“ประธานวิปฝ่ายค้าน” ชี้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้เสนอกฎหมายและคนถือใบสั่ง รับหากเลื่อนวาระอื่นแทนจะแก้ปัญหาไม่สุด เหตุเชื้อยังปะทุ ยันถ้าทำจริงก็มีเหตุผลอธิบายได้ แต่ถ้าไม่ถอนก็ส่อกลับคืนสู่ความขัดแย้ง
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาเสนอให้ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติถอนร่างออกจากวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ข้อเสนอให้ถอนร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านได้เสนอมาก่อนหน้านี้แล้วเพราะเกรงว่าหากพิจารณาร่างกฎหมายฯ จะนำไปสู่การเผชิญหน้าและเกิดวิกฤตความขัดแย้ง ตนเห็นความเห็นของประธานรัฐสภาเป็นเพียงความเห็นเบื้องต้น การจะถอนหรือไม่ถอนกฎหมายไม่ได้อยู่ที่ประธานรัฐสภา แต่อยู่ที่ผู้เสนอกฎหมายและผู้ถือใบสั่ง หากผู้ถือใบสั่งยังไม่เห็นด้วยและยังเห็นว่าจะต้องพิจารณาต่อไปก็เป็นเรื่องยากที่จะถอนร่างทั้งหมดออกไป อย่างไรก็ดี หากไม่มีการถอนกฎหมายอาจใช้วิธีการเลื่อนระเบียบวาระการประชุมเรื่องอื่นขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งวิธีนี้ก็ถือเป็นการแก้ไขปัญหาไม่สุดเพราะร่างกฎหมายังคงมีอยู่พร้อมที่จะเป็นเชื้อไฟปะทุทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในบ้านเมืองในอนาคต
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เหตุผลในการถอนร่างไม่ควรใช้เหตุผลเพื่อต่ออายุให้รัฐบาลมีอายุยืนยาวออก แต่ควรถอนเพราะเหตุผลเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เมื่อบ้านเมืองมีความสงบสุข รัฐบาลก็จะอยู่ต่อไปได้ เมื่อถามว่าความเห็นของนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ผู้เสนอร่างของพรรคเพื่อไทย เห็นว่าถ้าจะถอนร่างฯ ต้องอธิบายกับประชาชนได้ว่าถอนเพื่ออะไร และพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ผู้เสนอร่างที่ขอให้มีการหารือกับผู้ร่วมเสนอร่างฯก่อน นายจุรินทร์กล่าวว่า ถ้าจะถอนจริงๆ ก็มีเหตุผลอธิบายได้ จะเห็นว่าตั้งแต่บรรจุร่างกฎหมายนี้เข้าพิจารณาได้มีการชุมนุมคัดค้านมาตลอดซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยกได้ เหตุผลคือการถอดชนวนความขัดแย้งออก และให้ประเทศสามารถรักษาระบบกฎหมายระบบนิติรัฐของประเทศไว้ได้
เมื่อถามอีกว่า หากสุดท้ายแล้วไม่มีการถอนกฎหมายออกจะเป็นอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า หากไม่ถอนกฎหมายทันทีที่เปิดสมัยประชุมสภาจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับที่เกิดเมื่อครั้งที่เสนอกฎหมายเข้ามาพิจารณาในครั้งแรก โอกาสที่จะย้อนกลับไปเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งจึงมีสูงบ้านเมืองก็จะมีความขัดแย้งแตกแยกอย่างแน่นอน
