โกหกหน้าตายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โกหกสีขาวของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นับว่าเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะคนที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งต้องทำให้ประชาชนนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติเชื่อมั่น ยอมรับว่าโกหกในเรื่องการกำหนดเป้าหมายการส่งออกปีนี้ว่า จะขยายตัว 15 %

แต่เมื่อเจอกับโกหกหน้าตาย ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โกหกสีขาวของนายกิตติรัตน์กลายเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย ความเลวร้ายเทียบกันไม่ได้กับโกหกหน้าตายของนายบุญทรง

โกหกสีขาวของนายกิตติรัตน์นั้นเป็นการพูดโกหกในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น คือการขยายตัวของการส่งออกปีนี้ ซึ่งนายกิตติรัตน์พูดไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า จะถึง 15 % โดยที่ตัวเองก็รู้ว่า เป็นไปไม่ได้ แต่อ้างว่าต้องโกหกเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

ส่วนโกหกหน้าตายของนายบุญทรง เป็นการพูดถึงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ทุกคนรู้แล้วว่าผลคืออะไร แต่นายบุญทรงก็ยังโกหก พูดกลับดำเป็นขาวได้อย่างหน้าตาเฉย

ในการแถลงผลงานในรอบ 1 ปี ของกระทรวงพาณิชย์ในเรื่อง นโยบายจำนำข้าว นายบุญทรงอ้างว่า ในปีนี้ไทยจะยังคงรักษาแชมป์ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกไว้ได้แน่นอน ด้วยปริมาณการส่งออกที่ไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านตัน ขณะที่อินเดียในปีนี้ตั้งเป้าส่งออกไว้ที่ 8 ล้านตัน เวียดนาม 7 ล้านตัน อีกทั้งในด้านมูลค่าไทยยังคงเป็นแชมป์มูลค่าการส่งออกข้าวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยขายได้มากกว่าตันละ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่คู่แข่งอื่น ทั้งอินเดีย เวียดนาม ขายได้เฉลี่ยตันละกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น

ในขณะที่ตัวเลขจาก สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยซึ่งเป็นตัวเลขจริงที่เกิดขึ้นแล้วในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ไทยส่งออกข้าวรวม 3.45 ล้านตัน ปริมาณการส่งออกลดลงทุกตลาดรวมกันร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งขัน ส่วนมูลค่าส่งออกรวม 71,438 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้าที่มีมูลค่ารวมกว่า 107,644 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34 หากคิดเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงร้อยละ 35

ประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ 5 รายจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่าอินเดียส่งออกมากกว่าไทยเล็กน้อย โดยส่งออกได้ 3.61 ล้านตัน และเวียดนามส่งออกข้าวได้ 3.52 ล้านตัน

ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ประมาณ 3.05 ล้านตัน มูลค่ารวมประมาณ 50,000 ล้านบาท รวมแล้วตลอดปี 2555 ไทยจะส่งออกข้าวได้รวม 6.5 ล้านตัน ปริมาณส่งออกลดลงร้อยละ 39 มูลค่า
รวม 120,000 ล้านบาท จากที่ปี 2554 ส่งออกข้าวรวม 10.65 ล้านตัน ไทยจึงกลายเป็นผู้ส่งออกตกลงมาเป็นอันดับ 3 รอง จากอินเดีย และเวียดนาม ที่คาดว่าจะส่งออกได้มากถึง 8 และ 7 ล้านตัน ตามลำดับ

ตัวเลขคาดการณ์ปริมาณส่งออกปีนี้ ของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กับของนายบุญทรงต่างกัน 2 ล้านตัน ถ้าเชื่อคำพูดของนายบุญทรง ระยะเวลาที่เหลืออีก 3 เดือนกว่าๆ ไทยจะต้องส่งออกข้าวให้ได้อีก 5 ล้านตัน เพื่อให้ได้ปริมาณการส่งออกทั้งปี 8.5 ล้านตัน ที่นายบุญทรงอ้างว่าทำได้

หกเดือนที่ผ่านมา ส่งออกได้จริงเพียง 3.45 ล้านตัน แล้วหกเดือนที่เหลือ จะส่งออกให้ได้อีก 5 ล้านตัน โดยที่ผู้ส่งออกไม่มีคำสั่งซื้ออยู่ในมือเลย เพราะช้าวไทยแพงกว่าราคาตลาดโลกมาก เนื่องจากนโยบายรับซื้อข้าวตันละ 15,000 บาทของรัฐบาล นายบุญทรงคงคิดว่า จะหลอกคนไทยทั้งประเทศให้หลงเชื่อได้ง่ายๆ จึงกล้าโกหกหน้าตาย ว่า ไทยจะส่งออกข้าวได้ปีนี้ 8.51 ล้านตัน

