xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

มั่นใจ“ขี้ข้า”ครองเมือง-“นช.แม้ว”เหิมจ้อสดช่อง 11

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี เป็นประธานกล่าวเปิดการแข่งขันมวยไทยวอริเออร์ส ที่มาเก๊าฟิชเชอร์แมนวอล์ก เขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีน ถ่ายทอดสอทางช่อง 11 เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. 2555
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -หลังจากใช้ความอำมหิตสยบ “ม็อบ เสธ.อ้าย”ให้จบลงอย่างง่ายดายภายในวันเดียว เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา “นช.แม้ว” ทักษิณ ชินวัตร คงจะประเมินแล้วว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาว น่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปได้อีกนาน อดีตนายกฯ ผู้มีสถานภาพเป็นนักโทษหนีคดีผู้นี้ จึงได้แสดงพฤติกรรมท้าทายขื่อแปบ้านเมืองอย่างเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา นช.ทักษิณ ชินวัตร ได้ไปเป็นประธานเปิดการแข่งขันชกมวยไทย วอร์ริเออร์ส ที่เขตบริหารพิเศษมาเก๊า ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดมายังประเทศไทย ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 หรือ เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์

ในงานนั้น นช.ทักษิณ ได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 แต่ได้ถือโอกาสที่ควรจะมีแต่เรื่องมงคลนี้ ในการแก้เกมทางการเมืองให้ตัวเอง ด้วยการโต้ข้อกล่าวหาเรื่องความไม่จงรักภักดี

โดยเฉพาะการแก้ตัวว่า คลิปเสียงของเขาที่มีการนำไปเปิดในที่ชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม เมื่อวันที่ 24 พ.ย.นั้น เป็นคลิปเสียงตัดต่อ ซึ่งก็ถูก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม ตอบโต้กลับในวันต่อมาว่า เป็นคลิปเสียงที่มีการกล่าวข้อความหมิ่นเบื้องสูงจริง ที่ตัดออกไป ก็มีแต่คำหยาบคายเกินไปเท่านั้น

นอกจากนี้ นช.ทักษิณ ยังอ้างอีกว่า สาเหตุที่เขาต้องหนีคุกออกไปเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศ ก็เพราะคดีที่ถูกตัดสินจำคุกนั้นมาจากการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 แล้วตั้งคนที่เป็นปฏิปักษ์กับตนเอง คือ คตส.มาเป็นคนทำสำนวนคดี

ซึ่งก็เป็นการพูดความจริงเพียงเสี้ยวเดียวอีกตามเคย นั่นเพราะคดีซื้อขายที่ดินย่านรัชดา ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินให้จำคุก นช.ทักษิณ เป็นเวลา 2 ปีนั้น พฤติการณ์ที่นำไปสู่การถูกดำเนินคดีเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2546 ก่อนการรัฐประหาร 3 ปี และมีผู้ไปแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่ต้นปี 2547 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจดองคดีเอาไว้ เพราะนายกรัฐมนตรีขณะนั้นยังชื่อ ทักษิณ ชินวัตร

ส่วนคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ(คตส.) ที่ นช.ทักษิณ อ้างว่า คณะรัฐประหารเอาคนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อตัวเขามาเป็นนั้น โดยข้อเท็จจริง คตส.แต่ละคนเป็นนักวิชาการและนักกฎหมาย ที่ไม่ได้มีผลประโยชน์ส่วนตัวขัดแย้งกับ นช.ทักษิณ แม้แต่น้อย

ใน คตส.ไม่มีใครเป็นคู่แข่งทางการเมือง หรือเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับ นช.ทักษิณ ถึงแม้ว่าหลายคนได้เคยวิพากษ์วิจารณ์ นช.ทักษิณเมื่อครั้งเป็นนายกฯ มาก่อน แต่ก็เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมฉ้อราษฎร์บังหลวงของ นช.ทักษิณ เพื่อปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่วิพากษ์วิจารณ์เพื่อหวังผลประโยชน์เข้าตัวเองหรือพวกพ้อง

การกล่าวอ้างเช่นนั้นของ นช.ทักษิณ จึงเป็นการแก้ตัวแบบข้างๆ คูๆ เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากข้อกล่าวหา และกล่อมสาวกเสื้อแดงให้ยังจงรักภักดีกับตนเท่านั้น

การนำปัญหาส่วนตัวของคนเองมาปะปนกับการกล่าวถวายพระพรนั้น ไม่บังควรอย่างยิ่ง แต่ นช.ทักษิณก็ไม่ยี่หระ ไม่สนใจว่าการกระทำแบบนี้จะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทหรือไม่ ยังคงเหิมเกริมนำเอาคำโกหกมากล่าวอ้างปะปนกับคำถวายพระพร โดยมีสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ถ่ายทอดสดออกไปทั่วประเทศ

ปัจจัยที่ทำให้ นช.ทักษิณอหังการและฮึกเหิมถึงเพียงนี้ ก็เพราะมีน้องสาวเป็นนายกฯ และยอมเป็นหุ่นให้เขาเชิดไปทางไหนก็ได้

ที่สำคัญคือ นช.ทักษิณมีลิ่วล้อบริวารกระจายอยู่ตามองคาพยพต่างๆ ทั้งในทำเนียบรัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม รัฐสภา และกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง ที่พร้อมทำงานให้ แม้จะเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง เพื่อแลกเปลี่ยนกับลาภ ยศ ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ตอบแทน

