xs
xsm
sm
md
lg

ซัดจำนำข้าวโกงทุกเม็ด รัฐบาลยังอ้างชาวนาได้ประโยชน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (6ก.ย.) ได้มีการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2555 : รวมพลังเปลี่ยนประเทศไทย โดยภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน 42 องค์กร โดยมีภาคเอกชนและหน่วยงานราชการเข้าร่วมอย่างคึกคัก
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวบรรยายหัวข้อ รวมพลังผลักดันการต่อต้านคอร์รัปชัน ให้เป็นวาระแห่งชาติ ว่า ต้องการให้ภาคประชาชนร่วมกันในการตรวจสอบปัญหาการคอร์รัปชันในประเทศให้มากขึ้น ตั้งแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องระดับเล็กๆ ไปจนถึงผู้บริหารระดับสูงของประเทศ เช่น การจัดตั้งวินมอเตอร์ไซต์ รถแท็กซี่ การสร้างสนามบิน และโครงการใหญ่มูลค่ามหาศาล เพราะตอนนี้ผลโพลระบุ มีประชาชน 60-70 % มองว่าพฤติกรรมการทุจริตในประเทศเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มเยาวชนที่ต่ำกว่า 20 ปี จึงต้องการให้ผู้นำของประเทศให้ความสำคัญในการป้องกันและแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นให้มากขึ้น
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า เครือข่ายฯ จะให้ความสำคัญในการตรวจสอบโครงการบริหารจัดการน้ำ และการรับจำนำสินค้าเกษตรของรัฐบาล เพราะเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณมูลค่าหลายแสนล้านบาท โดยเฉพาะเรื่องของการจำนำข้าว ที่ภาครัฐไม่เปิดข้อมูลเกี่ยวกับการประมูล และการขายข้าวว่าขาดทุนเท่าไร และต้องใช้งบประมาณอย่างไรบ้าง เพราะเครือข่ายเข้าไปตรวจสอบยากมาก และยอมรับว่า ตอนนี้สังคมยังไม่ตื่นตัวต่อการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันนัก
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการสัมมนากลุ่มหัวข้อ จำนำพืชผลการเกษตร ได้รับความสนใจอย่างมาก และมีผู้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างหลากหลาย อาทิ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายสมพล เกียรติไพบูลย์ และ นายการุณ กิตติสถาพร อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงตัวแทนผู้ส่งออก โรงสีข้าว ชาวนา และเกษตรกร โดยได้สรุปปัญหาจากโครงการจำนำข้าว ทำให้ยอดส่งออกข้าวไทยลดลง จนเสียแชมป์ส่งออกโลก, เป็นการทำลายกลไกการค้าข้าวเพราะรัฐบิดเบือนรับจำนำที่สูง เกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ประเมินการขาดทุนเบื้องต้น 80,000-120,000 ล้านบาท และใช้งบประมาณสูงจนส่งผลให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพี เพิ่มสูง 50-60 % ของจีดีพี
นอกจากนี้ ได้มีการเสนอแนวทางการแก้ปัญหา โดยให้รัฐกำหนดราคารับจำนำต่ำกว่า หรือเท่ากับราคาตลาด กำหนดปริมาณรับจำนำ ไม่ใช่รับจำนำทุกเมล็ด และรัฐบาลควรดำเนินนโยบายประกันส่วนต่างราคาสินค้าเกษตร แทนโครงการรับจำนำ จะทำให้คุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้นมากกว่า และกลไกตลาดไม่ถูกบิดเบือน
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนา กล่าวว่า ชาวนาไม่ได้รับประโยชน์จากการจำนำอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะชาวนามีการเกี่ยวข้าวสด ทำให้มีความชื้นสูง และจำนำได้เพียงตันละ 12,000-13,000 บาท ไม่ได้มากถึง 15,000 บาท ขณะเดียวกันยังถูกนายทุนขึ้นค่าเช่าที่นามากถึง 100 % จากปีละ 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท ส่งผลให้ชาวนา 2.4 ล้านครัวเรือน ที่ต้องเช่านาได้รับความเดือดร้อน และยังเกิดการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาตามปราจีนบุรี เข้ามาวันละ 30 พ่วง หรือครั้งละหลายร้อยตัน โดยจ่ายเบี้ยใบ้รายทางอีกวันละหลายแสนบาท
ด้านนายจำเริญ ณัฐวุฒิ เจ้าของโรงสีข้าวเจริญพาณิชย์กำแพงแสน จำกัด กล่าวว่า การทุจริตเกิดขึ้นทุกระดับ เริ่มตั้งแต่ชาวนา ที่ยอมขายสิทธิ์ให้คนอื่นมาสวม โรงสีข้าวบางส่วนที่โกงความชื้นและน้ำหนักข้าว รวมทั้งคนที่มีอำนาจหน้าที่ในการเข้าไปตรวจสอบดูแล ขณะเดียวกัน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) มีการดึงเงินค้างจ่ายล่าช้า เพื่อสามารถนำเงินไปลงทุนอย่างอื่นได้
ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง กล่าวว่า ตอนนี้การคอร์รัปชันโครงการจำนำเกิดแล้ว 60-70% ก็ขอพระสยามเทวาธิราช ดลบันดาลให้คนมีการละอายแก่บาปบ้าง เพราะมีการปลอมใบประทวน หรือใบรับรองเกษตรกร และการโกงหักความชื้น เช่น โรงสีจ่ายเงินให้ชาวนาก่อน 1.2 หมื่นบาทต่อตัน แต่แจ้งกับธ.ก.ส.ว่า จ่าย 1.5 หมื่นบาท ได้กำไร 3,000 บาท ส่วนการประมูลข้าวมีบริษัทผู้ส่งออกบางรายเท่านั้นที่ได้รับการประมูล
นายการุณ กิตติสถาพร อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการทุจริตกันมาก เพราะอดีตจำนำราคารับซื้อข้าวต่ำกว่า หรือเท่ากับราคาตลาด เพื่อพยุงราคาข้าวในช่วงตกต่ำระยะสั้นๆ 2-3 เดือน เมื่อราคากลับสู่ภาวะปกติก็จะหยุด แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นการดึงราคาให้สูงขึ้น และเป็นการครอบงำตลาด จนทำให้ตลาดเสียหาย

