xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“สันดอน”เห็นแก่ได้“แก๊งแม้ว”เอาปรองดอง-แต่วีนรายงาน คอป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) แถลงข่าวสรุปผลรายงานการค้นหาความจริงเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2553 ของ คอป. ฉบับสมบูรณ์หลังครบวาระการทำงาน 2 ปี เมื่อ 17 ก.ย.2555
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เสียงกรีดร้องโหยหวนจากฝั่งบริวารของทักษิณ ชินวัตร ดังระงมไปทั่ว หลังจากคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ได้แถลงรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุมนุมคนเสื้อแดงปี 2553 เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา

นั่นเพราะเนื้อหาของรายงานที่ออกมานั้นสวนทางกับสิ่งที่ทักษิณ ชินวัตรและพวกพยายามโฆษณาชวนเชื่อต่อสาธารณชนมาตลอดโดยสิ้นเชิง

การชุมนุมของคนเสื้อแดงในปี 2553 นั้น ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำหนดขึ้น เพื่อพลิกเกมการเมืองกลับมามีอำนาจอีกครั้ง หลังจากการชุมนุมปี 2552 ประสบความล้มเหลว แม้จะชุมนุมใหญ่ล้อมทำเนียบรัฐบาล ตามด้วยการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา และก่อเหตุเผารถเมล์ไปหลายสิบคันในช่วงสงกรานต์เลือด แต่ก็ถูกสลายการชุมนุมไปในที่สุด และข้อหา “รัฐบาลฆ่าประชาชน”ที่พยายามโยนใส่รัฐบาลนายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในขณะนั้น ก็ขาดน้ำหนัก เมื่อไม่มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ยกเว้นชาวบ้านในย่านนางเลิ้งที่ถูกบุคคลไม่ทราบฝ่ายถือปืนเข้าไปยิงเอาดื้อๆ

การชุมนุมในปี 2553 จึงถูกจัดขึ้นอีกครั้ง และสามารถเดินเรื่องนำไปสู่การโยนข้อหา “รัฐบาลฆ่าประชาชน”ให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์เป็นผลสำเร็จ เมื่อมีผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 จำนวนทั้งสิ้น 98 คน แม้ว่าในจำนวนนี้จะมีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ-ประชาชนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมรวมอยู่ด้วย แต่ฝ่ายคนเสื้อแดงก็พยายามตอกย้ำวาทกรรมต่อเนื่องเพื่อให้สังคมทั่วไปเข้าใจว่า ทั้ง 98 คนเป็นผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตเพราะคำสั่งฆ่าของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์

แต่เมื่อรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ คอป.เปิดเผยออกมา ปรากฏว่า ใน 98 ศพนั้น ไม่ได้เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทั้งหมด แต่มีเจ้าหน้าที่ทหารถึง 8 คน ตำรวจ 2 คน และชาวสีลม 1 คน ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของ “ชายชุดดำ”ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มคนเสื้อแดง

รายงานของ คอป.ได้ระบุถึงการปรากฏตัวและการใช้อาวุธสงครามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ของกลุ่มชายชุดดำตามจุดต่างๆ ระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง ทั้งที่บริเวณแยกคอกวัว ในวันที่ 10 เมษายน,บริเวณสวนลุมพินีซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมของการ์ด นปช.,บริเวณแยกสารสิน-แยกเฉลิมเผ่า และบริเวณวัดปทุมวนาราม ในช่วงปฏิบัติการกระชับพื้นที่ตั้งแต่ต้นเดือนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553

รวมทั้งได้ระบุถึงความเกี่ยวข้องระหว่างชายชุดดำกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ฝึก “ทหารเสือพระเจ้าตาก”มาเป็นส่วนหนึ่งของการ์ด นปช.

ฝ่ายบริวารทักษิณ ชินวัตร พยายามปฏิเสธมาโดยตลอดว่า เหตุการณ์ชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองปี 2553 ไม่มีชายชุดดำเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือถ้ามีก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง รายงานของ คอป.ชิ้นนี้ จึงตอกหน้าแกนนำ นปช.และฝ่ายบริวารทักษิณเข้าอย่างจัง

ที่เสียหายใหญ่หลวงยิ่งกว่านั้นก็คือ การระบุถึงสาเหตุต้นตอของปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่บั่นทอนความสงบสุขของสังคมตลอดช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมานี้ ว่า มาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั่นเอง โดยเฉพาะการที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิดจากคดีซุกหุ้นภาคแรก เมื่อปี 2544 จนนำไปสู่การมีอำนาจทางการเมืองอย่างเบ็ดเสร็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ และทำให้ระบบตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ 2540 ต้องง่อยเปลี้ยเสียขาไปทุกองค์กร
นายคณิต ณ นคร ในฐานะประธาน คอป.ถึงกับมีข้อเสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียสละด้วยการอยู่ต่างประเทศไปตลอดและงดยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในประเทศไทยโดยสิ้นเชิง เพื่อนำไปสู่การปรองดองอย่างแท้จริง

