“บุญทรง” ฮึดดัน “ส่งออก” โค้งสุดท้ายปี 55 ลั่นคงเป้าที่ 15% หากทำไม่ได้ ก็ไม่ถือว่าผิด เพราะถือเป็นแรงจูงใจในการทำงาน แม้หลายฝ่ายจะประเมินได้แค่ 5-6% ส่วนการขายข้าว “จีทูจี” เซ็นไปแล้ว 7.3 ล้านตัน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการตั้งเป้าหมายการส่งออกในปี 2555 โดยยืนยันว่ายังคงไว้ที่ระดับ 15% ตามเดิม แม้ว่าหลายฝ่ายจะเชื่อว่าการส่งออกของไทยอาจเติบโตได้เพียง 5-7% เนื่องจากเป็นการตั้งเป้าหมายไว้สำหรับการทำงาน แต่หากท้ายสุดแล้วการส่งออกทำไม่ได้ตามเป้าหมายก็ไม่ถือว่าเป็นความผิดของฝ่ายใด โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์จะเร่งผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่ เพื่อให้มูลค่าการส่งออกขยายตัวได้เป็นบวก
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกในรูปของเงินดอลลาร์ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กรกฎาคม) แม้จะยังติดลบ 0.4% แต่หากเป็นการส่งออกในรูปของเงินบาทแล้วจะพบว่าขยายตัว 2.21% ส่วนการส่งออกในช่วงที่ 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเลขการส่งออกขยายตัวเป็นบวกได้มากขึ้น
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมเชื่อว่าจะไม่ทำให้ปัญหาเงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มขึ้น เพราะล่าสุดอัตราเงินเฟ้อในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-สิงหาคม) ยังอยู่ที่ 2.69% ซึ่งยังไม่ถึงเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3-3.8% ในปีนี้
นายบุญทรงยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยยืนยันว่า ไทยได้ทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีกับต่างประเทศไปแล้ว 6 สัญญา ซึ่งเป็นสัญญาที่ได้เปิด L/C และเริ่มทยอยส่งมอบไว้แล้ว 7.31 ล้านตัน โดยเป็นการขายข้าวให้แก่ จีน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, โมซัมบิก เป็นต้น ซึ่งสามารถขายได้ในราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ระบายข้าวในสต็อกไปแล้ว 2 ครั้ง รวมเป็นปริมาณ 2.6 แสนตัน และขายข้าวให้แก่หน่วยราชการในประเทศไปแล้ว 7.97 แสนตัน ขณะที่ยังมีปริมาณสต็อกคงเหลือที่ไม่มีภาระผูกพันอีก 4.175 ล้านตัน
โดยในช่วงไตรมาส 4/2555 หากไม่เกิดปัญหาภัยแล้งจนทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรทั่วโลกเสียหาย กระทรวงพาณิชย์จะเริ่มระบายข้าวอีกรอบ แต่หากเกิดปัญหาภัยแล้งรุนแรงก็อาจจะเก็บสต็อกไว้เพื่อความมั่นคงทางด้านอาหาร โดยจะตัดสินใจขายข้าวให้เฉพาะประเทศที่มีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น