นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี มีมติให้กระทรวงมหาดไทยกำหนดนโยบายการมีส่วนร่วม ของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น เพราะหลายฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า รัฐธรรมนูญ ฉบับปัจจุบันต้องมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงแก้ไข โดยจะถามความเห็นว่า ตามหลักการ 3 อำนาจที่ต้องตรวจสอบกันและกันให้เกิดสมดุลได้ และให้ทั้ง 3 อำนาจ มีอิสระในการทำงาน ขณะที่องค์กรต่างๆ ก็ต้องได้รับการมีส่วนร่วมจากประชาชน ที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งในทางปฏิบัติต้องหารือกับองค์กรที่มีความเป็นกลาง เช่น สถาบันพระปกเกล้า มหาวิทยาลัยต่างๆ ให้มากำหนดหัวข้อ และแนวทางหัวข้ออีกครั้งหนึ่ง เหมือนกับเรื่องปรองดอง ซึ่งทางฝ่ายวิชาการ จะเป็นผู้วางแนวทาง กระทรวงมหาดไทยจะทำหน้าที่ฝ่ายธุรการ เพราะมีเครือข่ายทั่วประเทศ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งของกรุงเทพมหานครด้วย โดยจะมีกลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชนทั้งหมด 70,000 กว่าหมู่บ้าน รวมถึงชุมชนในกทม. ทุกเขต
" สำหรับกรอบเวลาจะทำให้เร็วที่สุด ประมาณ 3-6 เดือน จากนั้นจะมีข้อสรุปความเห็นของประชาชนทั้งหมด ส่งให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา ส่วนงบประมาณนั้น ไม่ใช่ปัญหา ไม่มีการขออนุมัติ ครม. เพิ่ม จะพยายามเกลี่ยงบของกระทรวงมหาดไทยมาใช้ แต่หากไม่พอ ก็จะคุยกันอีกครั้ง" นายยงยุทธ กล่าว
เมื่อถามว่า กลุ่มเป้าหมายที่ไปร่วม อาจไม่มีความรู้ หรือไม่ใส่ใจ จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีปัญหา และเราต้องเคารพเชื่อมั่นศรัทธาประชาชน ไม่เช่นนั้นจะปกครองระบอบนี้ไม่ได้ เมื่อถามว่ามองไปถึงวันข้างหน้าหรือไม่ หากการดำเนินการเสร็จสิ้น จะถูกคัดค้านหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ถ้าเรามีหลักฐานเอกสาร และในทางปฏิบัติเราไปทุกภาค ทุกหมู่บ้าน และมีผู้แทนของพรรคการเมืองต่างๆอยู่ด้วย ถ้าตนเห็นว่าแนวทางรัฐบาลชัดเจน ไม่ได้เป็นการจัดตั้ง ก็คงจะเป็นที่ยอมรับ ขณะที่เราไม่ได้ไปหาเสียง แต่เป็นการไปถามความเห็นเรื่องกฎหมายสำคัญที่สุดของประเทศ เชื่อว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือ เพราะไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของพรรคหนึ่งพรรคใด ตนจึงไม่กังวลเรื่องที่จะถูกฝ่ายที่ไม่สนับสนุนมาต่อต้าน และไม่เชื่อว่าสังคมไทยจะขาดเหตุผล
ทั้งนี้ ถ้าผลการศึกษาเสร็จ นายกรัฐมนตรี คงไม่เก็บไว้เป็นแผ่นกระดาษเปล่า และคงดำเนินการต่อ ซึ่งการสรุปความคิดเห็นของประชาชน จะมีคนกลางสรุป เพราะถ้ามหาดไทยสรุปเอง ก็จะไม่สง่างาม
