xs
xsm
sm
md
lg

“ดำรงค์ พิเดช ” กำกับรื้อรีสอร์ตในเขตอุทยานฯ ทับลาน หวั่นหลุดมรดกโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - “ดำรงค์ พิเดช ” ลงพื้นที่ เร่งรื้อรีสอร์ตในเขตอุทยานฯ ทับลาน จ.ปราจีนบุรี หวั่นหลุดมรดกโลก ด้านผู้ประกอบการเผยเตรียมฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 500 ล้านบาท

เวลา 00.30 วันนี้ (28 ก.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะได้ลงมาในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมอุทยาน เพื่อสรุปแผนงาน และมาตรการรื้อรีสอร์ตในเขตพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครราชสีมา ทั้งสิ้นจำนวน 9 แห่ง

หลังจากมีกระแสข่าวว่าทางกรมอุทยานฯ จะเข้ามารื้อรีสอร์ตต่างๆ นั้น โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ก็ได้รับการต่อต้าน และคัดค้านจากกลุ่มนายทุน โดยส่งลูกน้องมาก่อกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เช่น บริเวณทะเลหมอกรีสอร์ท ซึ่งมีการเผายางรถยนต์บริเวณปากทางเข้า แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ได้ นอกจากนั้น ยังมีการขว้างระเบิดใส่ด่านเครื่องมือกล แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรบานปลาย โดยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด

นายดำรงค์ พิเดช กล่าวว่า การรื้อรีสอร์ตในพื้นที่เขตอุทยานฯ ในครั้งนี้ เนื่องจากมีคำตัดสินของศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญ เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เข้าร่วมประชุมกับนานาประเทศในเรื่องมรดกโลก ซึ่งนานาประเทศต่างให้ความสนใจกับปัญหานักลงทุนบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ซึ่งเป็นมรดกโลก หากไม่เร่งดำเนินการรื้อถอนภายในเดือน ก.พ. ปี 2556 ก็จะถูกถอนออกจากมรดกโลกทันที ซึ่งก็จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงชื่อกับประเทศไทย และหากไม่รื้อถอที่ทับลานให้เป็นตัวอย่าง ก็จะเป็นปัญหายืดเยื้อต่อไป อาจจะลุกลามไปถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทีมีกลุ่มคนบางกลุ่ม มายึดพื้นที่ของอุทยานฯ ไปใช้เป็นเป็นประโยชน์ส่วนตน

นายดำรงค์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อทำการรื้อรีสอร์ตทั้ง 9 แห่ง จากทั้งหมด 19 แห่ง พร้อมๆ กัน ซึ่งประมาณเกือบ 5,000 นาย ให้เข้ามาร่วมรับผิดชอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนที่จะต้องดำเนินการรื้อถอนในช่วงกลางคืนนั้น เป็นการลดการกระทบกระทั่งกับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้น เพื่อไม่ให้มีปัญหากับประชาชนในพื้นที่ หรือผู้ประกอบการรีสอร์ตที่ออกมาต่อต้านคัดค้าน ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาปานปลายได้

ขณะนี้พื้นที่อุทยานฯ ทับลาน มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ 50,000 ไร่ โดยถูกบุกรุกไปแล้ว ประมาณ 30,000 ไร่ และสามารถฟ้องร้อง และได้กลับคืนมาเป็นสมบัติของแผ่นดิน เพียง 3,000 ไร่ เท่านั้น โดยหากไม่รีบหยุดยั้งพื้นที่ที่ถูกบุกรุกในขณะนี้ ก็อาจจะขยาย หรือลุกลามไปพื้นที่อุทยานฯ แห่งอื่นอีกได้

นายดำรงค์ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ ตนจะเป็นผู้นำเข้าไปรื้อรีสอร์ต ชื่อ “ทะเลหมอก รีสอร์ท” ส่วนจุดอื่นๆ ก็จะมีผู้บริหารเข้าไปควบคุมในการรื้อถอนพร้อมกัน และขณะนี้ ก็ได้รับรายงานแล้วว่า ทุกพื้นที่เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร

ด้านนางวไลลักษณ์ วิชชาบุณศิริ เจ้าของทะเลหมอกรีสอร์ท เผยว่า ไม่เข้าใจว่าทำไม ทางอุทยานฯ จึงเข้ามารื้อถอน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่การบอกกล่าวมาก่อนเลยว่ารีสอร์ต ของตนจะถูกรื้อ และตอลดเวลาที่ผ่านมา ได้ให้บริการลูกค้าตามปกติมาโดยตลอดไม่เคยปิดทำการเลยจนถึงวันนี้ก็มีแขกมาเข้าพัก พร้อมคณะที่จะเข้ามาสัมมนา เพราะไม่คิดว่าจะถูกรื้อถอน

พื้นที่แห่งนี้ตนได้ซื้อสิทธิมาจากชาวบ้านอย่างถูกต้อง และได้ดำเนินการกว่า 15 ปี แล้ว ซึ่งสามารถสร้างอาชีพให้แก่คนพื้นที่ได้มีอาชีพทำกิน โดยที่ผ่านมา ในสมัยที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ดำรงตำแหน่ง ธิบดีกรมป่าไม้ ได้มีหนังสือแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการขอผ่อนผันการดำเนินกิจการในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน

โดยแจ้งว่า กรมป่าไม้จะนำที่ราชพัสดุมาจัดหาผลประโยชน์ โดยจัดให้เช่า แต่ตามกฎหมายแล้ว อธิบดีกรมป่าไม้ไม่สามารถนำที่ของอุทยานฯ ให้เช่าพื้นที่ได้ แต่หากเจ้าของกิจการจะดำเนินการต่อต้องมอบสิ่งปลูกสร้างให้แก่กรมป่าไม้ แต่ก็มาทำการยกเลิก โดยบอกว่า กฤษฎีกาตีความว่า ไม่มีอำนาจในการรับมอบอาคารได้ การดำเนินการที่ผ่านมาผิดกฎหมายอุทยานฯ หลังจากนั้น สั่งยกเลิกการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ

ตนมองว่าไม่มีเป็นธรรมต่อทางผู้ประกอบการ ทำไมเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ไปจัดการกับกลุ่มมี่เข้ามาบุกรุกดินแดนไทยตามแนวชายแดน เพราะเป็นคนต่างชาติที่เข้ามาหาผลประโยชน์ในแผ่นดินไทย แต่พวกเราเป็นคนไทยแท้ๆ กลับไม่มีพื้นที่ทำกิน ซึ่งหลังจากนี้ ตนจะไปยืนฟ้องศาลอาญา และศาลแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายของตัวอาคารและความเสียหายทางธุรกิจกว่า 500 ล้านบาท







นางวไลลักษณ์  วิชชาบุณศิริ  เจ้าของ  ทะเลหมอกรีสอร์ท
นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
กำลังโหลดความคิดเห็น