ASTVผู้จัดการรายวัน - "บิ๊กโอ๋"เผยนายกรัฐมนตรีอาศัยช่วงเดินทางไปสหรัฐฯ ขอโทษนาซาปมพลาดใช้สนามบินอู่ตะเภา รับโดนแซวกลับ ไปดวงจันทร์ง่ายกว่า "ประยุทธ์” แนะสื่อระวังเขียนข่าวกระทบมิตรประเทศ ด้านขุนค้อนระบุอภิปรายเรื่องนาซาตาม ม. 179จบแล้ว ไม่ต้องเอาเข้าสภาอีก
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (นาซา) ขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศว่า กองทัพไม่มีปัญหาอะไร ตนทำหน้าที่ดูแลเรื่องความมั่นคง ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว ขอร้องว่าอย่าทำให้มีประเด็น อย่าไปพูดซ้ำและอย่าไปคิดโน่นนี่ให้มากเรื่อง เพราะไม่มีอะไร หากเราพยายามผูกโยงกันจะเป็นการถ่วงประเทศ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านอยากดูเอกสารที่นาซาให้มาแผ่นเดียวนั้น เป็นรายละเอียดที่เหมือนเดิม ไม่ได้มีรายละเอียดใหม่ เพียงแต่คราวที่แล้ว เราไม่ได้ให้ทางนาซาเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ เพราะเรามีปัญหากันมาก เราอายทางนั้น
"คิดว่าประชาชนเข้าใจกันหมด มีแต่สื่อมวลชนที่ไม่เข้าใจ เพราะที่ผ่านมา มีการอธิบายไปมาก ขอให้ลงข่าวให้ตรง อย่าไปเขียนคาดว่า หรือเขียนว่าจะต้องไปแลกกับอะไร หากฟังเพียงนิดเดียวแล้วไปเต้นหมดก็ไม่ไหว ทั้งนี้รัฐบาล กระทรวง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องพูด ขอให้เชื่อบ้าง หากพูดแล้วดำเนินการไม่ตรงอย่างที่พูดค่อยมาฟาดฟันกัน ทางนาซาจะเข้ามาสำรวจชั้นบรรยากาศและเมฆเพื่อให้การพยากรณ์อากาศแม่นย้ำขึ้นในอนาคต โดยประเทศไทยไม่มีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้ ซึ่งเราก็ได้ประโยชน์ในส่วนนี้ เมื่อตอนที่นายกฯเดินทางไปประเทศสหรัฐฯ ได้ขอโทษกับทางสหรัฐฯแล้วในเรื่องการขอใช้พื้นที่ เขาบอกว่านาซาจะไปดวงจันทร์ ง่ายกว่ามาประเทศไทยเสียอีก ดังนั้น ขออย่าให้มีปัญหากันเลยในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีแต่ประโยชน์ ควรจะเลิกวิจารณ์กันได้แล้ว" รมว.กลาโหม กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐสภามีการพิจารณากรณีที่องค์การนาซ่าจะขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศว่า ขณะนี้ทางนาซ่ายังไม่ได้ทำเรื่องขอมา แต่เป็นเรื่องเดิม ทางสภาจึงได้มีการพูดคุยกัน ขออย่าห่วงใยเรื่องนี้กันมากนัก เพราะสื่อเขียนอะไรออกมาอาจเสียหาย และถ้าเขียนไม่ดีจะเสียทุกประเทศ และเสียมิตรทุกประเทศ การคบค้าสมาคมกับประเทศใดก็ตาม ต้องดูผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายเป็นสำคัญ และไม่มีผลกระทบต่อประเทศอื่น ซึ่งถือเป็นหลักการของความเท่าเทียม ความไว้วางใจซึ่งกันและกันที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้น หากเราจะพูดกับประเทศไหนต้องใช้หลักการเหล่านี้ ซึ่งกองทัพบก กระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลยึดถือแนวทางเหล่านี้ อะไรที่ยังไม่เกิดก็อยู่ในขั้นตอนการหารือ
