xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ละครบทใหม่“ตู่-เหวง”กลบขี้“ชุดดำ”แฝง“แดง”ฆ่าทหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จตุพร พรหมพันธ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-สำหรับ จตุพร พรหมพันธ์ และ เหวง โตจิการ สองหัวโจกเสื้อแดง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ถ้าพูดดำเป็นขาว-พูดขาวเป็นดำไม่เป็น ดันทุรังบิดเบือนความจริงไม่เก่ง “นช.แม้ว”ทักษิณ ชินวัตร คงไม่ไว้ใจใช้งาน

นับตั้งแต่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)ได้เปิดเผยรายงานฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองในปี 2553 เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา ความจริงก็ถูกเปิดเผยออกมาว่า “ชายชุดดำ”ที่ลั่นกระสุนนัดแรกๆ ที่ทำให้เกิดการตายบริเวณแยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 นั้น ก็คือคนกลุ่มเดียวกันกับคนเสื้อแดงนั่นเอง

นอกจากนั้นยังมีการปรากฏตัวของชายชุดดำที่ออกมายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ทหารโดยการสนับสนุนช่วยเหลือของคนเสื้อแดง ที่บริเวณพระราม 4 บ่อนไก่ ถนนราชปรารภ ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม และภายในวัดปทุมวนาราม ในช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

ความจริงเหล่านี้ สวนทางกับสิ่งที่แกนนำคนเสื้อแดงพยายามบิดเบือนมาตลอดว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 นั้นไม่มีชายชุดดำเข้ามาเกี่ยวข้อง และการตายของผู้คนจำนวน 91 คนระหว่างการชุมนุม มาจาก “คำสั่งฆ่า”ของรัฐบาลในขณะนั้น

หลังจากการแถลงรายงานของ คอป.จบลง เครือข่ายบริวารทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ระดับหัวแถวยันปลายแถว ต่างออกมาปฏิเสธความจริงดังกล่าว และพยายามลดความน่าเชื่อถือของ คอป.ด้วยวิธีการต่างๆ นานา

ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) หน่วยงานที่รับผิดชอบทำสำนวนคดีการตาย 91 ศพ ก็ออกมารับลูก พยายามเบี่ยงเบนประเด็นเรื่องชายชุดดำว่ายังไม่มีหลักฐานชัดเจน ทั้งที่มีคนชุดดำบางคนถูกจับกุมและเคยให้การในสำนวนการสอบสวนคดีการตายของ พล.อ.รมเกล้า ธุวธรรมไว้แล้ว

เมื่อแก้ตัวไม่ออก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอก็ออกมาประกาศตั้งรางวัลให้ผู้แจ้งเบาะแสนำจับผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิตระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงจำนวน 7 ราย รายละ 1 ล้านบาท ส่วนคนเสื้อแดงก็ประกาศร่วมสมทบให้อีกหัวละ 1 ล้านบาท

ซึ่งก็ถูกมองว่า นี่เป็นเพียงการรับใบสั่งของใครมาเพื่อแก้เกี้ยว หลังจากที่นายธาริต ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า มุ่งสืบสวนสอบสวนแต่เฉพาะคดีที่คนเสื้อแดงเสียชีวิตเพื่อจะหาทางเอาผิดทหารและเชื่อมโยงไปถึงรัฐบาลชุดก่อน ขณะที่ในส่วนของคดีที่เจ้าหน้าที่เสียชีวิตกลับไม่ค่อยมีความคืบหน้าเท่าที่ควร

ทำให้นายธาริตต้องออกมาปฏิเสธว่า ตนไม่ได้สั่งตั้งค่าหัวล่าชายชุดดำ ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการเข้าใจผิดของสื่อเท่านั้น

