xs
xsm
sm
md
lg

“อลงกรณ์” ซัดจำนำข้าวขาดทุนยับ เสียผู้นำตลาด “ภูมิ” อ้างยึดรายได้ชาวนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
ส.ส.เพชรบุรี ปชป.ตั้งกระทู้สดจวกยับโครงการจำนำข้าว มีสต๊อกข้าวกว่า 10 ล้านตันแต่ระบายได้ไม่ถึงล้านตัน ซัดอีกกี่สิบปีจะขายหมด ด้าน รมช.พาณิชย์ อ้างไทยหลุดแชมป์ส่งออกข้าวไม่สำคัญเท่าชาวนาขายข้าวราคาดี ยันระบายข้าวหมดได้ทันสิ้นปี โวไทยจะกลับมาเป็นประเทศมหาอำนาจส่งออกเหมือนเดิม

วันนี้ (6 ก.ย.) นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่องการระบายข้าวของรัฐบาลว่า 11 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่มีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมีข่าวการทุจริต สวมสิทธิ์ข้าวต่างด้าวในไทย รวมทั้งข่าวความกังวลว่าจะทำลายอนาคตข้าวไทยอย่างยั่งยืนภายใต้การบริหารของรัฐบาลและนโยบายนี้เราสูญเสียความเป็นผู้นำของโลกในการส่งออกข้าว ความกังวลของภาระหนี้ และจะเป็นโครงการที่ขาดทุนมากที่สุด ดังนั้น อยากถามว่าในฤดูกาลที่ผ่านมาของโครงการมีการรับซื้อเก็บสต๊อกข่าวสารเท่าไหร่ มีการระบายขายข้าวออกแบบจีทูจี หรือประมูลเมื่อปลายเดือน ส.ค.นั้นไปเท่าไหร่

นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ชี้แจงว่า ฤดูกาลที่ผ่านมามีการจำนำข้าวทั้งนาปี นาปรัง ตัวเลขนั้นยังไม่ชัดเจน เพราะตัวเลขข้าราชการยังมาไม่ถึง แต่บอกได้คร่าวๆ คือ ข้าวนาปีรับจำนำไป 6 ล้านกว่าตัน ส่วนข้าวนาปรังรับจำนำไป 9-10 ล้านตัน โดยเป็นข้าวเปลือก ส่วนฤดูกาลที่จะเกิดขึ้นนั้นยังไม่มีขั้นตอนที่ดำเนินการได้รับทราบ โดยข้อมูลการขายข้าวแบบจีทูจีนั้น โดยทั่วไปเป็นความลับที่จะไม่เปิดเผยกัน เพราะมีข้อจำกัดและเงื่อนไขระหว่างประเทศ ในส่วนที่มีการเปิดประมูลไปกี่ครั้งนั้น ตอนนี้เปิดไป 4 ครั้งแล้ว ส่วนที่มีการประเมินกันว่ารัฐบาลนี้จะทำให้เสียหายไปกว่าแสนล้านบาทนั้น ความตั้งใจของรัฐบาลในการทำโครงการจำนำ เพื่อช่วยเหลือเกษกตรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์อาจเคยทำอีกแบบหนึ่งก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ราคาอาจจะไม่ดีพอ รวมทั้งมีการขาดทุนกว่า 6 หมื่นล้านบาท

“การทำโครงการรับจำนำก็เพื่อยกระดับชาวนา เพราะตั้งแต่ทำมาราคาข้าวขยับตัวสูงขึ้น ชาวนาขายดีขึ้น ทั้งนี้ หากโครงการรับจำนำสิ้นสุดลงและตัดรอบบัญชีได้ เราจะเห็นว่าขาดทุนมากหรือน้อยเท่าใด ต้อนนี้ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะขาดทุนมากหรือน้อย ตอนนี้ที่รัฐบาลต้องทำคือ การระบายข้าวที่ต้องทำราคาให้เหมาะสมตามสภาวะที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการขาดทุนจะไม่มากมายเหมือนที่ท่านพูดมาแน่นอน” นายภูมิกล่าว

นายอลงกรณ์ถามต่อว่า รัฐบาลจะแก้สถานการณ์อย่างไรที่เราสูญเสียแชมป์การส่งออกในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลรับซื้อข้าวมาแล้วกว่า 10 ล้านตัน แต่ระบายไปได้แค่ประมาณ 3 หมื่นตัน รวมที่จะขายได้อีก 2.6 หมื่นตัน แล้วอีกกี่สิบปีจะขายข้าวในสต๊อกได้หมด ส่วนที่บอกว่าขายแบบจีทูจีและมีการประมูลไปแล้วกี่ตัน ซึ่งข้าวฤดูกาลใหม่ก็กำลังจะออก แล้วเราจะขายหมดได้อย่างไร รัฐบาลมีมาตรการอะไรในการระบายข้าวเพื่อให้สมดุลกับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

