตุยี่ห้อยามาฮ่า แบบผู้ชาย สีฟ้า-ขาว หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปซอยที่จะออกถนนบางนา-ตราด โดยเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตร.กว่า 20 นาย ได้ทำการปูพรมลงพื้นที่ตรวจสอบหาวัตถุที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุภายในรัศมี 1 กม. เบื้องต้นยังไม่พบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากมีผู้พบเห็นวัตถุดังกล่าวอย่าไปหยิบหรือจับ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้ทำการแบ่งงานสำหรับคลี่คลายคดี โดยทาง บก.สส.บช.น.และ กก.สส.บก.น.5 ดูแลในส่วนของการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และละแวกใกล้เคียง ส่วนฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ดูแลในส่วนของการลงพื้นที่หาข่าวละแวกดังกล่าว โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทราบว่าเวลาคนร้ายก่อเหตุที่แน่นอนแล้ว คือ 20.50 น. จากนั้นได้หลบหนีไปทางถนนบางนา-ตราด