เป็นอันว่าละครตบตาชาวบ้านบทนี้ใช้ไม่ได้ผล

เครือข่ายบริวารทักษิณ ชินวัตร จึงเริ่มละครบทใหม่ โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ได้ไปให้การต่อดีเอสไอเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา แล้วออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ได้ขอให้ดีเอสไอรวบรวมพยานหลักฐานภาพทีวีวงจรปิดของการเข้า-ออกในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) ช่วงการตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เนื่องจากตนได้ข้อมูลจากทหารแตงโมว่า มีชายชุดดำออกจากราบ 11 โดยใช้รถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นายจตุพรยังอ้างว่า เรื่องชายชุดดำเป็นการสร้างสถานการณ์ เพราะรู้ว่าการ์ดรักษาความปลอดภัยของ นปช.แต่งกายชุดดำเพื่อให้แตกต่างกับคนเสื้อแดง แต่ในกรณีสำนักข่าวต่างประเทศที่ถ่ายภาพคนชุดดำ 5 คน ในเหตุการณ์ 10 เม.ย.53 ถ้าถ่ายได้จริง ทำไมไม่นำออกอากาศในวันที่ 13 เม.ย.53 สัญชาตญาณความเป็นสื่อจะต้องออกเผยแพร่ทันที

เห็นได้ชัดว่า การออกมาให้ข้อมูลของนายจตุพรในครั้งนี้ เป็นความพยายามดิ้นหนีความจริงที่ คอป.ได้รายงานออกมา โดยเฉพาะรายงาน “พฤติการณ์ของคนชุดดำที่ใช้ความรุนแรงและอาวุธสงคราม โดยปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ชุมนุม” ในหน้า 157-161 นั้น ระบุชัดเจนถึงการที่คนชุดดำออกมายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่โดยมีการ์ด นปช.และคนเสื้อแดงให้การสนับสนุน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 10 เมษายน 2553 ซึ่ง คอป.ระบุว่า “ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหารจะถูกโจมตีด้วยระเบิด พบการปรากฏตัวและการใช้อาวุธของคนชุดดำ เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศพบคนชุดดำจำนวน 5 คนถืออาวุธปืนเล็กกลชนิดเอเค 47 เอ็ม 16 และเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 และปืนพก ในจานวนนี้มีผู้ใกล้ชิดกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล (เสธ. แดง) อยู่ด้วย โดยพบบริเวณปากซอยหลังร้านแมคโดนัลด์ที่เชื่อมต่อไปออกถนนตะนาวด้านหลังอาคารของสานักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ซอยหลังอาคารกองสลาก) และหลังเกิดเหตุระเบิดบริเวณถนนตะนาว และเวลาประมาณ 20.37 น. มีนักข่าวชาวต่างประเทศพบคนชุดดำถืออาวุธปืนเอเค 49 ในบริเวณเดียวกันและได้ถ่ายภาพไว้ด้วยและเวลาประมาณ 19.00 น. มีผู้พบเห็นรถตู้สีขาวขนคนชุดดำสองสามคนพร้อมอาวุธสงครามมาส่งที่บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยด้านร้านหนังสือเมืองโบราณและร้านเมธาวาลัย (ศรแดง)โดยมีการ์ด นปช. คอยห้อมล้อมเดินไปทางร้านแมคโดนัลด์ และห้ามมิให้ถ่ายรูป ขณะเดียวกันมีผู้ชุมนุมบางคนพูดว่า “ส่งคนมาช่วยแล้ว” และถูกการ์ด นปช. ห้ามไม่ให้พูด

นอกจากนี้ยังปรากฏภาพรถตู้สีขาวในกล้องวงจรปิดระบุเวลาประมาณ 20.29 น. บริเวณใกล้พื้นที่ชุมนุม และหลังจากเหตุการณ์ปะทะ เจ้าหน้าที่ทหารพบรถตู้สีขาวซึ่งมีกลุ่มคนชุดดำมีอาวุธสงครามโดยสารมาด้วยบริเวณวัดตรีทศเทพ และยังปรากฏภาพคนชุดดำถือเอ็ม 79 ยืนอยู่
ข้างรถตู้สีขาวจอดอยู่ในบริเวณที่มีผู้ชุมนุมอยู่”