ยิ่งเมื่อคนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล้ายอมรับว่า ตนเองเป็น “ขี้ข้าทักษิณ” แล้วได้เป็นใหญ่เป็นโตอยู่ในทำเนียบรัฐบาล นายใหญ่ไว้วางใจให้เป็นรองนายกฯ อันดับ 1 ทำหน้าที่เป็นนายกฯ ในยามที่นายกฯ ตัวจริงไม่อยู่ ก็ยิ่งมีคนที่พร้อมจะประกาศตัวเป็นขี้ข้าทักษิณกันอย่างเซ็งแซ่

การออกทีวีช่อง 11 ของนักโทษชาย เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. โดยมี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และประธานสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก ยืนขนาบข้างซ้าย พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ กรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนขนาบข้างขวา นั้น เป็นการจัดเตรียมกันไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน

ผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในรัฐบาลและช่อง 11 ต้องถูกสอบสวนเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะนี่คือการเอาสถานีโทรทัศน์ที่ดำเนินงานโดยเงินภาษีของประชาชนไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของคนบางคน

และยังมีความผิด ฐานไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการจับกุมบุคคลที่กำลังหลบหนีโทษตามคำพิพากษาของศาล และหลบหนีหมายจับคดีทุจริตตลอดจนคดีก่อการร้ายอีกหลายคดี

งานนี้ ถ้าจะว่ากันให้ถึงที่สุด ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ตำรวจ อัยการ และกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องถูกดำเนินคดียาวกันเป็นหางว่าว

แต่ เวลาผ่านมาหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นเพราะกลไกรัฐที่เกี่ยวข้องกับการรักษากฎหมายล้วนแต่มี “ขี้ข้าทักษิณ” ควบคุมอยู่

ขณะเดียวกัน ตามหน้าสื่อต่างๆ ขี้ข้าทักษิณ ก็เรียงหน้ากันออกมา เอาสีข้างเข้าถูแก้ต่างให้นายใหญ่กันสลอน โดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เลขาธิการคณะกรรมการจัดการแข่งขันชกมวยในวันนั้น ออกมาพลีชีพเพื่อตัดตอนความผิดไม่ให้ลุกลามไปยังเครือข่ายบริวารอื่นๆ ของนายใหญ่ ว่า ตนเป็นคนเชิญ นช.ทักษิณมาเอง ในฐานะที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาของตน และขอโทษข้าราชการช่อง 11 ทุกคน เพราะสิ่งที่ทำไม่ได้คาดการณ์ไว้

ส่วน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อ้างว่า ตนไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาหรือไม่ โดยได้มีการเตรียมแผนไว้ 2 ทาง คือทางแรกจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เปิดงาน แต่ถ้าไม่มา ตนก็จะทำหน้าที่ในการเปิดงานเอง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าจะเดินทางมา

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคนในรัฐบาลไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ทั้งหมดเป็นเรื่องของภาคเอกชนที่มาทำสัญญาเช่าเวลาล่วงหน้ากับช่อง 11 เพื่อขอถ่ายทอดสด ขณะเดียวกัน ทางช่อง 11 ก็ไม่ทราบล่วงหน้าว่าใครจะมาเป็นประธานจัดการแข่งขัน

ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย นช.ทักษิณ อ้างว่า นายใหญ่ของตนแค่ไปแสดงความจงรักภักดีตามที่พสกนิกรชาวไทยในต่างประเทศทำกันทั่วไป ทั้งยังปกป้องนายใหญ่ว่า ไม่ใช่นักโทษหลบหนีคดี เพราะ นช.ทักษิณเจอคดีหลังการรัฐประหาร ซึ่งนักประชาธิปไตยไม่ควรยอมรับ จึงควรจะเรียก พ.ต.ท.ทักษิณว่า ผู้รับเคราะห์กรรมถูกเล่นงานโดยการรัฐประหารเท่านั้น

ด้านนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า เรื่องนี้จะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้าบางฝ่ายไม่คิดหยุมหยิมสร้างประเด็นมาโจมตี ค้านทุกเรื่อง

นายประชายังกล้าแถว่า ที่เรียกทักษิณว่าเป็นนักโทษนั้น น่าจะเป็นความผิดปกติทางจิต เพราะทักษิณยังไม่เคยติดคุกเป็นเพียงผู้ต้องหา ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ว่า ทักษิณนั้น ถูกศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว

ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ก็อ้างว่า ถ้าถามในแง่สิทธิเสรีภาพของมนุษย์ ใครจะพูดที่ไหนก็ได้หากให้โอกาสเราพูดและรัฐธรรมนูญเราก็รับรองในเรื่องสิทธิเสรีภาพ ตราบสิ่งที่พูดไม่ได้ทำลายความมั่นคง

ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ หัวโจกคนเสื้อแดง อ้างว่า การที่คนไทยในต่างประเทศร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ใช่เรื่องแปลก และยังเลี่ยงบาลีว่า นช.ทักษิณไม่ได้ใช้เวทีนี้โจมตีทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม แค่ชี้แจงถึงความบริสุทธิที่ถูกกระทำโดยคณะรัฐประหารเท่านั้น

เห็นได้ชัดเจนว่า การโผล่หน้าออกอากาศสดทางช่อง 11 ของ นช.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ไม่บังควร ไม่เหมาะสม และผิดกฎหมาย แต่เหล่าบรรดาขี้ข้าทักษิณ ก็พร้อมใจกันออกมาทำหน้าที่ปกป้องนายใหญ่และเครือข่ายของพวกตนกันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

ด้วยเหตุนี้แล้ว มีหรือที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร จะไม่กระทำการเหิมเกริมอย่างอื่นอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น