“พงษ์ศักดิ์” หนุนเรกูเลเตอร์เดินหน้าเปิดประมูลไอพีพีรอบ 3 ขนาด 5,400 เมกะวัตต์เงินลงทุน 1.13 แสนล้านบาท 20 ธ.ค.นี้เปิดขายซองเอกสารเชิญชวนรับซื้อไฟจากเอกชน ก่อนเคาะประมูล มิ.ย. 56 ยันเป็นก๊าซฯ ทั้งหมดเหตุอิงตามนโยบายเดิม ส่วนการรับซื้อไฟจากพลังน้ำเพื่อลดสัดส่วนใช้ก๊าซฯ ให้ กฟผ.ไปพิจารณาในระยะยาว
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) ได้รายงานความคืบหน้าการเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่อิสระ หรือไอพีพี รอบ 3 ที่จะมีการเปิดขายซองเอกสารเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าเอกชน (RFP Package) วันที่ 20 ธันวาคม 2555 นี้ และเปิดให้ยื่นข้อเสนอ 12 มี.ค. 56 และจะมีการประมูลเพื่อคัดเลือกได้ในเดือน มิ.ย. 56
“การเปิดประมูลไอพีพีนั้นเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เดิมที่กำหนดไว้เป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือพีดีพี ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ซึ่งจะเปิดรับซื้อไฟจากก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงการผลิตทั้งหมดขนาด 5,400 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 6 โรง เงินลงทุนประมาณ 1.13 แสนล้านบาท” รมว.พลังงานกล่าว
อย่างไรก็ตาม นโยบายที่มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นอีก 10,000 เมกะวัตต์ โดยเฉพาะจากประเทศลาว และพม่านั้น เพื่อมาถ่วงดุลในการลดสัดส่วนการใช้ก๊าซฯ ลง เพื่อลดผลกระทบค่าไฟฟ้าในอนาคต เป็นเรื่องระยะยาวที่จะต้องใช้เวลาในการเจรจาซื้อขายนับ 10 ปี ดังนั้น การเปิดประมูลไอพีพีเรกูเลเตอร์ก็ยังคงต้องดำเนินการปกติต่อไป โดย กฟผ.จะต้องไปพิจารณากระจายความเสี่ยงด้านเชื้อเพลิงเพิ่มด้วยโดยเฉพาะถ่านหิน
พร้อมกันนี้ได้เร่งให้เรกูเลเตอร์พิจารณาแนวทางการบริหารกิจการท่อก๊าซธรรมชาติและสายส่งเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปี 2558 ที่จำเป็นจะต้องเปิดให้บุคคลที่ 3 มาใช้การบริการระบบท่อได้ด้วย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องไปหารือกับ บมจ.ปตท.ในฐานะที่เป็นเจ้าของท่อก๊าซฯ และ 3 การไฟฟ้าที่ดูแลระบบสายส่งไฟฟ้า