เรื่องโกหกหน้าตาย เรื่องที่สอง คือกระทรวงพาณิชย์ชอบอ้างว่าถึงแม้ เอกชนจะไม่มีออร์เดอร์ขายข้าวในมือ แต่รัฐบาลมีสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ส่งออกข้าวได้ถึง 8.5 ล้านตันแน่ ในการแถลงผลงานกระทรวงพาณิชย์ครั้งนี้ก็เช่นกันที่นายบุญทรงอ้างว่ารัฐบาลได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี ไปแล้ว 6 สัญญา รวม 7.328 ล้านตัน แต่กระทรวงพาณิชย์ ไม่กล้าเปิดเผยรายละเอียดเลยว่าประเทศไหนซื้อไปบ้าง ราคาเท่าไร

ข้อมูลจากวงการค้าข้าวระบุว่า สัญญาซื้อขายข้างแบบจีทูจี แท้จริงแล้ว เป็นแค่ MOU ที่ไม่มีข้อผูกมัดเลยว่า จะต้องซื้อข้าวจากไทย ผู้ซื้อจะซื้อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับราคาขาย ข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งก็ไม่มีใครซื้อ ที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงไม่กล้าเปิดเผยว่า มีใครบ้างที่ซื้อข้าวจากรัฐบาลไทยแบบจีทูจีไปแล้ว แต่มักจะกล่าวอ้างลอยๆ ให้ประชาชนหลงเชื่อว่า รัฐบาลขายข้าวได้แล้ว

เรื่องโกหกหน้าตาย เรื่องที่สามคือ รัฐบาลจะไม่ขาดทุนมากอย่างที่ถูกกล่าวหา และมั่นใจว่า ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จนถึงไตรมาสสุดท้ายของปีหน้า กระทรวงพาณิชย์จะสามารถขายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 54/55 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 55 คิดเป็นเงินที่จะนำมาคืนรัฐบาลได้ไม่ต่ำกว่า 260,000 ล้านบาท จากงบประมาณที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทั้ง 2 ฤดูกาล ประมาณ 280,000 ล้านบาท

เอาเฉพาะแค่ การระบายข้าว 2.29 แสนตันในสต๊อกของรัฐบาลที่รับจำนำเข้ามาเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ขาดทุนไปแล้วรัฐตันละ 7,000 บาท ยังไม่รวมค่าเก็บรักษา ค่าเช่าโกดัง อีกเฉลี่ยแล้วรัฐจะขาดทุนจากการขายข้าวรอบนี้ 7,200 - 7,300 บาทต่อตัน และเมื่อคำนวณจากปริมาณข้าวที่รัฐบาลขายออกไป จะขาดทุนราว 1,650 ล้านบาท

รัฐบาลยังมีข้าวในโกดังอีก 10 ล้านตัน ถ้าขายได้หมด ก็จะขาดทุนเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท ยกเว้นโลกจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้น ประเทศผู้ปลูกข้าวทุกประเทศยกเว้นประเทศไทย ได้รับความเสียหายปลูกข้าวไม่ได้ เหลือประเทศไทยที่เดียวที่มีข้าวเก็บ จะตั้งราคาขายตันละ 1,000 เหรียญ ก็ยังไม่พอขาย เมื่อนั้นแหละ โกหกหน้าตายของนายบุญทรง จึงจะเป็นโกหกสีขาวได้

เรื่องการขาดทุนจากการรับจำนำข้าวนี้ มีตัวเลขชัดเจน จนกระทรวงพาณิชย์ไม่กล้ามั่วซึ่งๆ หน้าว่า จำนำข้าวปีนี้ไม่ขาดทุน ต้องใช้วิธีศรีธนญชัย ด้วยการบอกว่าจำนำข้าวปีนี้บวกกับปีหน้าจะไม่ขาดทุนมากอย่างที่ถูกกล่าวหา ทั้งๆ ที่เป็นการแถลงผลงานของกระทรวงพาณิชย์ในปีนี้ แต่กลับเอาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรมารับประกันความสำเร็จของโครงการรับจำนำข้าว