**รัฐบาลอ้างยังไม่รู้ขาดทุนเท่าไร

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ (6 ก.ย.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี เรื่องการระบายข้าวของรัฐบาล ว่า 11 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่มีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล มีข่าวการทุจริต สวมสิทธิ์ข้าวต่างด้าวในไทย รวมทั้งข่าวความกังวลว่าจะทำลายอนาคตข้าวไทยอย่างยั่งยืนภายใต้การบริหารของรัฐบาล และนโยบายนี้เราสูญเสียความเป็นผู้นำของโลกในการส่งออกข้าว ความกังวลของภาระหนี้ และจะเป็นโครงการที่ขาดทุนมากที่สุด ดังนั้น อยากถามว่าในฤดูกาลที่ผ่านมาของโครงการ มีการรับซื้อเก็บสต็อกข่าวสารเท่าไร มีการระบายขายข้าวออกแบบจีทูจี หรือประมูลเมื่อปลายเดือนส.ค.นั้นไปเท่าไร
นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ชี้แจงว่า ฤดูกาลที่ผ่านมามีการจำนำข้าวทั้งนาปี นาปรัง ตัวเลขนั้นยังไม่ชัดเจน เพราะตัวเลขของข้าราชการยังมาไม่ถึง แต่บอกได้คร่าวๆ คือ ข้าวนาปีรับจำนำไป 6 ล้านกว่าตัน ส่วนข้าวนาปรัง 9-10 ล้านตัน โดยเป็นข้าวเปลือก ส่วนฤดูกาลที่จะเกิดขึ้นนั้น ยังไม่มีขั้นตอนที่ดำเนินการได้รับทราบ
สำหรับข้อมูลการขายข้าวแบบจีทูจีนั้น โดยทั่วไปเป็นความลับที่จะไม่เปิดเผยกัน เพราะมีข้อจำกัด และเงื่อนไขระหว่างประเทศ ในส่วนที่มีการเปิดประมูลไปกี่ครั้งนั้น ตอนนี้เปิดไป 4 ครั้งแล้ว ส่วนที่มีการประเมินกันว่า รัฐบาลนี้จะทำให้เสียหายไปกว่าแสนล้านบาทนั้น ความตั้งใจของรัฐบาลในการทำโครงการจำนำ เพื่อช่วยเหลือเกษกตร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ อาจเคยทำอีกแบบหนึ่ง ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ราคาอาจจะไม่ดีพอ รวมทั้งมีการขาดทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาทเช่นกัน
" การทำโครงการรับจำนำ ก็เพื่อยกระดับชาวนา เพราะตั้งแต่ทำมาราคาข้าวขยับตัวสูงขึ้น ชาวนาขายดีขึ้น ทั้งนี้หากโครงการรับจำนำสิ้นสุดลง และตัดรอบบัญชีได้ เราจะเห็นว่าขาดทุนมาก หรือน้อยเท่าใด ต้อนนี้ไม่สามารถประเมินได้ ว่าจะขาดทุนมากหรือน้อย ตอนนี้ที่รัฐบาลต้องทำคือ การระบายข้าวที่ต้องทำราคาให้เหมาะสมตามสภาวะที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการขาดทุนจะไม่มากมายเหมือนที่ท่านพูดมาแน่นอน" นายภูมิ กล่าว

