“ขุนค้อน” โผล่ศาล รธน. แจงแก้ รธน.ด้วยตัวเอง แม้ไม่เห็นด้วยที่รับคำร้อง แต่ต้องให้เกียรติมา พร้อมยอมรับคลิปเสียงเป็นของตัวเอง งงหลุดมาได้อย่างไร แต่เคลียร์ “ยิ่งลักษณ์-สมชาย” แล้ว อ้างน้ำขุ่นๆ คลิปเสียงพิสูจน์ชัดความเห็นขัดแย้ง “นช.แม้ว” จึงไม่ได้รับคำสั่ง “นช.แม้ว” ระบุเบรก รธน.วาระ 3 ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพราะไม่ต้องการให้คนไทยฆ่ากัน
วันนี้(6 ก.ค.) นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมรับฟังการไต่สวนคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เป็นการล้มล้างการปกครองขัดต่อมาตรา 68 หรือไม่ว่า เหตุที่ตัดสินใจเข้าชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นเรื่องที่พิจารณาแล้วเห็นว่า น่าจะให้ความร่วมมือกับศาล เพราะได้แสดงเจตนารมณ์ไปตั้งแต่แรกว่า คำสั่งศาลไม่มีผลผูกพันต่อรัฐสภา แต่ก็ให้เกียรติเพื่อไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น เพราะตัวเองเป็นสาเหตุให้คนไทยฆ่ากันตาย ในการปล่อยให้เลื่อนลงมติวาระ 3 ส่วนการพาดพิงกรณีการทำหน้าที่ไม่เป็นกลางหรือรับฟังคำสั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้นการทำหน้าที่เป็นกลางหรือไม่ ในสภาพิสูจน์กันได้ชัด และฝ่ายค้านกล่าวหาก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และลอยๆ ซึ่งก็ได้ย้ำถามมาโดยตลอดว่าไม่เป็นกลางอย่างไร แต่ก็ไม่ได้คำตอบ
“สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นชัดว่าทำหน้าที่เป็นกลาง เช่น เรื่องสำคัญๆ หลายเรื่อง เช่น ยื้อเรื่องปรองดองออกไป การลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตั้งแต่ผมทำหน้าที่ประธานรัฐสภามา แต่ประเด็นที่พูดผมเห็นด้วยกับฝ่ายค้าน และชี้ชัดว่าไม่มีใบสั่ง และทำหน้าที่เป็นกลาง โดยยึดข้อบังคับและรัฐธรรมนูญเป็นหลัก”
ส่วนคลิปเสียงความยาวประมาณ 26 นาทีที่พรรคประชาธิปัตย์นำมาเผยแพร่นั้น นายสมศักดิ์ยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงของตนจริง ในงานเลี้ยงส่วนตัวกับบุคคลใกล้ชิดและครอบครัวเพียง 50 คน ทั้งนี้รู้สึกแปลกใจว่าหลุดออกไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีความกังวล และยืนยันว่าการทำหน้าที่ของตนนั้นไม่ได้มีใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตามที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา และเนื้อหาคำพูดในคลิปเสียง ยืนยันชัดเจนว่าตนทำงานโดยไม่มีใบสั่ง เนื่องจากความเห็นของตนนั้นขัดแย้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย กรณีการเดินหน้าลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ทั้งนี้หากตนทำงานตามใบสั่งอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาจริง คงไม่มีความเห็นที่ขัดแย้ง
นายสมศักดิ์กล่าวว่า หลังจากที่มีคลิปเสียงปรากฏ ตนได้ทำความเข้าใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงสมาชิกคนสำคัญ และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ แล้ว เบื้องต้นบุคคลดังกล่าวมีความเข้าใจดี ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าตนได้กล่าวพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณด้วยนั้น ในหลักการประชาธิปไตยสามารถหารือกันได้ และทุกพรรคการเมืองหารือกันได้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาใด ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นยังไม่ได้หารือ
“จากการพูดคุยมีแนวโน้มออกมาค่อนข้างดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับมติเสียงข้างมากของพรรค สำหรับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ยังไม่ได้หารือกัน เป็นการพูดคุยกันในพรรคเท่านั้น”
นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนั้น ตนเคยให้สัมภาษณ์สื่อที่ผ่านมา โดยย้ำตลอดว่าจะใช้ดุลยพินิจ และยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และจะไม่ยอมให้คนไทยฆ่ากันตายเด็ดขาด หลังจากนั้น ก็ให้สัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวและยืนยันว่าต้องยื้อออกไป พร้อมทั้งจะไปทำความเข้าใจทุกคนที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อคลิปเสียงออกมา เป็นหลักฐานชี้ชัดว่าสิ่งที่พูดแล้ว ทำอย่างที่พูด ไม่เสียหายอะไร และหากมีใบสั่งทำไมต้องถกเถียงกัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับความเห็นส่วนใหญ่ในพรรค เพราะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคต้องการให้ลงมติวาระ 3 แต่ตนเห็นว่าเป็นต้นเหตุความขัดแย้ง อาจทำให้คนไทยฆ่ากันตาย จึงอยากถามว่าจะให้ทำอย่างไร ดังนั้น ก็มี 2 ทางเลือก คือ 1. อยู่เฉยๆ และ 2. หารือแสดงความเห็นตัวเอง เพื่อโน้มน้าวให้ทุกคนเห็นด้วย และเป็นเรื่องเปิดเผยไม่ได้เป็นความลับ แต่อยู่ที่จะทำให้เป็นประเด็นทางการเมืองหรือเปล่า
“ผมมีความบริสุทธิ์ใจ ผมทำอะไรผมยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก และผมพูดตลอดว่าจะไม่ยอมให้คนไทยฆ่ากันตายเป็นอันขาด แม้แต่ในคลิปลับก็มีเรื่องนี้ ทุกอย่างยืนยันในสิ่งที่ผมให้สัมภาษณ์สื่อว่า ผมจะทำ และผมก็ทำอย่างที่พูด ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ”
ส่วนหากเปิดสภาในวันที่ 1 ส.ค.ทางออกต่อประเด็นเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองจะเป็นอย่างไรนั้น นายสมศักดิ์กล่าวยอมรับว่า ไม่ทราบ แต่ความเห็นส่วนตัวควรยื้อออกไป และพยายามทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และคลิปออกมาเป็นเรื่องดีที่จะยืนยันหลักการที่ตนจะทำทุกประการ ส่วนประเด็นคนเสื้อแดงต่อต้านและขับไล่นั้น แม้จะพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเห็นด้วย หรือเห็นด้วยในตอนนี้ทั้งนั้น