“คำรณวิทย์” ประชุมเร่งติดตามความคืบหน้ากรณี “ราเมศ” ถูกทุบหัวน่วม ปัดไม่เกี่ยวกับประเด็นร้องเรียนให้ “แม้ว” ติดยศ ชี้เกิดขึ้นนานแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตคนร้ายน่าจะโกรธเป็นการส่วนตัวถึงได้เตะซ้ำ ด้าน “เเทนคุณ” รุดให้ปากคำในฐานะพยานต่อตำรวจ เผย “ราเมศ” เปรยมีคนสะกดรอยตามมาร่วม 2 เดือนก่อนเกิดเหตุ เชื่อประเด็นเรื่องส่วนตัวและการเมือง ส่วนตำรวจเร่งเช็กกล้องวงจรปิดล่าตัวคนร้ายไม่ตัดประเด็นส่วนตัว-การเมือง
จากกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถูกคนร้ายใช้อาวุธทำร้ายที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าปาล์มคอนโด 1 ภายในซอยบางนา-ตราด 19 แยก 15 ย่านบางนา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (19 ธ.ค.) ที่ สน.บางนา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรืออี้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.บางนา และ พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ ธารินทร์ พนักงานสอบผู้ชำนาญการ สน.บางนา เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดี
นายแทนคุณกล่าวว่า ในวันนี้ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมใน 2 กรณี คือ 1 .ยืนยันเวลาที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นคนแรกที่ได้รับการติดต่อจากแพทย์ ซึ่งรู้จักกันก่อนหน้านี้ว่าเช็กเอกสารผู้บาดเจ็บถูกทำร้ายว่าเป็นนายราเมศจึงได้โทรศัพท์หาตน ส่วนกรณีที่ 2 คือ เหตุจูงใจในการทำร้ายร่างกายนายราเมศ โดยมีทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมือง เนื่องจากนายราเมศทำงานเรื่องกฎหมายให้พรรคประชาธิปัตย์อยู่ และก่อนหน้านี้เคยให้ข้อมูลกับตนว่าคนคอยสะกดรอยตามมากว่า 2 เดือนแล้ว หลังจากทำคดีให้กับพรรคประชาธิปัตย์ และส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมือง
นายแทนคุณเปิดเผยว่า นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โทรศัพท์มาสอบถามและแสดงความเป็นห่วงนายราเมศ สำหรับอาการนายราเมศล่าสุดนั้นคาดว่าในวันนี้จะสามารถออกจากห้องไอซียูได้แล้ว แต่จะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ต่อไปหรือไม่คงต้องปรึกษากับทางญาติอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.กัญชลกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในรัศมี 1 กิโลเมตรใกล้กับที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่ามีกล้องอยู่ 7 ตัว และได้ตรวจสอบไปบางแล้ว ส่วนกล้องบางจุดเป็นของเอกชน จึงต้องรอทางเจ้าของอนุญาตก่อน สำหรับพยานเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำไปทั้งหมด 6 ปาก เป็นพยานในที่เกิดเหตุและญาติผู้เสียหาย ส่วนเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุและหลบหนีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ปูพรมหาอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ คาดว่าคนร้ายอาจจะทิ้งไว้ในบริเวณใกล้เคียงก็เป็นได้
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รอง ผบก.น.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนายราเมศถูกทำร้ายร่างกายยบาดเจ็บสาหัส โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ท.คำรณวิทย์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คดีนี้เป็นคดีที่อุกอาจมากเพราะนายราเมศ เป็นทนายความของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตำรวจเร่งสืบสวนหาคนร้ายให้ได้โดยเร็ว การที่เรียกประชุมนั้นเพื่อมาดูพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมกับวางกรอบในการสืบสวนหาตัวคนร้าย ส่วนกล้องวงจรปิด (cctv) ทั้งหมด จะไล่ตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเช้าที่นายราเมศออกเดินทางไปที่ใดบ้าง และจะเก็บรายละเอียดของพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
“สำหรับการติดตามสืบสวนก็จะให้ชุดสืบสวนของ 191, ของโรงพัก, บก.น.5 และของ บก.สส.บช.น.ร่วมคลี่คลายคดีนี้ เพราะฉะนั้นต้องเก็บหลักฐานทั้งหมดว่ามีใครติดตามนายราเมศมาไหมหรือมาดักซุ่มทำร้าย ทั้งนี้ได้ตั้งประเด็นไว้ทุกประเด็นไม่ได้ตัดประเด็นไหนออก” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ระบุ
ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า ส่วนประเด็นทางการเมืองก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่ตั้งไว้ เพราะนายราเมศก็เป็นนักการเมือง ซึ่งปัจจุบันมีการขัดแย้งทางการเมืองสูง อีกประเด็นคือเรื่องส่วนตัว โดยนายราเมศเองก็เป็นทนายความ และจะไปดูรายละเอียดที่ผ่านมาว่านายราเมศไปว่าความมีคู่กรณีเป็นอย่างไร
พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวอีกว่า สำหรับลักษณะตำหนิรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายจะนำไปสเกตช์ภาพเพื่อความชัดเจนต่อไป รวมทั้งจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร นอกจากนี้ อาคารที่เกิดเหตุปกติจะมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ดูแล 2 คน แต่ได้สอบไปแล้ว 1 คน เหลืออีก 1 คน ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้ทุกประเด็นซึ่งต้องสอบให้ชัดเจนทุกประเด็น
พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่นายราเมศไปเรียกร้องให้ดำเนินการทางวินัยต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กรณีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีติดยศให้นั้นเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ทั้งนี้มองว่าลักษณะคนร้าย 2 คนที่ก่อเหตุลงไปใช้เหล็กตีแต่ผิดสังเกตว่าคนขับต้องจอดจักรยารนยนต์แล้วไปเตะซ้ำเหมือนกับว่ามีลักษณะโกรธแค้นกันมาก่อนหรือเปล่า
“ขณะนี้สอบพยานไป 6 ปากแล้ว และจะเรียกสอบอีกหลายปากส่วนที่ว่านายราเมศไปแจ้งความนั้นยังไม่ได้แจ้งเป็นเรื่องเป็นราวแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินีไปดูแลความปลอดภัยนายราเมศที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์นั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลตามปกติ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เร่งรัดจับคนร้ายโดยเร็ว เพราะ ผบ.ตร.ได้สั่งการมา เพราะนายราเมศเป็นคนสาธารณะด้วย” พล.ต.ต.อิทธิพลระบุ
ขณะที่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รร.นรต.) อ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในคดีทำร้ายร่างกายนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ว่าตนได้กำชับให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ให้ตั้งทีมงานสืบสวนสอบสวนไปดำเนินการสอบสวนหาพยานหลักฐานและสั่งการให้ทำด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้ขอเวลาในการสืบสวนหาหลักฐาน เบื้องต้นสั่งการให้ พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 จัดกำลังดูแลนายราเมศขณะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนคนในพรรคประชาธิปัตย์คนอื่นๆ หากรู้สึกไม่ปลอดภัยและขอกำลังตำรวจมาจะพิจารณาเป็นรายกรณี