ASTVผู้จัดการรายวัน-กลุ่มกรีนยื่น กกต. สอบคุณสมบัติส.ส. “ยงยุทธ” เชื่อไม่เข้าข่ายรับอานิสงค์ พ.ร.บ.ล้างมลทินปี 50 ขณะที่เจ้าตัวส่ง "เด็จพี่" ถามกกต. ชี้แค่นี้ก็สง่างามสุดๆ แล้ว ด้าน ปชป. ตามจิกไม่เลิก ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ พร้อมเปิดปูมหลังซื้อที่ธรณีสงฆ์ เอี่ยวพี่ชายรมช.มหาดไทย และคนในรัฐบาลเพียบ กฤษฎีกาอุ้ม ยันได้รับการล้างมลทินแล้ว "เหลิม"ไล่ส่งแดงสุรินทร์อย่าเยอะ ยันเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวพรรค
นายจาตุรันต์ บุญเบญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยว่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 ( 6) และมาตรา 174 (4) หรือไม่ และการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยของนายยงยุทธในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นโมฆะหรือไม่
นายจาตุรันต์กล่าวว่า จากคำสั่งของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงมหาดไทย ที่มีมติไล่นายยงยุทธ ออกจากราชการกรณีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ และท้ายคำสั่งระบุว่า การลงโทษทางวินัยกับนายยงยุทธอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ล้างมลทิน 2550 แต่ทางกลุ่มกรีน เห็นว่า นายยงยุทธุไม่เข้าข่ายได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะนับแต่ อ.ก.พ. มีมติไล่ออก นายยงยุทธยังไม่ได้รับโทษบางส่วนหรือรับโทษทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์มาตรา 5 ของพ.ร.บ.ล้างมลทิน ดังนั้น การที่ อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยมีมติ ทำให้นายยงยุทธ ขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีและส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการที่ อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทย มีมติให้ไล่นายยงยุทธออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 30 ก.ย.2545 ทำให้น่าเป็นห่วงว่าการกระทำของนายยงยุทธในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลาหลังจาก 30 ก.ย.2545 ไม่ว่าจะเป็นการรับรองการส่งผู้สมัคร หรือการร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะมีผลให้เป็นโมฆะไปด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่า รัฐบาลอ้างว่า นายยงยุทธ เข้าข่ายได้รับการล้างมลทินตามพ.ร.บ.ล้างมลทินปี 2526 นายจาตุรันต์ กล่าวว่า ตรงนี้ เป็นความเห็นที่ต่างกัน โดยมีการหยิบยกกฎหมายคนละฉบับมาอ้าง ทำให้ประชาชนกำลังสับสน จึงอยากให้ กกต. ทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อสร้างความกระจ่างและเป็นบรรทัดฐาน
**มอบ”เด็จพี่”ถามคุณสมบัติกกต.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับมอบอำนาจจากนายยงยุทธ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส. ของนายยงยุทธ กล่าวว่า การยื่นในครั้งนี้ เพื่อให้ฝ่ายค้าน และประชาชน คลายความสงสัยในการทำหน้าที่ของนายยงยุทธ รวมถึงการแสดงสปิริตในการดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ ได้แนบเอกสารของที่ประชุม อ.ก.พ. ความเห็นของกฤษฎีกา และพ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ให้ กกต. พิจารณา และขอยืนยันว่านายยงยุทธ ไม่ถอดใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดเสียหาย ไม่เหมือนในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สั่งสลายการชุมนุมช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 98 ศพ และขอตั้งคำถามว่าการดำเนินการดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ จึงขอเรียกร้องฝ่ายค้านยุติการกดดัน เพราะเห็นว่าเป็นแค่เกมการเมือง หลังจากนี้ ขอให้รอการวินิจฉัยของ กกต. และเมื่อกกต. พิจารณาทุกอย่างก็ต้องจบ
เมื่อถามว่า นายยงยุทธ ควรยุติบทบาททางการเมืองก่อนที่กกต.จะพิจารณาแล้วเสร็จหรือไม่ เพื่อความสง่างาม นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เห็นว่าไม่จำเป็น และการมายื่น กกต. ในเรื่องนี้ ก็ถือเป็นความสง่างามของนายยงยุทธแล้ว โดยนายยงยุทธยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป เพราะกฤษฎีกาได้ให้แนวทางปฏิบัติไว้แล้ว เชื่อว่าไม่ว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ต้องฟังกฤษฎีกา เพราะถ้าหากฟังข้อเรียกร้องจากฝ่ายค้าน รัฐบาลก็ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง ทั้งนี้เชื่อว่านายยงยุทธ มีความสง่างามอยู่แล้ว เพราะไม่มีนักการเมืองคนไหนมาตรวจสอบตัวเอง เหมือนอย่างนายยงยุทธ