นี่เป็นเพียงรายงานบางส่วนเกี่ยวกับชายชุดดำ ซึ่งแม้แต่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดงอีกคนหนึ่งก็ยังยอมรับกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ในระหว่างการชุมนุมเสื้อแดงปี 2553 ได้มีคนเสื้อแดงมาบอกกับตนเห็นว่ามีรถตู้สีขาวมาจอดที่ข้างธนาคารกรุงเทพ แยกคอกวัว โดยมีชายชุดดำ 6 คนลงจากรถ โดยมีผู้หญิงสั่งการให้เดินปะปนกับผู้ชุมชุมและให้ยิงทหารบริเวณที่ พล.อ.ร่มเกล้า ธุรธรรม เสียชีวิต และมีการเปลี่ยนชุดยิงสลับกัน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้คนเสื้อแดงที่เคยมาบอกข้อมูลดังกล่าวกับตนให้มาเป็นพยานในเรื่องนี้

เท่ากับว่า การปรากฏตัวของชายชุดดำบริเวณแยกคอกวัวในวันที่ 10 เมษายน 2553 เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่มีใครปฏิเสธได้อีกแล้ว นายจตุพรจึงพยายามเบี่ยงเบนประเด็นที่มาของชายชุดดำกลุ่มดังกล่าวว่า มาจากฝ่ายทหารนั่นเอง

เป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นอย่างชนิดที่เรียกว่าเอาสีข้างเข้าถู คิดว่าคนไทยจะลืมง่าย เพราะที่นายจตุพรอ้างว่า หากสำนักข่าวต่างประเทศถ่ายภาพชายชุดดำได้จริง ทำไมไม่นำมาเผยแพร่ทันทีนั้น ในข้อเท็จจริงมีการแพร่ภาพชายชุดดำตั้งแต่คืนวันเหตุแล้ว เป็นภาพวิดีโอของสำนักข่าวอัลญะซีเราะห์ และในวันต่อมาก็มีภาพนิ่งของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้ตอบโต้นายจตุพรว่า ถ้าใครจะฟังหรือเชื่อนายจตุพร ก็เชื่อไป เรื่องนี้ไม่มีความเป็นไปได้อยู่แล้ว ตนขี้เกียจจะไปตอบโต้ พูดไปกี่ครั้งก็เหมือนเดิม สำหรับในส่วนของชายชุดดำนั้น จะมีหรือไม่มี ตนไม่รู้ แต่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บล้มตายทั้งทหารและตำรวจ แล้วจะเป็นไปได้หรือไม่ตามที่นายจตุพรกล่าวมา อยากให้แยกแยะ คนไทยอย่าให้เขาชักจูงไปเรื่อยเปื่อย

ส่วน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบกบอกว่า เมื่อก่อนมีคนบางกลุ่มพยายามปฏิเสธว่าไม่มีชายชุดดำ แต่ในปัจจุบันมีข้อเท็จจริงที่หลายฝ่ายมิอาจปฏิเสธได้ว่ามีกลุ่มชายชุดดำ จึงมีความพยายามชี้นำความเชื่อของสังคมไปในทิศทางอื่นหรือทิศทางตรงข้ามความเป็นจริง เช่นพยายามทำให้เห็นว่าชายชุดดำมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่าคงจะต้องมีการพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวที่อ้างถึงด้วย เพราะหลายๆ ครั้งที่ผ่านมาไม่สามารถพิสูจน์ข้อมูลข้อเท็จจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม

พ.อ.วินธัยย้ำว่า ในช่วงที่มีการชุมนุมนั้น เราจะเห็นพฤติกรรมของกลุ่มชายชุดดำที่ต่อต้านและทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหารด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด โดยสังเกตได้ชัดเจนว่าระหว่างที่กลุ่มชายชุดดำปฏิบัติการ สามารถอยู่ร่วมในกลุ่มกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ด้วยความคุ้นเคยอย่างเปิดเผย อีกทั้งยังแสดงออกให้เห็นถึงการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการร่วมกันปฏิบัติการต่อต้านเจ้าหน้าที่ทหารอย่างชัดเจน