“ถ้าเราเป็นห่วงอะไรก็มาพูดคุยกัน ทุกอย่างแก้ไขด้วยสัญญา ข้อกำหนด ข้อตกลงได้ ก็น่าจะจบแล้ว การทำสัญญาไม่น่าจะปกปิดได้ เพราะมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีหน่วยตรวจสอบ หากไม่เป็นไปตามสัญญาและข้อตกลงจะมีกลไกตรวจสอบ และคงไม่ให้ทำต่อ เมื่อประเทศหนึ่งทะเลาะกับประเทศหนึ่งเป็นเรื่องของเขา แต่ประเทศไทยต้องแสวงผลประโยชน์จากทุกประเทศ ไม่ใช่ว่า เขาทะเลาะกัน แล้วเราจะต้องคบหรือไม่คบประเทศนี้ คนละเรื่องกัน ดินแดนของใคร ใครอยากคบประเทศไทยก็มาคบ ดังนั้น ขอร้องอย่าเขียนอะไรให้เสียหาย เพราะสุดท้ายประเทศเราจะไม่ได้อะไรเลย รู้ว่า สื่อมวลชนหวังดีต่อประเทศชาติ แต่ต้องระวัง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องการอนุญาตให้นาซ่า เข้ามาดำเนินโครงการศึกษาการก่อตัวของเมฆที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAC4RS) ในประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 ซึ่งมีการปิดประชุมโดยไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ว่า ช่วงที่ปิดประชุม ตนไม่ได้ฟัง แต่กรณีที่รัฐบาลยื่นเรื่องขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 179 นั้น ไม่จำเป็นต้องมีการลงมติ เมื่อรัฐบาลเห็นว่าได้ฟังความเห็นพอสมควร แล้วก็ปิดประชุมได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการขอปิดอภิปรายแต่อย่างใด
"ตอนก่อนปิดประชุม ผมไม่ได้ติดตาม แต่ประเด็น คือ เมื่อรัฐบาลเห็นว่าได้ข้อมูลครบแล้วก็จบ เพราะไม่ต้องมีการลงมติ และไม่ต้องนำเรื่องเข้ามาสู่การพิจารณาอีก แต่หากจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเข้าตาม มาตรา 190 หรือไม่"นายสมศักดิ์กล่าว.
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (นาซา) ขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศว่า กองทัพไม่มีปัญหาอะไร ตนทำหน้าที่ดูแลเรื่องความมั่นคง ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว ขอร้องว่าอย่าทำให้มีประเด็น อย่าไปพูดซ้ำและอย่าไปคิดโน่นนี่ให้มากเรื่อง เพราะไม่มีอะไร หากเราพยายามผูกโยงกันจะเป็นการถ่วงประเทศ ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านอยากดูเอกสารที่นาซาให้มาแผ่นเดียวนั้น เป็นรายละเอียดที่เหมือนเดิม ไม่ได้มีรายละเอียดใหม่ เพียงแต่คราวที่แล้ว เราไม่ได้ให้ทางนาซาเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ เพราะเรามีปัญหากันมาก เราอายทางนั้น
"คิดว่าประชาชนเข้าใจกันหมด มีแต่สื่อมวลชนที่ไม่เข้าใจ เพราะที่ผ่านมา มีการอธิบายไปมาก ขอให้ลงข่าวให้ตรง อย่าไปเขียนคาดว่า หรือเขียนว่าจะต้องไปแลกกับอะไร หากฟังเพียงนิดเดียวแล้วไปเต้นหมดก็ไม่ไหว ทั้งนี้รัฐบาล กระทรวง หรือผู้ที่เกี่ยวข้องพูด ขอให้เชื่อบ้าง หากพูดแล้วดำเนินการไม่ตรงอย่างที่พูดค่อยมาฟาดฟันกัน ทางนาซาจะเข้ามาสำรวจชั้นบรรยากาศและเมฆเพื่อให้การพยากรณ์อากาศแม่นย้ำขึ้นในอนาคต โดยประเทศไทยไม่มีขีดความสามารถที่จะดำเนินการได้ ซึ่งเราก็ได้ประโยชน์ในส่วนนี้ เมื่อตอนที่นายกฯเดินทางไปประเทศสหรัฐฯ ได้ขอโทษกับทางสหรัฐฯแล้วในเรื่องการขอใช้พื้นที่ เขาบอกว่านาซาจะไปดวงจันทร์ ง่ายกว่ามาประเทศไทยเสียอีก ดังนั้น ขออย่าให้มีปัญหากันเลยในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีแต่ประโยชน์ ควรจะเลิกวิจารณ์กันได้แล้ว" รมว.