รมช.พาณิชย์ชี้แจงว่า แม้ไทยส่งออกข้าวมาเป็นอันดับ 1 หลายสิบปี แต่เนื่องจากจากอินเดียมาผลิตข้าวขายและกำหนดราคาต่ำมาก ซึ่งการที่เรามีโครงการจำนำเพื่อให้ราคาข้าวสูง จึงมีการชะลอการส่งออก ประเทศอินเดีย และเวียดนามจึงมีปริมาณส่งออกมาก แต่ตนยังเชื่อว่าท้ายที่สุดเมื่อถึงสิ้นปีเราก็จะมีการส่งออกข้าวมากที่สุด เพราะกำลังจะระบายข้าวเพื่อส่งออกตอนท้ายปีนี้จำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าเราจะเป็นประเทศผู้ส่งออกที่สำคัญของโลก แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการเป็นประเทศมหาอำนาจในการส่งออกข้าว ทั้งที่ชาวนาเรายังยากจนอยู่ ก็ป่วยการที่จะเป็นผู้ส่งออกข้าวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป้าหมายวันนี้คือ ทำให้ราคาข้าวดี เพราะเราไม่ใช่มูลนิธิขายข้าวถูกอีกต่อไป

นายภูมิกล่าวต่อว่า เรื่องของการขายข้าวแบบจีทูจีนั้นมีข้อผูกพันระหว่างประเทศ ซึ่งการที่รัฐบาลได้มีการออกมาพูดว่ามีการขายข้าวกับประเทศทางโซนแอฟริกา เพราะเราไม่ได้ขายข้าวให้ประเทศในทางโซนนี้มานานมากแล้วจึงอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ได้รู้ แต่ทางโกตดิวัวร์ หรือที่รู้จักกันว่าไอวอรีโคสต์ ก็ได้มีการตำหนิเรามาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราได้มีความร่วมมือระหว่างประเทศที่ผลิตข้าวส่งออกทั้งเวียดนาม ไทย กัมพูชา ได้มีการพูดคุยกันเรื่องการส่งออกเพื่อไม่ให้มีการตัดราคากัน รวมทั้งให้ราคาข้าวไทยอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเหมาะสม

ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การส่งออกถือว่ามีความสำคัญ เพราะสุดท้ายรัฐบาลจะพายเรือในอ่าง เหมือนลิงแก้แห และท้ายที่สุดก็จะมาโกหกสีขาวอีก ท่านรู้ดีว่าราคาตลาดโลกเป็นอย่างไร เพราะไม่มีใครซื้อข้าวที่สูงกว่าราคาใจตลาดโลกอย่างน้อย 100 เหรียญแน่นอน สะท้อนว่าการเปิดประมูลข้าวจึงมีความสนใจจากประเทศผู้ซื้อที่ต่ำมากเพียง 30 กว่ารายเท่านั้น ก็ต้องถามว่าทำไมเขาไม่สนใจทั้งที่เป็นช่วงภาวะตลาดโลกไฮซีซันด้วย แต่กลับมีคนสนใจประมูลเพียงแค่ 1 ใน 3 ต้องใช้เวลาอีก 50 ปีถึงจะขายข้าวล็อตเก่ากว่า 10 ล้านตันหมด ดังนั้น อยากถามว่ารัฐบาลประเมินได้หรือไม่ว่าเราจะขาดทุนเท่าไหร่ เพราะบัญชีปิดแล้วในทางปฏิบัติ สำหรับฤดูกาล 54-55 ระบายไปแค่ 2 แสนกว่าตันยังไม่ถึงล้านจากทั้งหมด 10 ล้านตัน นอกจากนี้ มีการประเมินกันว่าจะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท แล้วรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ท่านประเมินตัวเลขจะขาดทุนเท่าไหร่

นายภูมิชี้แจงว่า เรื่องเงินหมุนเวียนในการรับจำนำข้าวนาปี นาปรัง ตอนช่วงนาปีใช้เงินเราใช้ไป 1.1 แสนล้านบาท ส่วนนาปรังใช้ไป1.4 แสนล้านบาท รวมแล้วแค่ 2 แสนกว่าล้าน จะบอกว่าขาดทุนเป็นแสนล้านบาท หรือจะเท่าไหร่นั้น เรายังไม่ปิดบัญชีเพราะข้าวยังไม่ได้ขายออก จึงยังไม่มีตัวเงินมาคำนวณว่าจะขายได้เท่าไหร่ หรือขาดทุนเท่าไหร่ ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่เหลือที่จะระบายข้าวช่วงท้ายปีจะมีการระบายเป็นจำนวนมาก ส่วนที่จะยกตัวเลขว่าขายได้แค่ 2 แสนกว่าตัน นั้น ก็ยังมีตัวเลขจากการขายแบบจีทูจีที่เปิดเผยไม่ได้ แต่เชื่อว่าเมื่อถึงท้ายปีสรุปแล้วเราจะเป็นผู้นำการส่งออกได้
กำลังโหลดความคิดเห็น