**ไม่สนเสียแชมป์ ถ้าขายได้ราคาดี

นายอลงกรณ์ ถามต่อว่า รัฐบาลจะแก้สถานการณ์อย่างไรที่เราสูญเสียแชมป์การส่งออกในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลรับซื้อข้าวมาแล้วกว่า10 ล้านตัน แต่ระบายไปได้แค่ประมาณ 3หมื่นตัน รวมที่จะขายได้อีก 2.6 หมื่นตัน แล้วอีกกี่สิบปีจะขายข้าวในสต็อกได้หมด
ส่วนที่บอกว่าขายแบบจีทูจี และมีการประมูลไปแล้วกี่ตัน ซึ่งข้าวฤดูกาลใหม่ก็กำลังจะออก แล้วเราจะขายหมดได้อย่างไร รัฐบาลมีมาตรการอะไรในการระบายข้าว เพื่อให้สมดุลกับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น
รมช.พาณิชย์ ชี้แจงว่า แม้ไทยส่งออกข้าวมาเป็นอันดับ 1 หลายสิบปี แต่เนื่องจากจากอินเดีย มาผลิตข้าวขายและกำหนดราคาต่ำมาก ซึ่งการที่เรามีโครงการจำนำ เพื่อให้ราคาข้าวสูง จึงมีการชะลอการส่งออก ประเทศอินเดีย และเวียดนาม จึงมีปริมาณส่งออกมาก แต่ตนยังเชื่อว่าท้ายที่สุดเมื่อถึงสิ้นปี เราก็จะมีการส่งออกข้าวมากที่สุด เพราะกำลังจะระบายข้าวเพื่อส่งออกตอนท้ายปีนี้จำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าเราจะเป็นประเทศผู้ส่งออกที่สำคัญของโลก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการเป็นประเทศมหาอำนาจในการส่งออกข้าว ทั้งที่ชาวนาเรายังยากจนอยู่ ก็ป่วยการที่จะเป็นผู้ส่งออกข้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป้าหมายวันนี้คือ ทำให้ราคาข้าวดี เพราะเราไม่ใช่มูลนิธิขายข้าวถูก อีกต่อไป
นายภูมิ กล่าวต่อว่า เรื่องของการขายข้าวแบบจีทูจีนั้น มีข้อผูกพันระหว่างประเทศ ซึ่งการที่รัฐบาลได้มีการออกมาพูดว่ามีการขายข้าวกับประเทศทางโซนแอฟริกา เพราะเราไม่ได้ขายข้าวให้ประเทศในทางโซนนี้มานานมากแล้ว จึงอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ได้รู้ แต่ทางโกตดิวัวร์ หรือที่รู้จักกันว่า ไอวอรีโคสต์ ก็ได้มีการตำหนิเรามาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราได้มีความร่วมมือระหว่างประเทศที่ผลิตข้าวส่งออก ทั้ง เวียดนาม ไทย กัมพูชา ได้มีการพูดคุยกันเรื่องการส่งออก เพื่อไม่ให้มีการตัดราคากัน รวมทั้งให้ราคาข้าวไทยอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเหมาะสม

**ปชป.จี้นายกฯยุติจำนำข้าว

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกคณะรัฐมนตรี เงา (ครม.เงา) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ครม.เงา มีมติมอบหมายให้นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนยื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยตรงภายในสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้รัฐบาลยุติโครงการจำนำข้าวในทันที และหาวิธีช่วยเหลือเกษตกรในแนวทางอื่นแทน เพราะโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ที่จะเริ่ม ต.ค.นี้ ต้องใช้เม็ดเงินถึง 4.05 แสนล้านบาท เมื่อพิจารณาจากโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วในปีนี้ มีข้าวที่ค้างอยู่ในสต็อกถึง 7.5 ล้านตัน สามารถระบายออกไปได้เพียง 2.3 แสนตัน เท่ากับมีความเสียหายกว่า 1 แสนล้านบาท หากยังดึงดันดำเนินโครงการต่อไป ก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น