กลาโหม กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรัฐสภามีการพิจารณากรณีที่องค์การนาซ่าจะขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศว่า ขณะนี้ทางนาซ่ายังไม่ได้ทำเรื่องขอมา แต่เป็นเรื่องเดิม ทางสภาจึงได้มีการพูดคุยกัน ขออย่าห่วงใยเรื่องนี้กันมากนัก เพราะสื่อเขียนอะไรออกมาอาจเสียหาย และถ้าเขียนไม่ดีจะเสียทุกประเทศ และเสียมิตรทุกประเทศ การคบค้าสมาคมกับประเทศใดก็ตาม ต้องดูผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายเป็นสำคัญ และไม่มีผลกระทบต่อประเทศอื่น ซึ่งถือเป็นหลักการของความเท่าเทียม ความไว้วางใจซึ่งกันและกันที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน ดังนั้น หากเราจะพูดกับประเทศไหนต้องใช้หลักการเหล่านี้ ซึ่งกองทัพบก กระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลยึดถือแนวทางเหล่านี้ อะไรที่ยังไม่เกิดก็อยู่ในขั้นตอนการหารือ
“ถ้าเราเป็นห่วงอะไรก็มาพูดคุยกัน ทุกอย่างแก้ไขด้วยสัญญา ข้อกำหนด ข้อตกลงได้ ก็น่าจะจบแล้ว การทำสัญญาไม่น่าจะปกปิดได้ เพราะมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีหน่วยตรวจสอบ หากไม่เป็นไปตามสัญญาและข้อตกลงจะมีกลไกตรวจสอบ และคงไม่ให้ทำต่อ เมื่อประเทศหนึ่งทะเลาะกับประเทศหนึ่งเป็นเรื่องของเขา แต่ประเทศไทยต้องแสวงผลประโยชน์จากทุกประเทศ ไม่ใช่ว่า เขาทะเลาะกัน แล้วเราจะต้องคบหรือไม่คบประเทศนี้ คนละเรื่องกัน ดินแดนของใคร ใครอยากคบประเทศไทยก็มาคบ ดังนั้น ขอร้องอย่าเขียนอะไรให้เสียหาย เพราะสุดท้ายประเทศเราจะไม่ได้อะไรเลย รู้ว่า สื่อมวลชนหวังดีต่อประเทศชาติ แต่ต้องระวัง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องการอนุญาตให้นาซ่า เข้ามาดำเนินโครงการศึกษาการก่อตัวของเมฆที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAC4RS) ในประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 ซึ่งมีการปิดประชุมโดยไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ว่า ช่วงที่ปิดประชุม ตนไม่ได้ฟัง แต่กรณีที่รัฐบาลยื่นเรื่องขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 179 นั้น ไม่จำเป็นต้องมีการลงมติ เมื่อรัฐบาลเห็นว่าได้ฟังความเห็นพอสมควร แล้วก็ปิดประชุมได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการขอปิดอภิปรายแต่อย่างใด
"ตอนก่อนปิดประชุม ผมไม่ได้ติดตาม แต่ประเด็น คือ เมื่อรัฐบาลเห็นว่าได้ข้อมูลครบแล้วก็จบ เพราะไม่ต้องมีการลงมติ และไม่ต้องนำเรื่องเข้ามาสู่การพิจารณาอีก แต่หากจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมอีกครั้ง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเข้าตาม มาตรา 190 หรือไม่"นายสมศักดิ์กล่าว.
