“บิ๊กบัง” วอนศาลหยิบหลักรัฐศาสตร์ตัดสินคดีแก้ รธน.ยันไม่ถอนร่างปรองดองแน่

“พลเอก สนธิ” เรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญดูหลักรัฐศาสตร์ ในการตัดสินคดีแก้รัฐธรรมนูญล้มล้างการปกครองหรือไม่ หวั่นขัดแย้งรุนแรง ย้ำ ไม่คิดถอน พ.ร.บ.ปรองดอง เผยไม่มีเจตนาล้มล้างอำนาจตุลาการ ปัดรับจ๊อบแลกเก้าอี้รองนายกฯ ยันไม่เคยขออะไรรัฐบาลเพื่อไทย

วันนี้ (11 ก.ค.) ที่รัฐสภา พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วยหลักนิติศาสตร์และอยากให้มองในหลักรัฐศาสตร์ด้วย ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหามาก จากการพูดคุยกับ ส.ส. ส.ว.416 คน ที่โหวตรับหลักการ และในวาระที่ 2 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รู้สึกไม่สบายใจที่ทำตามขั้นตอนของรัฐสภาและครรลองประชาธิปไตยแล้ว มาเกิดปัญหาเช่นนี้ ทั้ง ส.ส. ส.ว.ต่างก็มีประชาชนให้การสนับสนุนหลายสิบล้าน ได้คุยกับทุกพรรคเพราะเป็นคนกลางคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์เอง หรือพรรคเพื่อไทย เขารู้สึกว่าไม่สบายใจ คำว่าไม่สบายใจนี้พูดให้ดูดี แต่ความจริงเขามีความรู้สึกค่อนข้างรุนแรง เมื่อถามว่า จะรุนแรงถึงขั้นไหน พล.อ.สนธิ ตอบว่า ได้ยินมาว่า จะไม่ยอมกัน คือ จะเกิดการไม่ยอมรับคำตัดสินทั้งผู้เสียประโยชน์ และได้ประโยชน์ ฉะนั้น การตัดสินจึงต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เกิดการรอมชอมทั้งสองฝ่าย

เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่า ไม่ว่าจะตัดสินอย่างไรก็ต้องเกิดความรุนแรง ขอให้ยุติการวินิจฉัย แต่ศาลรัฐธรรมนูญยังยืนยันเดินหน้าตัดสิน พล.อ.สนธิตอบว่า ทุกองค์กรควรมีส่วนร่วมนำพาสังคมสู่ความปรองดอง ฉะนั้น การตัดสินจะไปสนับสนุนว่าข้างใดถูก ข้างใดผิด ไม่ได้เลย ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้ เพื่อตัดตอนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่มีเนื้อหาละเมิดอำนาจตุลาการ พล.อ.สนธิ ตอบว่า พ.ร.บ.ปรองดอง มีต้นแบบจากนโยบาย 66/23 ที่ให้อภัยกันเพื่อกลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย แต่คดีอาญายังอยู่ เพียงแต่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกันใหม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมและโอกาส ส่วนเรื่องเงิน 4.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เราพูดกันในที่ประชุมรัฐสภาแล้วว่า ตกเป็นเงินแผ่นดินแล้วเอาคืนไม่ได้ หากมีข้อผิดพลาดหรือบกพร่องจะเป็นช่องโหว่ใดที่เกิดการตีความไปในทางที่ผิดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย สามารถแก้ไขได้

พล.อ.สนธิ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ออกจากสภาฯ ยังไม่ได้คุยกับประธานสภาฯ ในเรื่องนี้ เมื่อร่างกฎหมายเข้าสภาฯไปแล้วก็ขึ้นอยู่กับสภาฯ หากมองว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่อำนวย ก็เลื่อนออกไปก่อนได้ ไม่ได้มีเจตนาล้มล้างอำนาจตุลาการ เราต้องมองเรื่องการให้อภัย ความสงบเรียบร้อยของประเทศ อย่าไปมองจะเอาชนะคะคานกัน ส่วนข่าวที่ว่าจะได้รับตำแหน่งรองนายกฯ เป็นรางวัล หากผลักดันเรื่องปรองดองสำเร็จนั้น ไม่เคยคิดจะเป็นอะไร สิ่งที่ได้มา มาด้วยผลของการทำงาน ไม่เคยคิดจะไปเกี่ยวข้องหรือขออะไรจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และไม่มีใครติดต่อทาบทามให้ไปเป็นรัฐมนตรี หรือตำแหน่งอะไรในรัฐบาล