“พล.อ.สนธิ” เผยไม่เคยคุยกับ “ขุนค้อน” เรื่องถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกจากวาระประชุมสภาฯ อ้างกฎหมายดังกล่าวไม่ใช่เงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง แต่เป็นประเด็นการแก้ไข รธน.มากกว่า ขอดูผลโพลและสานเสวนาก่อนตัดสินใจถอน-ไม่ถอน
วันที่ 29 มิ.ย. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ แกนนำผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... ซึ่งบรรจุอยู่ในวาระด่วนที่ 1 และจะต้องนำมาพิจารณาในการเปิดประชุมสภา วันที่ 1 ส.ค.เป็นเรื่องแรก กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ เสนอให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองฯ ออกจากวาระการประชุมไปก่อนว่า ตนยังไม่ได้หารือเรื่องนี้กับนายสมศักดิ์ อย่างไรก็ตาม ในการพูดคุยกับนายสมศักดิ์เป็นเรื่องของหลักการทั่วไป เช่น สถานการณ์บ้านเมือง ความคืบหน้าของการสานเสวนา โดยไม่มีประเด็นของการให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับที่ตนและคณะนำเสนอออกแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนมองว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองไม่ใช่เงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งของบ้านเมือง แต่ต้องจับตาที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า และตนไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่าจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองหรือไม่ เพราะต้องรอดูสถานการณ์และหารือกับคณะก่อน
“แม้จะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของผมออกก็ไม่มีความหมาย เพราะยังเหลืออีกหลายร่างที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอเข้ามา ทั้งนี้ เจตนารมณ์ที่ผมเสนอร่างกฎหมายนี้ เพื่ออยากให้ทุกฝ่ายอภัยให้กันและมาร่วมสร้างประเทศ เหมือนอย่างที่นโยบาย 66/23 เคยทำไว้ ผมมีเจตนาดีกับบ้านเมือง สิ่งที่ผมทำเป็นยุทธศาสตร์ที่เป็นประโยชน์กับประเทศ แต่หากใครมองว่ามันเป็นยุทธวิธีที่นำไปสู่การสร้างประโยชน์กับบุคคลหรือกลุ่มบุคคล คนคนนั้นกำลังมองประเทศในทางที่ผิด”
หัวหน้าพรรคมาตุภูมิกล่าวว่า ปัจจัยที่จะให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนั้น ขณะนี้หน่วยงานของรัฐอยู่ระหว่างการจัดสานเสวนา และทำโพล ดังนั้น ตนขอรอข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว ก่อนตัดสินใจว่าจะถอนร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ แสะตนขอให้เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนเป็นผู้ตัดสิน หากประชาชนส่วนใหญ่คัดค้านตนพร้อมไม่เดินหน้าเรื่องดังกล่าว
ด้าน นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย และในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่ นายสมศักดิ์อยากให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองฯ ออกจากวาระการประชุมฯ ซึ่งจากการได้พบพูดคุยกับนายสมศักดิ์เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาก็ไม่ได้พูดคุยในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวคิดว่าเรื่องดังกล่าวสามารถเป็นไปได้ทุกทาง แต่ขณะนี้ยังไม่มีความเห็นว่าจะเลื่อนหรือไม่ เนื่องจากต้องสอบถามจากประธานรัฐสภาก่อนว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร
“มันเป็นไปได้ทุกอย่างครับ แต่ยังไม่ได้คุยกัน ก็เลยยังไม่มีความเห็น ตอนเจอกับท่านเมื่อตอนเที่ยง วันที่ 28 มิ.ย.ก็ไม่เห็นพูดอะไร”