**ยันทำตามกฤษฎีกาส่งต่อกกต.
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติกับกกต. เนื่องจาก อยากให้เกิดความชัดเจนในข้อกฎหมายกับทุกฝ่าย และการยื่นครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ได้เป็นมติพรรคหรือคำสั่งจากใคร อีกทั้งเป็นการยื่นตรวจสอบก่อนพรรคฝ่ายค้านจะดำเนินการ เพื่อยืนยันว่าได้ทำตามกฤษฎีกาตีความไว้
**ปชป.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมว.ต่างประเทศเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ประชุมมีการหารือถึงเรื่องคุณสมบัติตำแหน่งของนายยงยุทธ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีมติจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้วินิจฉัยตำแหน่งของนายยงยุทธ และจะถามกระทู้สดกระทรวงมหาดไทย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 27 ก.ย.นี้
"ยืนยันการดำเนินการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เกมการเมือง เพื่อหวังทำลายนายยงยุทธ แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐานในการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น"นายองอาจกล่าว
นายองอาจกล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยและกระทรวงมหาดไทย พยายามออกมาปกป้อง นายยงยุทธ เพราะคดีที่ดินอัลไพน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในกระทรวงมหาดไทยและนักการเมืองหลายคนในรัฐบาลชุดนี้ เพราะเดิมที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์เป็นที่ดินของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่ทำพินัยกรรมบริจาคให้วัดอัยยิการาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2512 ต่อมาได้มีการขายที่วัดให้กับบริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 ม.ค.2533 โดยบริษัทอัลไพน์เรียลเอสเตทมีคนมีบทบาทอย่างสำคัญในรัฐบาล บางคนอยู่ในบ้านเลขที่ 111 หนึ่งในนั้น คือ พี่ชายรมช.มหาดไทยในปัจจุบัน และบริษัท อัลไพน์กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับ ที่เป็นของอดีตนายกรัฐมนตรีที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยใช้ชื่อแม่บ้าน คนขับรถ และรปภ. ซึ่งต่อมาในวันที่ 17 ส.ค. 2544 เปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นเป็นภรรยาอดีตนายกฯ และลูกๆ ทำให้ในปี 2545 มีความพยายามให้ที่ธรณีสงฆ์สามารถให้เอกชนเข้ามาซื้อขายได้
** "มาร์ค"จี้"ปู"จัดการปลด"ยงยุทธ"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการฟ้าวันใหม่ว่า นายยงยุทธ ขาดคุณสมบัติไม่มีความชอบธรรมที่จะปฏบัติหน้าที่ตรงไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะนั่งหัวโต๊ะ ครม. ตรวจน้ำท่วม หรือจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องเร่งแก้ปัญหานี้ ตนกับนายยงยุทธ โดยส่วนตัวไม่มีอะไรกันเลย ส่วนตัวก็เป็นคนน่ารัก แต่ว่าวันนี้บรรทัดฐานทางการเมืองมันต้องมี และควรจะทำตัวให้เป็นตัวอย่าง เมื่อมีกรณีเช่นนี้ ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง มันเป็นทางออกที่ดีที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องมีความรับผิดชอบ
**กฤษฎีกายัน"ยงยุทธ"ได้รับล้างมลทิน
ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวภายหลังการประชุมวิปรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีความเห็นให้ยืนยันตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยที่ประชุมเห็นว่า การเรียกร้องให้นายยงยุทธ ลาออกนั้น เป็นประเด็นการเมือง
ด้านนายนิพนธ์ ฮะกิมี รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า กรณีนายยงยุทธอยู่ในหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.2550 และคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้มีคำวินิจฉัยใหม่ในกรณีนายยงยุทธ แต่นำคำวินิจฉัยเดิมของคณะกรรมการกฤษฎีกามาเทียบเคียง โดยนำมาตรา 5 พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา พ.ศ.2530 ที่กำหนดให้ล้างมลทินแก่ผู้ถูกลงโทษ ซึ่งได้กระทำก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2530 และได้รับโทษทั้งหมดหรือบางส่วนไปแล้วก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2530 มาเทียบเคียง กรณีของนายยงยุทธก็เช่นเดียวกัน
