xs
xsm
sm
md
lg

"มาร์ค"ห่วงจับแพะคดี"ราเมศ" ตร.โดดป้อง"แจ๊ด" ปัดไม่เกี่ยวประเด็น"แม้ว"ติดยศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"อภิสิทธิ์"ขอบคุณ ผบ.ตร. เร่งคดี "ราเมศ" ถูกทำร้าย รับกังวลจับแพะ พร้อมดักคอตำรวจอย่าเดินตามธง "กูเกิ้ลเหลิม" ด้าน"อี้"ให้ปากคำ เชื่อโยงการเมือง "บิ๊กแจ๊ด"เรียกประชุมเร่งทำคดี สั่งเช็กกล้องวงจรปิดล่าคนร้าย ไม่ตัดประเด็นส่วนตัว การเมือง ขณะที่ รอง ผนช.น. ปัดไม่น่าเกี่ยวประเด็นร้องเรียนให้ "แม้ว"ติดยศนาย ตั้งข้อสังเกตคนร้ายน่าจะโกรธ จึงเตะซ้ำ

วานนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ระบุว่า อีก 2-3 วัน จะได้ตัวคนร้าย ที่ลอบทำร้ายนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ต้องขอบคุณ เพราะถ้าทำความจริงให้ปรากฎ ก็จะได้แก้ปัญหา และปราบไม่ให้ความรุนแรงลุกลามขึ้น ส่วนจะเป็นการจับแพะมาหรือไม่นั้น คงต้องดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนว่ามีพยานหลักฐานสนับสนุนอย่างไร ส่วนกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ตนคิดว่าให้ผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่ทำงานดีกว่า เพราะหากทำงานตามรองนายกฯ เดี๋ยวจะมีปัญหา

"จะเป็นการชี้นำการทำงานของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ตนคิดว่าอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า ต้องดูต่อไป เพราะเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสรุปอะไร ต้องมีหลักฐานมาแสดง หากไม่เป็นไปตามความจริง ก็จะทราบเอง จึงอยากขอเรียกร้องความเป็นมืออาชีพจากข้าราชการทุกฝ่าย รวมถึงกระบวนการยุติธรรม และความมั่นคง"นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า พื้นที่ที่เกิดเหตุอยู่ในความรับผิดชอบของ ผบช.น. ซึ่งอาจถูกมองว่าเป็นคู่กรณีกันกับนายราเมศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องพิสูจน์ความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ ซึ่งพรรคได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้แล้ว ส่วนจะเกิดจากกรณีที่นายราเมศ ยื่นคดี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กรณียอมรับว่าไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศเพื่อให้ประดับยศให้หรือไม่ ตนไม่ทราบ

**"มาร์ค"รุดเยี่ยมเผยอาการดีขึ้น

นายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยม นายราเมศ พร้อมด้วยนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และนายอิศรา สุนทรวัฒน์ ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎ์ว่า ภาพรวมอาการของนายราเมศดีขึ้น มีการตอบสนอง พยายามพูด และแสดงออกมาขึ้น แต่ก็ต้องใช้เวลาซักระยะในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย ส่วนปัญหาที่กะโหลกศีรษะร้าว ต้องใช้เวลารักษาอีกซักระยะ แต่ขณะนี้ แพทย์ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว อาการดวงตาที่มี เลือดคลั่ง และบวมนั้นลดลง

ส่วนด้านคดีความ ได้มีการเรียกพยานไปสอบหลายปาก ซึ่งเห็นว่าเจ้าหน้าที่ต้อง ทำทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา เพราะเชื่อว่ามีหลักฐานและพยานชัดเจน อีกทั้งที่ผ่านมา ก็ทราบว่านายราเมศ ถูกข่มขู่ คุกคามตั้งแต่เข้าทำคดีของพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนเรื่องการย้ายนายราเมศ เพื่อไปพักรักษาที่อื่น เนื่องจากกังวลถึงความปลอดภัยนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกับญาติของนายราเมศ เพราะเห็นตรงกันว่าน่าจะรักษาอาการให้ดีขึ้นกว่านี้ก่อน

**สภาทนายฯจี้เร่งจับคนร้าย

นายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า สภาทนายความ ขอเรียกร้องให้ผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจควรต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ด้านกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ควรให้ความช่วยเหลือตามภารกิจในด้านการให้ความคุ้มครองและชดใช้ค่ารักษาพยาบาล ค่าสินไหมทดแทน ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ทั้งนี้ สภาทนายความพร้อมที่จะส่งทนายความผู้เชี่ยวชาญในคดีไปร่วมให้ความช่วยเหลือ เสนอแนะ และแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด

***"อี้"ให้ข้อมูลเชื่อโยงการเมือง

ที่ สน.บางนา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.บางนา และ พ.ต.ต.ยุทธศิลป์ ธารินทร์ พนักงานสอบผู้ชำนาญการ สน.บางนา เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในคดี

นายแทนคุณกล่าวว่า ได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมใน 2 กรณี คือ 1.ยืนยันเวลาที่เกิดเหตุ เนื่องจากเป็นคนแรกที่ได้รับการติดต่อจากแพทย์ และ 2.เหตุจูงใจในการทำร้ายร่างกายนายราเมศ โดยมีทั้งเรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมือง เนื่องจากนายราเมศ ทำงานเรื่องกฎหมายให้พรรคประชาธิปัตย์อยู่ และก่อนหน้านี้ เคยให้ข้อมูลกับตนว่าคนคอยสะกดรอยตามมากว่า 2 เดือน หลังจากทำคดีให้กับพรรคประชาธิปัตย์ และส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากเรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมือง

