xs
xsm
sm
md
lg

รื้อ 5 รีสอร์ทเกาะเสม็ด “แม่เมาะ”ฟ้องศาลปค. 15 ส.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(13 ส.ค.55)นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านโรคร้อน เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 ส.ค.55 ที่จะถึงนี้ชาวบ้านแม่เมาะ จ.ลำปาง ประมาณ 60 คน จะร่วมกับสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เดินทางมายื่นฟ้อง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ต่อศาลปกครองกลางในวันพุธที่ 15 สิงหาคม 2555 เวลา 10.00 น. ณ ศาลปกครองกลาง เนื่องจากกระทำการโดยผิดกฎหมาย เข้าข่ายการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม เนื่องจากอนุมัติให้มีการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ผิดไปจากเจตนารมณ์และขั้นตอนของกฎหมายการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550
ในวันเดียวกันศาลปกครองมีหมายแจ้งให้สมาคมฯทราบว่า เวลา 10.30 น. ศาลปกครองกลางจะอ่านคำพิพากษา คดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 51 คน ฟ้องร้องหน่วยงานรัฐ 11 หน่วยงาน (เมื่อ ธ.ค.2551) ให้เพิกถอนป่าพรุแม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 18 แปลง โดยมี บริษัทประจวบพัฒนาดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (บริษัทสหวิริยา) เป็นผู้ร้องสอดด้วย
อีกด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เดินทางลงพื้นที่เกาะเสม็ด เพื่อเข้าตรวจความเรียบร้อยก่อนจะดำเนินการเข้ารื้อถอนรีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศ 5 แห่ง ซึ่งบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ ได้แก่ 1.บ้านพักตากอากาศบริเวณแหลมใหญ่ หมู่ 4 ตำบลเพ 2. ช่อแกรนด์วิว รีสอร์ท 3.มุกเสม็ด รีสอร์ท 4.อันซีน รีสอร์ท และ 5.พลอยเสม็ดรีสอร์ท รวมไปถึงร้านค้าบริเวณชายหาดแม่รำพึง อีกจำนวน 4 ราย
หลังจากที่คดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ 2 ราย และ ฎีกาคำพิพากษา ของศาลอุทธรณ์ อีก 1 ราย ทางอุทยานฯ จึงมีคำสั่งให้ดำเนินการรื้อถอนบ้านพักตากอากาศ และรีสอร์ท บนเกาะเสม็ด ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 โดยทางอุทยานฯ จะเริ่มดำเนินการรื้อถอน ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 55 เป็นต้นไป
ซึ่งจากการนำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าตรวจสอบความเรียบร้อยในครั้งนี้ พบว่าป้ายประกาศ ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด (แบบ อช.ม.22 ง.)ให้ผู้ประกอบการดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ที่ปิดประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการได้ทราบและให้ทำการรื้อถอน ไว้ ณ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 55 ได้ถูกรื้อถอนไปจากสถานที่ๆปิดประกาศไว้ โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่อ้างว่าไม่รู้หายไปใหน สงสัยจะถูกลมพัดไป
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหา "ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ"เพิ่มซึ่ง 1 ในรีสอร์ทหรู ที่ทางอุทยานเตรียมดำเนินการรื้อถอนนั้นพบว่า เป็นของภรรยานายพลตำรวจระดับสูงใน สตช.รวมอยู่ด้วย ส่วนผู้ประกอบการ ที่เหลือ อีก 57 ราย ซึ่งเข้ายึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติฯ บริเวณชายหาดแม่รำพึง ล่าสุด กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ซึ่งทางอุทยานฯจะเตรียมดำเนินการรื้อถอนต่อไป
