กฟผ.เล็งเสนอยกเลิกประมูลไอพีพี หันซื้อไฟเพื่อนบ้านสนอง “เพ้ง”

กฟผ.เตรียมทบทวนแผนพีดีพี รับลูกนโยบาย รมว.พลังงานเพิ่มรับซื้อไฟฟ้าเพื่อนบ้านลดโรงไฟฟ้าก๊าซฯ เล็งเสนอ 2 ทางเลือกประมูลไอพีพี หรือยกเลิกสร้างโรงไฟฟ้าบางปะกง กับพระนครใต้ แต่ทางเลือกแรกจะมั่นคงกว่า พร้อมลุยลงทุน 2 แสนล้านบาทใน 5 ปี

นายพงษ์ดิษฐ พจนา รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. เปิดเผยว่า จะร่วมกับกระทรวงพลังงานพิจารณาทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือพีดีพี ในกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงานมีนโยบายให้เร่งเจรจาซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นเมกะวัตต์ โดยเฉพาะจากพลังน้ำเพื่อลดผลกระทบราคาก๊าซที่สูงซึ่งจะส่งผลกระทบค่าไฟแพง

ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนซื้อไฟฟ้าดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศเพิ่มจาก 15% เป็น 20% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ซึ่งจำเป็นต้องลดสัดส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่หรือปรับสัดส่วนโรงไฟฟ้าอื่นๆ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชนในอนาคต

โดยแนวทางการปรับลดสัดส่วนรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนนั้นกำหนดกรอบการพิจารณาไว้ 2 แนวทาง คือ 1. ยกเลิกการเปิดประมูลผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีกำลังการผลิตรวม 5,400 เมกะวัตต์ 2. ยกเลิกการลงทุนโรงไฟฟ้าบางปะกง และโรงไฟฟ้าพระนครใต้ของ กฟผ.ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างและอยู่ในแผนระยะยาวที่กำหนดไว้ในเบื้องต้น

“ส่วนตัวถ้ายกเลิกไอพีพีน่าจะทำให้เกิดความมั่นคงมากกว่าเมื่อเทียบกับการยกเลิกโรงไฟฟ้าของ กฟผ. เพราะจะทำให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.ต่ำกว่า 50% ทำให้เกิดความเสี่ยงหากเกิดกรณีฉุกเฉินในการสั่งการกำลังการผลิตไฟฟ้า” นายพงษ์ดิษฐกล่าว

สำหรับแผนลงทุนของ กฟผ.ในระยะ 5 ปี (2555-2560) จะใช้งบกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อนำไปลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแห่งใหม่วงเงิน 9 หมื่นล้านบาท และการลงทุนระบบสายส่งอีก 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2553-2573 (พีดีพี 2012)