xs
xsm
sm
md
lg

“อุดมเดช” ชี้ถอนร่างปรองดองต้องคุยก่อน โวย “องค์กรอิสระ” หยิบนาซาจ้องล้มรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล (ภาพจากแฟ้ม)
ประธานวิปรัฐบาล ชี้ประธานสภาฯ มีสิทธิ์ห่วงใยจึงเสนอให้ถอนร่างปรองดอง แต่ต้องพูดคุยกันเพราะไม่เกี่ยวกับรัฐบาล หนุนจัดประชาเสวนา หวั่น “บิ๊กบัง” ถอนร่าง กม.ปรองดองทำร่างที่เหลือพิจารณาไม่ได้ ส่วนเรื่องนาซายกเลิกมาไทยต้องดูว่าสภาจะนำเข้าที่ประชุมหรือไม่ อ้างสังคมไม่ยอมรับโจมตีองค์กรอิสระเบรกอู่ตะเภา เชื่อจ้องทำลายรัฐบาล

วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ระบุว่าควรจะถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองว่า เมื่อวานมีโอกาสเจอประธานรัฐสภาซึ่งไม่ได้พูดกันถึงเรื่องนี้ พูดคุยกันแต่เรื่องอื่น สิ่งที่ประธานกล่าวเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ที่อาจจะห่วงกังวลในสถานการณ์ที่มีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ซึ่งถือเป็นสิทธิที่ประธานสามารถเป็นห่วงเป็นใย แต่ในส่วนนี้คงต้องมีการหารือกันว่าในช่วงที่จะเปิดประชุมสมัยสามัญทั่วไป กฎหมายปรองดองได้ถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นเรื่องแรกในการกระบวนการพิจารณา จะดำเนินการไปตามนั้นเลยหรือไม่ หรือถ้าเห็นว่ายังไม่จำเป็นที่จะพิจารณาเป็นเรื่องแรก ก็ต้องมีกระบวนการในการที่จะต้องเลื่อนออกไป ซึ่งที่ประธานกล่าวมานั้นก็อาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่ง

ส่วนประเด็นที่ถามว่าประธานได้หารือกับทางผู้ที่เสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับหรือยังนั้นเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน หากดูจากสถานการณ์ทางการเมืองแล้วจะถอนหรือไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองก็ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสมาชิกที่ได้เสนอเข้ามา ซึ่งในส่วนนี้ก็คงจะต้องมาพูดคุยกัน ในส่วนของรัฐบาลเองก็คงดูแลในเรื่องความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ขณะที่ในส่วนของวิปรัฐบาลขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ทั้งนี้ คาดว่าสัปดาห์หน้าก็อาจจะมีการเรียกประชุมเพื่อมีการหารือกันในเรื่องนี้

นายอุดมเดชกล่าวต่อว่า ส่วนตัวมีความเห็นว่าก็ยังพอมีเวลาอีกกว่า 1 เดือน กว่าจะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 1 ส.ค. นอกจากนี้ในเรื่องการทำประชาเสวนานั้น ก็สามารถดำเนินการจัดไปได้เลยไม่จำเป็นจะต้องมาเกี่ยวกับว่าจะนำเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสู่สภาฯ เมื่อใด เพราะในกระบวนการสานเสวนาไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียวแต่ต้องทำไปเรื่อยๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านมีความเห็นว่า หากเลื่อนวาระร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกไปแล้วนำวาระอื่นขึ้นมาพิจารณาก่อน ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่สุด นายอุดมเดชกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันแค่ 10 แล้วผ่านไป ทั้งนี้ก็มีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องที่ค้างอยู่ในระเบียบวาระเป็นเวลานาน ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร อย่าไปกังวลตรงนั้น เรื่องดังกล่าวขอให้ได้มีโอกาสพูดคุยกันก่อนว่าในสถานการณ์ปัจจุบันในเรื่องการปรองดองกับคนในสังคมไปถึงไหนแล้ว ถ้าสามารถที่จะดำเนินการได้ก็ควรที่จะดำเนินการ แต่หากดำเนินการไม่ได้ก็มีวิธีการอื่น

เมื่อถามว่า ถ้า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ถอนร่างของตนเองออกเพียงร่างเดียว แต่ก็ยังมีร่างอื่นอยู่อีก 3 ร่าง นายอุดมเดชกล่าวว่า ก็ต้องมาคุยกันอย่างเป็นระบบว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่อันที่จริงในตอนแรกที่มีการขอเลื่อนวาระดังกล่าวเข้ามา ก็เลื่อนแต่เพียงร่างที่ พล.อ.สนธิเป็นผู้เสนอ ส่วนร่างอื่นที่คล้ายกันก็อาจจะหยิบยกมาพิจารณาด้วยกันได้ ดังนั้น หาก พล.อ.สนธิจะถอนร่างของตนเองออกก็อาจจะมีผลทำให้ร่างที่เหลือไม่สามารถพิจารณาได้ด้วย

เมื่อถามต่อว่า หากยังมีการดึงดันให้มีการพิจารณาในเรื่องนี้จะทำให้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายอุดมเดชกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในสิ่งที่กำลังหารือกันอยู่ตลอด ไม่ได้เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง

ส่วนกรณีที่องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา ยกเลิกโครงการสำรวจอากาศในไทยนั้น เรื่องนี้คณะรัฐมนตรีมีมติออกมาแล้ว ส่วนที่ว่าจะเสนอให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาในเรื่องนี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ขณะเดียวกัน เมื่อทางสหรัฐอเมริกาแจ้งมาว่าจะระงับโครงการดังกล่าวออกไปนั้นก็ต้องมาดูว่าเมื่อระงับไปแล้วสภาจะยังนำเรื่องนี้เข้ามาหารือกันอยู่อีกหรือไม่

ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีหากจะนำมาพูดคุยกันในสภาฯ เพราะเรื่องนี้ควรที่จะพูดให้ชัดว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่จะทำให้ประชาชนตกใจได้ ตนคิดว่าวันนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลจะอนุมัติให้นาซาเข้ามาทำโครงการไทยหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่ามีความกังวลว่าองค์กรอิสระจะใช้อำนาจที่สังคมไม่ยอมรับ วันนี้คนในสังคมกังวลต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดๆ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่น่ากังวลเช่นเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญกังวลในเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งในสิ่งนี้รัฐบาลก็ต้องระมัดระวังในสิ่งที่ดำเนินการเพราะขณะนี้ตนเชื่อว่ามีขบวนการที่จ้องทำลายล้างรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น