xs
xsm
sm
md
lg

อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงภูเก็ต ตรวจโครงการก่อสร้างสงสัยรุกที่อุทยาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจโครงการก่อสร้างที่สงสัยว่าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ เผยมีอยู่ประมาณ 10 ราย ยืนยันการตรวจพื้นที่ทำเหมือนกันทุกราย ถ้าผิดก็ดำเนินคดี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (11 ก.ค.) นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการก่อสร้างโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นหมู่ที่ 4 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการก่อสร้างในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยมีการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ในการเข้าตรวจสอบ และทำการรังวัดแนวเขตพื้นที่จากหน่วยต่างๆ จำนวน 15 ชุด รวมประมาณ 300 นาย โดยสภาพพื้นที่ที่เข้าไปตรวจสอบพบว่า อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีความลาดชัน มองจากด้านบนก็จะเห็นวิวทะเลบริเวณหาดในทอนได้อย่างชัดเจน ขณะที่ด้านหลังโครงการ ก็มีพื้นที่ติดกับเขตอุทยานฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 39 ไร่เศษ เป็นเอกสารจำนวน 9 ฉบับ แบ่งเป็นโฉนด 6 ฉบับ น.ส.3 ก. 2 ฉบับ และ น.ส.3 จำนวน 1 ฉบับ แต่มีบางส่วนที่อาจจะมีปัญหา และอยู่ในเขตอุทยานฯ

นายดำรงค์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบ ว่า ตามที่ได้สั่งให้มีการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถเมื่อประมาณปี 2548-2549 แต่ปรากฏว่า หลังจากดำเนินการได้ระยะหนึ่งก็ต้องหยุดชะงักไป และจากการลงมาตรวจราชการครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา พบว่า มีการก่อสร้างโรงแรมที่พัก และรีสอร์ต ในพื้นที่ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในเขตอุทยานฯ แต่เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่า การก่อสร้างดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานฯ หรือไม่ จึงได้สั่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสารสิทธิ และปราบปรามการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถขึ้นมาเพื่อตรวจสอบที่ดินดังกล่าว

จากการตรวจพบว่า เบื้องต้นมีการก่อสร้างรีสอร์ต จำนวนประมาณ 10 แห่ง อยู่ในเขตอุทยานฯ จึงได้สั่งการให้มีการตรวจสอบเอกสารที่ดินของโครงการต่างๆ อย่างละเอียด โดยใช้ข้อมูลบางส่วนจากหลักฐานเอกสารสิทธิที่มีการนำไปยื่นเพื่อขอจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอในการก่อสร้าง แต่ปรากฏว่า ยังขาดเอกสารบางส่วนซึ่งจะตรวจสอบความชัดเจน โดยเฉพาะที่มาของการออกเอกสารสิทธิ และเรื่องของแนวเขต

“ซึ่งก็ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่เร่งไปดำเนินการหาหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนนี้แล้ว และในการดำเนินการตรวจสอบที่ดินทั้ง 10 รายในพื้นที่บริเวณเดียวกันนั้น จะตั้งคณะทำงานมาตรวจสอบในแต่ละแปลง เพื่อให้เกิดความชัดเจน ยืนยันว่า การเข้ามาตรวจสอบในครั้งนี้ไม่ได้มีคำสั่งจากใคร หรือเป็นการกลั่นแกล้งใคร ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ตเล็ก หรือรีสอร์ตใหญ่ ทำเหมือนกันหมด เพราะตนไม่ได้รู้จักกับเจ้าของโครงการ ซึ่งหากมีหลักฐานที่ชัดเจนก็สามารถที่จะเอามายืนยันได้ แต่หากพบว่า มีการทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เราต้องเอาผืนป่าคืนมาให้ได้ พื้นที่สาธารณะมือใครยาวสาวได้สาวเอาไม่ได้แล้ว ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุดภายใน 1 เดือน เพื่อจะไม่ให้เป็นภาระของอธิบดีคนใหม่ที่ต้องมีรับภาระอะไรต่อไป”

นายดำรง กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่บุกรุกของจังหวัดภูเก็ตนั้น ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ในส่วนของกรมป่าไม้ กับกรมอุทยานฯ โดยในส่วนของกรมป่าไม้ก็มีการตรวจสอบกันอยู่ แต่อำนาจจะไม่มากเหมือนกรมอุทยานฯ ซึ่งมีอำนาจตามมาตรา 22 สามารถใช้อำนาจอธิบดีฯ เพิกถอนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องให้ศาลสั่ง หลังจากนั้น ต้องไปสู้กันในกระบวนการยุติธรรม การลงมาตรวจสอบครั้งนี้ไม่ได้เชือดไก่ให้ลิงดู แต่ทำตามหน้าที่ ตามกฎหมาย หากไม่ทำจะไม่รู้เลยว่าพื้นที่ดินของกรมอุทยานฯ เหลือเท่าไร

นอกจากนี้ นายดำรงกล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า มีเจ้าหน้าที่รับเงินสินบน ว่า “ผมไม่เชื่อ ซึ่งอาจจะเป็นการใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ก็ได้ ผมเชื่อเด็กของผม ไม่มีใครเอนเอียง ไม่มีทางเป็นไปได้ เด็กของผมไม่มีใครกล้า หากกล้าก็ไม่จบเพราะผมไม่เอาด้วย คุณรับก็รับไป ผมก็จับตามหน้าที่ของผม”

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เข้าตรวจสอบที่ดินนั้น ทางผู้ควบคุมโครงการก่อสร้างก็ได้มาชี้แจงต่อทางอธิบดีฯ และยืนยันว่า มีเอกสารสิทธิในการดำเนินการอย่างถูกต้อง ซึ่งทางอธิบดีฯ ก็ให้นำมาแสดงต่อทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ และยืนยันว่า หากถูกต้องก็ไม่มีปัญหา





กำลังโหลดความคิดเห็น