ด้านพ.ต.อ.กัญชล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในรัศมี 1 กิโลเมตรใกล้กับที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่ามีกล้องอยู่ 7 ตัวและได้ตรวจสอบไปบ้างแล้ว ส่วนกล้องบางจุดเป็นของเอกชน จึงต้องรอทางเจ้าของอนุญาตก่อน สำหรับพยานเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำไปทั้งหมด 6 ปาก เป็นพยานในที่เกิดเหตุและญาติๆ ผู้เสียหาย ส่วนเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุและหลบหนีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ปูพรมหาอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและคาดว่าคนร้ายอาจจะทิ้งไว้ในบริเวณใกล้เคียงก็เป็นได้

***"บิ๊กแจ๊ด"เรียกประชุมตามคดี

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 2 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รองผบก.น.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนายราเมศ ถูกทำร้ายร่างกายยบาดเจ็บสาหัส โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวภายหลังการประชุมว่า คดีนี้เป็นคดีที่อุกอาจมาก เพราะนายราเมศเป็นทนายความของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตำรวจจะเร่งสืบสวนหาคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนการที่เรียกประชุม เพื่อมาดูพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมกับวางกรอบในการสืบสวนหาตัวคนร้าย ส่วนกล้องวงจรปิดทั้งหมด จะไล่ตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเช้าที่นายราเมศ ออกเดินทางไปที่ใดบ้าง และจะเก็บรายละเอียดของพยานหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

สำหรับการติดตามสืบสวน ก็จะให้ชุดสืบสวนของ 191 , ของโรงพัก , บก.น.5 และของ บก.สส.บช.น. ร่วมคลี่คลายคดีนี้ เพราะฉะนั้นต้องเก็บหลักฐานทั้งหมดว่ามีใครติดตามนายราเมศมาไหมหรือมาดักซุ่มทำร้าย ทั้งนี้ ได้ตั้งประเด็นไว้ทุกประเด็นไม่ได้ตัดประเด็นไหนออก

***ตำรวจไม่ทิ้งประเด็นการเมือง

ด้านพล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า ประเด็นทางการเมืองก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่ตั้งไว้ เพราะนายราเมศก็เป็นนักการเมือง ซึ่งปัจจุบันมีการขัดแย้งทางการเมืองสูง อีกประเด็น คือ เรื่องส่วนตัว โดยนายราเมศเองก็เป็นทนายความและจะไปดูรายละเอียดที่ผ่านมาว่านายราเมศ ไปว่าความมีคู่กรณีเป็นอย่างไร

ส่วนลักษณะตำหนิรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายจะนำไปสเก็ตภาพเพื่อความชัดเจนต่อไป รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นยี่ห้ออะไร รุ่นอะไร นอกจากนี้ อาคารที่เกิดเหตุ ปกติจะมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ดูแล 2 คน ได้สอบไปแล้ว 1 คน เหลืออีก 1 คน และขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้ทุกประเด็น ซึ่งต้องสอบให้ชัดเจนทุกประเด็น

***ปัดไม่น่าเกี่ยวกรณี"แม้ว"ติดยศ

พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวต่อว่า กรณีประเด็นที่นายราเมศไปเรียกร้องให้ดำเนินการทางวินัยกับพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กรณีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีติดยศให้นั้น เป็นเรื่องที่นานมาแล้ว มองว่าลักษณะคนร้าย 2 คนที่ก่อเหตุลงไปใช้เหล็กตี แต่ผิดสังเกตว่าคนขับต้องจอดรถจักรยานยนต์แล้วไปเตะซ้ำเหมือนกับว่ามีลักษณะโกรธแค้นกันมาก่อนหรือเปล่า

“ขณะนี้สอบพยานไป 6 ปากแล้วและจะเรียกสอบอีกหลายปาก ส่วนที่ว่านายราเมศไปแจ้งความนั้น ยังไม่ได้แจ้งเป็นเรื่องเป็นราวแต่อย่างใด โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ไปดูแลความปลอดภัยนายราเมศที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลตามปกติ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เร่งรัดจับคนร้ายโดยเร็ว เพราะ ผบ.ตร. ได้สั่งการมา เพราะนายราเมศเป็นคนสาธารณะด้วย”พล.ต.ต.อิทธิพล ระบุ

***"อดุลย์"กำชับอีกทำคดีให้ไว

ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (รร.นรต.) อ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในคดีทำร้ายร่างกายนายราเมศว่า ตนได้กำชับให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ให้ตั้งทีมงานสืบสวนสอบสวนไปดำเนินการสอบสวนหาพยานหลักฐานและสั่งการให้ทำด้วยความรวดเร็ว ทั้งนี้ ขอเวลาในการสืบสวนหาหลักฐาน เบื้องต้นสั่งการ พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว ผบก.น. 5 ให้จัดกำลังดูแลนายราเมศขณะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนคนในพรรประชาธิปัตย์คนอื่นๆ หากรู้สึกไม่ปลอดภัยและขอกำลังตำรวจมาจะพิจารณาเป็นรายกรณี
กำลังโหลดความคิดเห็น