**ปรองดองเสร็จก่อนแก้รธน.
เมื่อถามว่าปีนี้ จะยังไม่เห็นรัฐธรรมนูญใหม่ และเรื่องปรองดอง ที่ต้องลากยาวไปปีหน้าใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ 3-4 เดือนนี้ คงไม่ทัน แต่เรื่องปรองดอง จะประชุมอีก 1 ครั้งในวันที่ 30 ส.ค.นี้ หลังจากนั้นจะสรุปผลการดำเนินการเรื่องปรองดองไปให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาฯ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ เป็นประธาน พิจารณา และคาดว่าจะเสร็จได้ประมาณปลายปีนี้ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องปรองดอง ก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ด้านน.ส.รัชดา ธนาดิเรก ในฐานะรองโฆษกครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายกลังการประชุมครม.เงา ว่า ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตถึงการที่รัฐบาลให้กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเวทีรับฟังความเห็นประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 8 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศว่า จะมีความเป็นกลาง ไม่มีการยัดเยียดชี้นำจากภาครัฐ เพราะกระทรวงมหาดไทย ก็เป็นเครื่องมือของรัฐบาล แทนที่จะใช้องค์กรที่เป็นกลาง หรือสถาบันการศึกษาลงไปทำหน้าที่นี้แทน ซึ่งครม.เงา จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
" สำหรับกรอบเวลาจะทำให้เร็วที่สุด ประมาณ 3-6 เดือน จากนั้นจะมีข้อสรุปความเห็นของประชาชนทั้งหมด ส่งให้กับที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณา ส่วนงบประมาณนั้น ไม่ใช่ปัญหา ไม่มีการขออนุมัติ ครม. เพิ่ม จะพยายามเกลี่ยงบของกระทรวงมหาดไทยมาใช้ แต่หากไม่พอ ก็จะคุยกันอีกครั้ง" นายยงยุทธ กล่าว
เมื่อถามว่า กลุ่มเป้าหมายที่ไปร่วม อาจไม่มีความรู้ หรือไม่ใส่ใจ จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีปัญหา และเราต้องเคารพเชื่อมั่นศรัทธาประชาชน ไม่เช่นนั้นจะปกครองระบอบนี้ไม่ได้ เมื่อถามว่ามองไปถึงวันข้างหน้าหรือไม่ หากการดำเนินการเสร็จสิ้น จะถูกคัดค้านหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ถ้าเรามีหลักฐานเอกสาร และในทางปฏิบัติเราไปทุกภาค ทุกหมู่บ้าน และมีผู้แทนของพรรคการเมืองต่างๆอยู่ด้วย ถ้าตนเห็นว่าแนวทางรัฐบาลชัดเจน ไม่ได้เป็นการจัดตั้ง ก็คงจะเป็นที่ยอมรับ ขณะที่เราไม่ได้ไปหาเสียง แต่เป็นการไปถามความเห็นเรื่องกฎหมายสำคัญที่สุดของประเทศ เชื่อว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือ เพราะไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของพรรคหนึ่งพรรคใด ตนจึงไม่กังวลเรื่องที่จะถูกฝ่ายที่ไม่สนับสนุนมาต่อต้าน และไม่เชื่อว่าสังคมไทยจะขาดเหตุผล
ทั้งนี้ ถ้าผลการศึกษาเสร็จ นายกรัฐมนตรี คงไม่เก็บไว้เป็นแผ่นกระดาษเปล่า และคงดำเนินการต่อ ซึ่งการสรุปความคิดเห็นของประชาชน จะมีคนกลางสรุป เพราะถ้ามหาดไทยสรุปเอง ก็จะไม่สง่างาม
**ปรองดองเสร็จก่อนแก้รธน.
เมื่อถามว่าปีนี้ จะยังไม่เห็นรัฐธรรมนูญใหม่ และเรื่องปรองดอง ที่ต้องลากยาวไปปีหน้าใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ 3-4 เดือนนี้ คงไม่ทัน แต่เรื่องปรองดอง จะประชุมอีก 1 ครั้งในวันที่ 30 ส.ค.นี้ หลังจากนั้นจะสรุปผลการดำเนินการเรื่องปรองดองไปให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาฯ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ เป็นประธาน พิจารณา และคาดว่าจะเสร็จได้ประมาณปลายปีนี้ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าเรื่องปรองดอง ก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ด้านน.ส.รัชดา ธนาดิเรก ในฐานะรองโฆษกครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายกลังการประชุมครม.เงา ว่า ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตถึงการที่รัฐบาลให้กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งเวทีรับฟังความเห็นประชาชนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 8 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศว่า จะมีความเป็นกลาง ไม่มีการยัดเยียดชี้นำจากภาครัฐ เพราะกระทรวงมหาดไทย ก็เป็นเครื่องมือของรัฐบาล แทนที่จะใช้องค์กรที่เป็นกลาง หรือสถาบันการศึกษาลงไปทำหน้าที่นี้แทน ซึ่งครม.เงา จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
