“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” แจง พ.ร.บ.ปรองดอง ยันไม่ใช่ข้อเสนอของรัฐบาล และไม่เคยเห็นร่างกฎหมาย ก่อน “บิ๊กบัง” เสนอก็ไม่เคยคุยกัน อ้างเร็วเกินไปที่จะมองว่า “ทักษิณ” ได้ประโยชน์ทั้งยกผิด-ได้เงินคืน เรียกร้องผู้ชุมนุมนำเสนอร่างกฎหมายเข้ามาประกบเพื่อให้สภาพิจารณา พร้อมวอนทุกฝ่ายให้อภัย หันหน้าเข้าหากันเพื่อให้ทุกอย่างสงบ
วันที่ 2 มิ.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน” ดำเนินรายการโดยนายธีรัตถ์ รัตนเสวี ว่าการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาในขณะนี้ ไม่ใช่เป็นข้อเสนอจากส่วนรัฐบาล แต่เป็นเรื่องของสมาชิกพรรค และยังไม่เห็นร่างพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติทั้ง 4 ฉบับ
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นหนึ่งในหน้าที่รัฐบาลที่จะสร้างความปรองดอง ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าควรเข้ามาทำและไม่ใช่สิ่งที่เร็วเกินไป เพราะยังมีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ขณะนี้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยืนยันว่าก่อนที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ เสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ได้มีการหารือกับตนก่อน และไม่ได้เห็นร่างมาก่อนเช่นกัน
“หลายคนมองว่า พอจะยิ่งปรองดองกลับยิ่งไม่ปรองดอง แต่อยากให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า และให้อภัยเพื่อยุติความขัดแย้ง ไม่ให้อยู่ในวังวนความขัดแย้งที่ไม่สิ้นสุด เราอยู่ในวังวนนี้กันมาหลายปีแล้ว อดีตคงลืมกันได้ยาก แต่อยากให้เกิดการยุติ”
ส่วนการชุมนุมประท้วงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวยังอยู่ในขอบเขตสิทธิที่สามารถทำได้ แต่แท้จริงแล้วอยากให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน เช่น เวทีนอกสภาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ อาจใช้วิธีรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แล้วเสนอเข้ามาผ่านทางสภา เพื่อกลายมาเป็นร่างเพิ่มเติมให้สภาพิจารณา
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเมื่อมีผลบังคับใช้จะเป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือใครอื่นบ้าง เพราะเป็นการมองที่ปลายทาง ซึ่งเป็นเรื่องเร็วเกินไป ขณะนี้อยากให้ทุกคนมองที่ต้นทางก่อน เพื่อให้กระบวนการปรองดองเกิดขึ้น วันนี้เราควรเริ่มหารือกระบวนการเรื่องปรองดองกันก่อน จึงขอเชิญเวทีนอกรัฐสภาควรรวมข้อคิดเห็น แล้วนำมาหารือหรือถกในสภามากกว่า
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเอาเงินคืนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พี่ชายอย่างแน่นอน เพราะมีการลงมติจากประธานคณะกรรมการทั้ง 35 คณะไปแล้วว่าร่างพระราชบัญญัติปรองดองฉบับนี้ไม่เกี่ยวกับการเงิน”
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า วันนี้เราควรเดินไปข้างหน้าให้อภัย มิฉะนั้นเราจะอยู่วังวันความขัดแย้งไม่มีที่สิ้นสุด และสุดท้ายนี้อยากเห็นอะไรก็ได้ที่เราจูงมือไปด้วยกัน อยากเห็นความสุขคนไทย เราควรหันหน้ามาหากัน เราอยากจะทำให้ทุกอย่าง สงบ ยุติและสันติวิธี