** "เฉลิม"ตะเพิดแดงสุรินทร์อย่ากดดัน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี แดงสุรินทร์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) และพรรคเพื่อไทยให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายยงยุทธ ว่า ไม่เห็นด้วยกับแดงสุรินทร์ เพราะเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ หากเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยควรหารือภายในพรรคเพื่อหาข้อยุติ หรือประสานเรื่องผ่านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ ยืนยันว่านายยงยุทธ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม ที่จะทำหน้าที่ต่อไป
นายจาตุรันต์ บุญเบญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยว่า สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 ( 6) และมาตรา 174 (4) หรือไม่ และการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยของนายยงยุทธในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นโมฆะหรือไม่
นายจาตุรันต์กล่าวว่า จากคำสั่งของคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงมหาดไทย ที่มีมติไล่นายยงยุทธ ออกจากราชการกรณีทุจริตที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ และท้ายคำสั่งระบุว่า การลงโทษทางวินัยกับนายยงยุทธอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ล้างมลทิน 2550 แต่ทางกลุ่มกรีน เห็นว่า นายยงยุทธุไม่เข้าข่ายได้รับประโยชน์จากพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะนับแต่ อ.ก.พ. มีมติไล่ออก นายยงยุทธยังไม่ได้รับโทษบางส่วนหรือรับโทษทั้งหมด ตามหลักเกณฑ์มาตรา 5 ของพ.ร.บ.ล้างมลทิน ดังนั้น การที่ อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยมีมติ ทำให้นายยงยุทธ ขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีและส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งการที่ อ.ก.พ. กระทรวงมหาดไทย มีมติให้ไล่นายยงยุทธออกจากราชการ โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 30 ก.ย.2545 ทำให้น่าเป็นห่วงว่าการกระทำของนายยงยุทธในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลาหลังจาก 30 ก.ย.2545 ไม่ว่าจะเป็นการรับรองการส่งผู้สมัคร หรือการร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะมีผลให้เป็นโมฆะไปด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่า รัฐบาลอ้างว่า นายยงยุทธ เข้าข่ายได้รับการล้างมลทินตามพ.ร.บ.ล้างมลทินปี 2526 นายจาตุรันต์ กล่าวว่า ตรงนี้ เป็นความเห็นที่ต่างกัน โดยมีการหยิบยกกฎหมายคนละฉบับมาอ้าง ทำให้ประชาชนกำลังสับสน จึงอยากให้ กกต. ทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อสร้างความกระจ่างและเป็นบรรทัดฐาน
**มอบ”เด็จพี่”ถามคุณสมบัติกกต.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ได้รับมอบอำนาจจากนายยงยุทธ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส. ของนายยงยุทธ กล่าวว่า การยื่นในครั้งนี้ เพื่อให้ฝ่ายค้าน และประชาชน คลายความสงสัยในการทำหน้าที่ของนายยงยุทธ รวมถึงการแสดงสปิริตในการดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ ได้แนบเอกสารของที่ประชุม อ.ก.พ. ความเห็นของกฤษฎีกา และพ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ให้ กกต. พิจารณา และขอยืนยันว่านายยงยุทธ ไม่ถอดใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดเสียหาย ไม่เหมือนในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สั่งสลายการชุมนุมช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 98 ศพ และขอตั้งคำถามว่าการดำเนินการดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ จึงขอเรียกร้องฝ่ายค้านยุติการกดดัน เพราะเห็นว่าเป็นแค่เกมการเมือง หลังจากนี้ ขอให้รอการวินิจฉัยของ กกต. และเมื่อกกต. พิจารณาทุกอย่างก็ต้องจบ
เมื่อถามว่า นายยงยุทธ ควรยุติบทบาททางการเมืองก่อนที่กกต.จะพิจารณาแล้วเสร็จหรือไม่ เพื่อความสง่างาม นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เห็นว่าไม่จำเป็น และการมายื่น กกต. ในเรื่องนี้ ก็ถือเป็นความสง่างามของนายยงยุทธแล้ว โดยนายยงยุทธยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป เพราะกฤษฎีกาได้ให้แนวทางปฏิบัติไว้แล้ว เชื่อว่าไม่ว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ต้องฟังกฤษฎีกา เพราะถ้าหากฟังข้อเรียกร้องจากฝ่ายค้าน รัฐบาลก็ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง ทั้งนี้เชื่อว่านายยงยุทธ มีความสง่างามอยู่แล้ว เพราะไม่มีนักการเมืองคนไหนมาตรวจสอบตัวเอง เหมือนอย่างนายยงยุทธ