ด้วยตรรกะและข้อเท็จจริงดังกล่าว ละครตบตาของนายจุพรจึงใช้ไม่ได้ผลอีกเช่นเคย นพ.เหวง โตจิราการ จึงออกมารับไม้ต่อ ด้วยการยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นแสน ประธานกรรมาธิการกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้นำรายงานผลการศึกษาการชุมทางการเมืองปี 2552 มาเปิดเผยต่อสาธารณชน และจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อดีเอสไอเพื่อให้ดำเนินการเรียกข้อมูลดังกล่าวจากรัฐสภาด้วย

นพ.เหวงอ้างว่า รายงานดังกล่าวมีการตั้ง ส.ส.และ ส.ว.ขึ้นมาศึกษาตั้งแต่สมัยนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และมีผลการศึกษาออกมาแล้วแต่ไม่มีเผยแพร่การศึกษาออกมา

ทั้งยังอ้างอีกว่า ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2552 ยังมีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสงสัยหลายประการ อาทิ การเสียชีวิตของพลทหารอภินพ เครือสุข และกรณีพบศพชาย 2 ศพลอยอยู่เหนือน้ำเจ้าพระยา ท่าพระอาทิตย์ ในสภาพมือถูกมัดไพล่หลัง รวมทั้งคลิปเสียงคล้ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สั่งการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มคนเสื้อแดง

นพ.เหวงคงคิดว่าคนไทยความจำสั้นเช่นเดียวกับนายจตุพร จึงคิดจะกลบเกลื่อนความจริงอย่างมักง่าย นั่นเพราะเหตุการณ์ชุมนุมคนเสื้อแดงในปี 2552 นั้น ฝ่ายคนเสื้อแดงต่างหากที่เปิดฉากใช้ความรุนแรง ทั้งกรณีการบุกไปทำลายการประชุมอาเซียนซัมมิตที่พัทยา การทุบรถนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่กระทรวงมหาดไทย การยึดรถเมล์มาเผากลางกรุงร่วม 50 คัน การนำรถแก๊สไปข่มขู่ชุมชนแฝลตดินแดง การยิงก่อกวนชุมชนชาวมุสลิมย่านถนนเพชรบุรี และการยิงชาวบ้านนางเลิ้งเสียชีวิต 3 คน

ส่วนกรณีการตายของพลทหารอภินพ เครือสุข ทหารรับใช้ในบ้านพัก พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในขณะนั้น ฝ่ายคนเสื้อแดงพยายามสร้างประเด็นว่าเกิดจากการถูกฆาตกรรมเพราะไปล่วงรู้ความลับบางอย่าง แต่เพื่อนของพลทหารอภินพยืนยันว่า ลื่นล้มในห้องน้ำ ขณะที่ผลจากการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก็ไม่อาจระบุว่าได้เสียชีวิตจากการถูกตีหรือไม่

ขณะที่ศพชาย 2 คนที่ถูกพบเสียชีวิตในแม่น้ำเจ้าพระยา ใต้สะพานพระปิ่นเกล้าหลังจากไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงนั้น คนเสื้อแดงพยาพยามสร้างเป็นประเด็นว่าเกิดจากการกระทำของทหาร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าถูกฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากจักรยานยนต์ของทั้งสองหายไป รวมทั้งเพื่อนยังให้ข้อมูลว่าผู้ตายเป็นคนชอบส่งเสียงดังเวลาเมาและทำให้คนรอบข้างไม่พอใจ

ส่วนเรื่องคลิปเสียงของนายอภิสิทธิ์นั้น ได้ผ่านการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วพบว่าเป็นการนำเสียงของนายอภิสิทธิ์ในรายการนายกฯ อภิสิทธิ์พบประชาชนไปตัดต่อใหม่ เพื่อกล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์สั่งฆ่าคนเสื้อแดง

การที่ นพ.เหวงขุดประเด็นจากการชุมนุมปี 2552 ขึ้นมาเล่นอีกครั้ง จึงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนความใจของสังคมออกไปจากเรื่องชายชุดดำที่ปรากฏตัวในที่ชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 ซึ่งมัดคอแกนนำเสื้อแดงจนหนีไม่ออกแล้ว


 เหวง โตจิการ
กำลังโหลดความคิดเห็น