ASTVผู้จัดการรายวัน-กระทรวงพลังงานเคาะขยับราคาเอ็นจีวีอีก 2.78 บาทต่อกก. จากเดิม 10.50 บาทต่อกก. เป็น13.28บาท/กก. ตามขั้นบันไดเริ่มก.พ.56ยกเว้นรถสาธารณะที่ยังอุ้มต่อ 2 บาท/ก.ก. เปิดช่องก่อหนี้! ใช้บัตรเครดิตเป็นส่วนลดคงเดิม
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้สรุปแนวทางปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV แล้ว โดยจะปรับอีก 2.78 บาทต่อกก. จากเดิมที่ 10.50 บาทต่อกก. เป็น 13.28 บาทต่อกก. โดยจะทยอยปรับราคาในเดือนก.พ.2556 แต่ในส่วนของรถยนต์สาธารณะทั้งรถเมล์ สามล้อ แท็กซี่ รถตู้ รัฐยังคงอุดหนุนราคาให้ 2 บาทต่อกก. โดยสามารถใช้บัตรเครดิตพลังงานเป็นส่วนลดคงเดิม
“กระทรวงพลังงานจะนำแนวทางปรับราคาเอ็นจีวี เสนอที่ประชุมคณะกรรมนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ซึ่งจะเริ่มทยอยปรับราคาได้พร้อมกับการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในเดือนก.พ.2556 ส่วนแนวทางการปรับราคาจะทยอยปรับ อาจเป็นรายเดือนๆ ละ 50สต./กก.ก็ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะกำหนดระยะเวลาอีกครั้ง”นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาปรับราคาเอ็นจีวี ได้นำข้อมูลต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่ต้องนำเข้ามาพิจารณาทำให้แยกราคาเอ็นจีวีเป็น 2 แนวทาง คือ แยกตามพื้นที่ตั้งของปั๊มเอ็นจีวีตามแนวท่อก๊าซและนอกแนวท่อก๊าซฯ โดยแนวทางแรกจะไม่นำเอาราคาแอลเอ็นจีมาคำนวณ และแนวทางที่สองนำมาคำนวณรวม แต่กระทรวงพลังงานเลือกแนวทางที่เอ็นจีวีมีราคาถูกที่สุด
คือ การแยกต้นทุนแอลเอ็นจีออกจากต้นทุนเนื้อก๊าซและเฉลี่ยราคาขายปลีกเอ็นจีวีเป็นราคาเดียว ซึ่งทำให้มีราคาขายปลีกเท่ากับ 12.41 บาท/กก. รวมกับภาษีมูลค่าจะทำให้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 13.28 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ปตท.ไปจัดทำแผนการขยายปั๊มเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการ รวมทั้งแก้ปัญหาปริมาณก๊าซฯ ขาดแคลน เพราะเท่าที่หารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถแท็กซี่ ไม่ข้ดข้องเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี แต่ขอให้มีเอ็นจีวีอย่างเพียงพอ ไม่รอคิวนานและมีปั๊มเอ็นจีวีครอบคลุมทั่วประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมา ต้องเสียเวลาในการเติมเอ็นจีวีนานเกินไป ทั้งปัญหาก๊าซฯ หมด หรือปั๊มอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้มีต้นทุนมากขึ้น แต่ถ้าปรับขึ้นราคาและสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้สรุปแนวทางปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV แล้ว โดยจะปรับอีก 2.78 บาทต่อกก. จากเดิมที่ 10.50 บาทต่อกก. เป็น 13.28 บาทต่อกก. โดยจะทยอยปรับราคาในเดือนก.พ.2556 แต่ในส่วนของรถยนต์สาธารณะทั้งรถเมล์ สามล้อ แท็กซี่ รถตู้ รัฐยังคงอุดหนุนราคาให้ 2 บาทต่อกก. โดยสามารถใช้บัตรเครดิตพลังงานเป็นส่วนลดคงเดิม
“กระทรวงพลังงานจะนำแนวทางปรับราคาเอ็นจีวี เสนอที่ประชุมคณะกรรมนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ซึ่งจะเริ่มทยอยปรับราคาได้พร้อมกับการปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในเดือนก.พ.2556 ส่วนแนวทางการปรับราคาจะทยอยปรับ อาจเป็นรายเดือนๆ ละ 50สต./กก.ก็ได้ ซึ่งหลังจากนี้จะกำหนดระยะเวลาอีกครั้ง”นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาปรับราคาเอ็นจีวี ได้นำข้อมูลต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่ต้องนำเข้ามาพิจารณาทำให้แยกราคาเอ็นจีวีเป็น 2 แนวทาง คือ แยกตามพื้นที่ตั้งของปั๊มเอ็นจีวีตามแนวท่อก๊าซและนอกแนวท่อก๊าซฯ โดยแนวทางแรกจะไม่นำเอาราคาแอลเอ็นจีมาคำนวณ และแนวทางที่สองนำมาคำนวณรวม แต่กระทรวงพลังงานเลือกแนวทางที่เอ็นจีวีมีราคาถูกที่สุด
คือ การแยกต้นทุนแอลเอ็นจีออกจากต้นทุนเนื้อก๊าซและเฉลี่ยราคาขายปลีกเอ็นจีวีเป็นราคาเดียว ซึ่งทำให้มีราคาขายปลีกเท่ากับ 12.41 บาท/กก. รวมกับภาษีมูลค่าจะทำให้ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 13.28 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ปตท.ไปจัดทำแผนการขยายปั๊มเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการ รวมทั้งแก้ปัญหาปริมาณก๊าซฯ ขาดแคลน เพราะเท่าที่หารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการรถบรรทุกและรถแท็กซี่ ไม่ข้ดข้องเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี แต่ขอให้มีเอ็นจีวีอย่างเพียงพอ ไม่รอคิวนานและมีปั๊มเอ็นจีวีครอบคลุมทั่วประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมา ต้องเสียเวลาในการเติมเอ็นจีวีนานเกินไป ทั้งปัญหาก๊าซฯ หมด หรือปั๊มอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้มีต้นทุนมากขึ้น แต่ถ้าปรับขึ้นราคาและสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี
