ประธานสภาผู้แทนราษฎร อ้างไม่เคยบอกว่าจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แต่ให้สานเสวนาก่อน ค่อยไปหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อ้างที่พลิกบทบาทไม่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ ทักษิณ โยนบาปสื่อเอาไปลงยังไง ปัดคลิปเสียงฉาวแค่ออกความเห็น
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) จะเข้าพบเพื่อหารือการถอนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ และไม่เคยไปพูดคุยกับผู้เสนอญัตติทั้ง 4 ร่างเพื่อให้ถอนเรื่องดังกล่าว มีแต่พูดว่าจะต้องมีการสานเสวนาก่อนเพื่อหาทางออก และค่อยไปหารือกับคนที่เกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในพรรค นักข่าวถามตนว่าจะไปคุยกับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคมาตุภูมิหรือไม่ ตนก็ตอบว่าน่าจะมีการไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ไม่ใช่หน้าที่ของประธานสภาฯ ตนพูดมาตลอด ในความเห็นส่วนตัวควรให้ยื้อ พ.ร.บ.ปรองดองฯ ออกไปก่อน
เมื่อถามว่า การพลิกบทบาทแบบนี้เพราะได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้พลิกบทบาท และตนก็ย้ำมาตลอดเหมือนเดิมไม่ได้พูด ก็ไม่เข้าใจว่าสื่อเอาไปลงแบบนั้นได้อย่างไร เมื่อถามต่อว่าหากมีการเดินหน้า พ.ร.บ.ปรองดองฯ ต่อไป จะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนทำตามหน้าที่ เมื่อมีผู้เสนอเรื่องเข้ามาก็บรรจุในวาระการประชุมเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจไปสั่งใครได้ อีกทั้งอำนาจในการถอนก็เป็นอำนาจของที่ประชุม ต้องทำความเข้าใจกับสมาชิกก่อนเพื่อให้เขาเห็นด้วย แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องของประชาธิปไตย
“ผมทำในสิ่งที่ผมควรทำ และผมก็ได้ทำไปแล้ว และเรื่องการถอน พ.ร.บ.ปรองดองฯ ผมก็ไม่มีอำนาจ เพียงแต่ทำหน้าที่ในฐานะประธานสภาฯ ดำเนินการประชุมให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย” นายสมศักดิ์กล่าว
ส่วนคลิปเสียงที่ตนพูดว่าเกมร่างรัฐธรรมนูญอยู่ในมือแล้วนั้น เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น ที่เห็นด้วยกับตนในการลงมติวาระ 3 ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตย ไม่มีใครสามารถบังคับใครได้