ข้อเสนอเช่นนี้ ทำให้ทักษิณ ชินวัตร เสียหายทางการเมืองอย่างย่อยยับ เพราะแม้ว่า คอป.ถูกจัดตั้งขึ้นตามคำสั่งของรัฐบาลนายอภสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับรอง คอป.ไว้ในการแถลงนโยบายสำคัญต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2555 ข้อ 1 “นโบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก” ข้อ 1.1.3 ที่ระบุว่า “สนับสนุนให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ดำเนินการอย่างเป็นอิสระและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายอย่างเต็มที่ในการตรวจสอบและค้นหาความจริงจากกรณีความรุนแรงทางการเมือง การละเมิดสิทธิมนุษยชน การสูญเสียชีวิต บาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งความเสียหายทางทรัพย์สิน”

เพราะฉะนั้น หากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมินเฉนต่อข้อเสนอของ คอป. ก็เท่ากับเป็นการ“ตระบัดสัตย์”และแถลงเท็จต่อรัฐสภานั่นเอง

การกำหนดไว้ในนโยบายว่าจะสนับสนุนการทำงานของ คอป.จึงเป็นการเดินเกมที่พลาดของเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร และเป็นการพลาดเพราะความเห็นแก่ได้ถ่ายเดียว

นั่นเพราะท่าทีการทำงานของ คอป.ในช่วงตั้งแต่ปลายรัฐบาลนายอภสิทธิ์ถึงต้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ดูเหมือนจะเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายคนเสื้อแดง และทักษิณ ชินวัตร

เริ่มตั้งแต่การที่นายคณิตไปคุยกับแกนนำคนเสื้อแดงอย่างสนิทสนมเป็นกันเอง และนำมาซึ่งข้อเสนอให้รัฐบาลนายอภสิทธิ์ ใช้เงินกองทุนยุติธรรมในการประกันตัวคนเสื้อแดงที่ถูกจับกุมช่วงการเผาบ้านเผาเมืองออกมา

วันที่ 20 ก.ย.2554 หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ได้เดือนเศษ

นายคณิต ในฐานะประธาน คอป.ได้เข้ารายงานผลการทำงานต่อ ครม.เพื่อพิจารณาข้อเสนอแนะ 7 ประการ ซึ่งหลายข้อเป็นประโยชน์ต่อคนเสื้อแดง เช่น ให้เร่งรัดตรวจสอบว่าการแจ้งข้อหาและดำเนินคดีคนเสื้อแดงในช่วงการชุมนุมสอดคล้องกับพฤติการณ์แห่งการกระทำหรือไม่ และให้มีการปล่อยชั่วคราวตามสิทธิพื้นฐานของผู้ต้องหา

นอกจากนี้ ให้รัฐบาลควรเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทุกฝ่ายอย่างเร่งด่วน และต่อเนื่อง โดยไม่จำกัดเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบการเหตุการณ์ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.53 แต่ควรครอบคลุมถึงความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 เป็นต้น

ด้วยคาดหวังว่า การทำงานของ คอป.จะเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายตนมากขึ้น รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงตั้งนายวีระวงศ์ จิตต์มิตรภาพ ประธานและกรรมการผู้จัดการสำนักงานกฎหมายวีระวงค์, ชินวัฒน์ และเพียงพะนอ ซึ่งเคยเป็นทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นกรรมการ คอป.ด้วย

รวมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธาน เพื่อต่อยอดการทำงานของ คอป.ด้วย

ล่าสุดเมื่อวันที้ 11 ก.ย.2555 ที่ผ่านมา ครม.มีมติอนุมัติหลักการโครงการจัดเวทีประชาเสวนา หาทางออกประเทศไทย ตามที่ ปคอป.เสนอ พร้อมอนุมัติในหลักการให้ใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2556 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการ ในวงเงิน 90 ล้านบาท

นั่นเป็นสาเหตุให้ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำคนเสื้อแดง และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต้องรีบแจ้นไปยื่นหนังสือต่อนายยงยุทธ ไม่ให้นำรายงานของ คอป.ไปดำเนินการต่อ แถมยังห้ามแปลเป็นภาษาต่างประเทศ โดยอ้างว่ารายงานชิ้นนี้ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

นั่นเพราะข้อมูลในรายงานของ คอป.นั้นขัดแย้งสิ่งที่คนเสื้อแดงพยายามโฆษณาชวนเชื่อต่อสังคมโลกมาตลอดนั่นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น