“พงษ์ศักดิ์” ผวาอีก 2 ปีไฟส่อดับหลังสำรองไฟต่ำหากโรงไฟฟ้าเกิดไม่ทัน ขณะที่ค่าไฟอนาคตพุ่งปี๊ดหลังพึ่งก๊าซฯ 68% สั่ง กฟผ.ทำแผนรับมือ ทั้งซื้อไฟลาว-พม่าเพิ่ม
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนา “สแกนความพร้อมไฟฟ้าไทยรับ AEC” ซึ่งจัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่า ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและปรับแผนการผลิตและรับซื้อไฟใหม่เนื่องจากมีความวิตกถึงสำรองไฟที่ขณะนี้อยู่ที่ 16% จากการผลิตระดับ 3.2 หมื่นเมกะวัตต์ ขณะที่การใช้ไฟเฉลี่ยโตปีละ 8.95% หาก 2 ปีจากนี้การใช้โตแต่การผลิตเท่าไม่ทันจะทำให้สำรองต่ำมากเสี่ยงต่อความมั่นคง ขณะเดียวกัน ไทยใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟสูงถึง 68% และอนาคตจะต้องพึ่งการนำเข้าแอลเอ็นจีที่ราคาสูง ภาพรวมค่าไฟในอนาคตจะแพงขึ้น
ทั้งนี้ ได้มอบให้ กฟผ.ไปพิจารณาแนวทางที่จะลดผลกระทบค่าไฟ ได้แก่ 1. ขยายรับซื้อไฟจากต่างประเทศระยะยาว 20 ปี โดยเฉพาะพลังงานน้ำจากลาวเพิ่มเป็น 1 หมื่นเมกะวัตต์จาก 7 พันเมกะวัตต์ และพม่าเป็น 1 หมื่นเมกะวัตต์จากเดิม 1.5 พันเมกะวัตต์ โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนฮัตจี และท่าซาง 2. เน้นการผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้น โดยนำร่องในจังหวัดที่ประชาชนสนับสนุน เช่น จ.กระบี่ 3. พลังงานทดแทนที่จะต้องไม่กระทบค่าไฟที่มากจนเกินไป โดยเฉพาะแสงอาทิตย์จะเน้นส่วนของที่ติดตั้งในหลังคาบ้านและหลังคาโรงงานที่ขณะนี้กำลังหามาตรการส่งเสริมอยู่