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวยืนยันว่ากรณีที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในหน้าสื่อมวลชนในขณะนี้ มันไม่ควรที่จะเป็นข่าวเลย เพราะมันไม่มีอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะกรณี การรื้อบ้านทะเลหมอกรีสอร์ท อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี ที่นายสมัคร ดอนนาปี ผอ. สำนักจัดการที่ดินและป่าไม้ กรมป่าไม้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีการกล่าวหาว่า ตนที่เป็นอดีตอธิบดีป่าไม้ในขณะนั้น ปี 2543 ไม่ได้ ดำเนินการอะไร ส่อผิดกฎหมายอาญา ม.157 ว่า มันเป็นข้อมูลเท็จ ก็อย่างที่บอกไปแล้ว ว่า ตนเป็นคนเข้าจับกุมเป็นคนแรกตาม พ.ร.บ.กรมป่าไม้ มาตรา 22 ซึ่งเจ้าของรีสอร์ทก็ยอมไม่ขอสู้คดีความ แล้วจึงยกอาคารทั้ง 20 หลังให้เป็นกรรมสิทธิ์ทางราชการ
ทั้งนี้นายสมัคร น่าจะปัญหาความขัดแย้งกับตนก็เป็นได้ เพราะตั้งแต่สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ นายสมัครเองก็มีเรื่องการกล่าวหาว่ามีการทุจริต ซึ่งตนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีหน่วยงานเสนอเรื่องขึ้นมา ดังนั้น อาจทำให้นายสมัครไม่พอใจตนก็เป็นได้
"ผมทำถูกต้องทั้งหมด ทั้งเข้าจับกุม ดำเนินคดีลงโทษ ศาลก็ตัดสินไปแล้ว และเจ้าของเขาก็ไม่อุทธรณ์ด้วย ถามหน่อยเถอะถ้ามีคนยกให้อาคารให้ จะเอาหรือเปล่า แล้วเจ้าของรีสอร์ทก็ขอเช่าพื้นที่กับทางราชการต่อ แต่ก็ไม่ได้ให้เช่า เพราะทำไม่ได้กฎหมายห้ามเอาไว้ ทั้งนี้ อธิบดีกรมป่าไม้คนต่อๆ มาอีก หลายคนก็ไม่อนุญาตให้เช่นกัน ไม่ใช่คนเพียงคนเดียว แล้วเมื่อเจ้าของรีสอร์ทยอมยกที่ให้กับทางราชการแล้ว หากอยู่ๆ ไปทุบทำลายตึกสิ เราก็มีสิทธิ์ติดคุกได้เพราะถือเป็นทรัพย์สินทางราชการแล้ว " นายปลอดประสพ กล่าว
ขณะที่กรณีพื้นที่อุทยาน เกาะเสม็ด-เขาแหลมหญ้า จ.ระยอง ที่นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ประกาศจะเข้าไปจัดการรื้อถอนปลายเดือนนี้นั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า เป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์ เมื่อมีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ทางกรมธนารักษ์เอาไปให้เอกชนเช่าต่อเอง โดยมีคู่สัญญาเป็นกรมธนารักษ์โดยตรง ซึ่งมีกรมอัยการในขณะนั้นเป็นผู้ร่างสัญญาเช่าให้ด้วย รายได้ทั้งหมดก็เข้ากรมธนารักษ์ไม่ใช่กรมป่าไม้
ขอยกข้อมูลนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ ว่าขณะนี้ประเทศไทยมีอุทยานแห่งชาติกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ถามว่า ตอนนี้เองหากนั่งรถไปดูอุทยานแห่งชาติต่างๆ ไม่ต้องไปไกล เอาแค่ที่เขาใหญ่ นครราชสีมา ถามว่ามีร้านค้า ร้านอาหาร ที่ทางอุทยานให้เช่าหรือเปล่า ก็ต้องตอบว่ามีและเป็นการเก็บค่าเช่าทั้งหมด หากกล่าวอ้างว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยปละละเลย ไม่มีการจัดการ รื้อถอนรีสอร์ทออกไป ต้องใช้กฎหมาย อาญา ม.157 ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ถ้าเป็นเช่นนั้น หัวหน้ากรมอุทยานแห่งชาติกว่า 100 คน ตอนนี้มีความผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด แล้วถ้าเป็นอย่างนี้มันถูกต้องหรือไม่.
กำลังโหลดความคิดเห็น