**ยันทำตามกฤษฎีกาส่งต่อกกต.
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ยื่นตรวจสอบคุณสมบัติกับกกต. เนื่องจาก อยากให้เกิดความชัดเจนในข้อกฎหมายกับทุกฝ่าย และการยื่นครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ได้เป็นมติพรรคหรือคำสั่งจากใคร อีกทั้งเป็นการยื่นตรวจสอบก่อนพรรคฝ่ายค้านจะดำเนินการ เพื่อยืนยันว่าได้ทำตามกฤษฎีกาตีความไว้
**ปชป.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมว.ต่างประเทศเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ว่า ที่ประชุมมีการหารือถึงเรื่องคุณสมบัติตำแหน่งของนายยงยุทธ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีมติจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้วินิจฉัยตำแหน่งของนายยงยุทธ และจะถามกระทู้สดกระทรวงมหาดไทย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 27 ก.ย.นี้
"ยืนยันการดำเนินการตรวจสอบของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เกมการเมือง เพื่อหวังทำลายนายยงยุทธ แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐานในการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น"นายองอาจกล่าว
นายองอาจกล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยและกระทรวงมหาดไทย พยายามออกมาปกป้อง นายยงยุทธ เพราะคดีที่ดินอัลไพน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในกระทรวงมหาดไทยและนักการเมืองหลายคนในรัฐบาลชุดนี้ เพราะเดิมที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์เป็นที่ดินของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ที่ทำพินัยกรรมบริจาคให้วัดอัยยิการาม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2512 ต่อมาได้มีการขายที่วัดให้กับบริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 19 ม.ค.2533 โดยบริษัทอัลไพน์เรียลเอสเตทมีคนมีบทบาทอย่างสำคัญในรัฐบาล บางคนอยู่ในบ้านเลขที่ 111 หนึ่งในนั้น คือ พี่ชายรมช.มหาดไทยในปัจจุบัน และบริษัท อัลไพน์กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับ ที่เป็นของอดีตนายกรัฐมนตรีที่จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยใช้ชื่อแม่บ้าน คนขับรถ และรปภ. ซึ่งต่อมาในวันที่ 17 ส.ค. 2544 เปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นเป็นภรรยาอดีตนายกฯ และลูกๆ ทำให้ในปี 2545 มีความพยายามให้ที่ธรณีสงฆ์สามารถให้เอกชนเข้ามาซื้อขายได้
** "มาร์ค"จี้"ปู"จัดการปลด"ยงยุทธ"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการฟ้าวันใหม่ว่า นายยงยุทธ ขาดคุณสมบัติไม่มีความชอบธรรมที่จะปฏบัติหน้าที่ตรงไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะนั่งหัวโต๊ะ ครม. ตรวจน้ำท่วม หรือจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรองนายกฯ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องเร่งแก้ปัญหานี้ ตนกับนายยงยุทธ โดยส่วนตัวไม่มีอะไรกันเลย ส่วนตัวก็เป็นคนน่ารัก แต่ว่าวันนี้บรรทัดฐานทางการเมืองมันต้องมี และควรจะทำตัวให้เป็นตัวอย่าง เมื่อมีกรณีเช่นนี้ ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง มันเป็นทางออกที่ดีที่สุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ต้องมีความรับผิดชอบ
**กฤษฎีกายัน"ยงยุทธ"ได้รับล้างมลทิน
ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวภายหลังการประชุมวิปรัฐบาล ว่า ที่ประชุมมีความเห็นให้ยืนยันตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยที่ประชุมเห็นว่า การเรียกร้องให้นายยงยุทธ ลาออกนั้น เป็นประเด็นการเมือง
ด้านนายนิพนธ์ ฮะกิมี รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า กรณีนายยงยุทธอยู่ในหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.2550 และคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่ได้มีคำวินิจฉัยใหม่ในกรณีนายยงยุทธ แต่นำคำวินิจฉัยเดิมของคณะกรรมการกฤษฎีกามาเทียบเคียง โดยนำมาตรา 5 พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา พ.ศ.2530 ที่กำหนดให้ล้างมลทินแก่ผู้ถูกลงโทษ ซึ่งได้กระทำก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2530 และได้รับโทษทั้งหมดหรือบางส่วนไปแล้วก่อนวันที่ 5 ธ.ค.2530 มาเทียบเคียง กรณีของนายยงยุทธก็เช่นเดียวกัน
** "เฉลิม"ตะเพิดแดงสุรินทร์อย่ากดดัน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี แดงสุรินทร์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) และพรรคเพื่อไทยให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายยงยุทธ ว่า ไม่เห็นด้วยกับแดงสุรินทร์ เพราะเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ หากเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยควรหารือภายในพรรคเพื่อหาข้อยุติ หรือประสานเรื่องผ่านนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ ยืนยันว่านายยงยุทธ เป็นผู้ที่มีความเหมาะสม ที่จะทำหน้าที่ต่อไป
