วานนี้(12 ส.ค.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณีนายสมัคร ดอนนาปี ผอ.สำนักจัดการที่ดินและป่าไม้ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เข้าทวงถามความคืบหน้าการดำเนินคดีอาญากรณีการส่งเสือโคร่งเบงกอลไปประเทศจีนกับสำนักงานอัยการสูงสุด ว่า ในส่วนคดีส่งเสือโคร่งไปจีน เป็นคดีปกติ ในส่วนของคดีอาญาก็ว่ากันไปตามขั้นตอนตามกฎหมายของ ป.ป.ช. และอัยการสูงสุด ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ว่าตนเป็นรัฐมนตรีแล้วจึงไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. ตนก็ย่อมได้รับการคุ้มครองตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด
ทั้งนี้นายสมัครมีความแค้นกับตนเป็นการส่วนตัว เนื่องจากถูกย้ายจากหัวหน้าหน่วยป้องกันไฟป่าสมัยตนเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ เขาจึงโกรธตนกับ นายธานี วิระยะรัตนพรผอ.สำนักป้องกันไฟป่าขณะนั้น ซึ่งเป็นหัวหน้าของเขาถึงกับไปเปลี่ยนชื่อตัวเองว่า เหนือธานี และกล่าวหาตนกับนายธานีว่าไปกลั่นแกล้งเขา ซึ่งนายธานีมีการฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท มีการดำเนินคดีกัน และศาลตัดสินจำคุกนายสมัคร แต่ให้รอลงอาญา นอกจากนั้นนายสมัครยังมีกรณีโกงค่าเบี้ยเลี้ยงของลูกน้อง หรือทุจริตอมเงินหลวง ซึ่ง อกพ.กรมป่าไม้ และอกพ.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีมติให้ปลดออก แต่นายวิษณุ เครืองาม ประธาน อกพ. กระทรวงเกษตรฯ ในเวลานั้นมีเมตตาจึงให้เพียงให้ลดขั้นเงินเดือน ซึ่งเรื่องนี้นายสมัครก็โกรธตนอีก และทำเรื่องฟ้อง ซึ่งต่อมาศาลก็ยกฟ้อง และนายสมัครต้องเปลี่ยนมาใช้ชื่อเดิม
“สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมพบกับนายสมัครที่สนามบิน จ.เชียงใหม่ ระหว่างกำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังการประชุมเรื่องปลูกป่า นายสมัครเจอผมก็ด่าผมใหญ่โต ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผมไม่ยอมแน่และจะฟ้องนายสมัครแน่นอน ” นายปลอดประสพกล่าว
ส่วนกรณีบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทรีสอร์ทที่ระบุว่านายปลอดประสพพยายามดำเนินการให้มีการเช่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานต่อนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า กรณีบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทตนไปจับกุมเมื่อปี 2543 และ ศาลตัดสินเมื่อปี 2544 ตนฟ้องแพ่งและอาญาแต่เขาไม่อุทธรณ์ และเขาจะยกที่ดิน อาคาร 20 หลังให้ทางราชการ เราก็ยกอาคารมาขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ ตนจะต้องไปทุบทำไมในเมื่อเขายกให้ จากนั้นทางบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทขอเช่า แต่ก็ไม่เคยมีการให้เช่าเลย การที่บอกว่าตนจะให้เช่านั้น เขาโกหก จากนั้นเปลี่ยนอธิบดีกรมอุทยานฯ และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไปอีกหลายคนก็ยังมีเรื่องนี้อยู่ จนคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาว่าให้เช่าไม่ได้
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามมีข้อยกเว้นกรณีที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ตนไปจับดำเนินดคีอาญาและแพ่ง ต่อมาก็มีการเอาไปขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ให้เช่าได้ โดยกรมอัยการในสมัยนั้นเป็นฝ่ายทำเรื่องไปที่กรมธนารักษ์ เมื่อถามว่าเจ้าของรีสอร์ทเป็นฝ่ายนำเอกสารลงลายมือนายปลอดประสพในเรื่องการพิจารณาให้เช่าพื้นที่อุทยานฯ ทับลานมาเปิดเผย นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในเรื่องเอกสารก็อ้างได้ เขาทำหนังสือถึงอธิบดีกี่คนตนก็ไม่ทราบ ว่าขอเช่า แต่ไม่เคยมีใครให้เช่า เราแนะนำเขาว่าอย่ารื้อเลย ให้เราเสีย แล้ววันหนึ่งค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะในในพื้นที่เกาะเสม็ดกรมธนารักษ์สามารถดำเนินการได้ ถ้าผิดก็ต้องผิดที่กรมอัยการหรือหน่วยงานที่ทำกรณีเกาะเสม็ด
“ถามว่าการให้เช่าพื้นที่ทำร้านอาหาร ร้านค้า ในอุทยานฯ ทำได้หรือไม่ ก็เห็นทำกันในทุกอุทยานฯ แล้วเอาระเบียบตรงไหนมาทำ ถ้าให้เช่าพื้นที่แล้วผิด ร้านค้า ร้านอาหารในทุกอุทยานฯ ก็ถือว่าผิดหมด ผมเสียใจมาก โดยเฉพาะกรณีนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบกรณีเข้ารื้อถอนบ้านทะเลหมอก นายดำรงค์ถือเป็นลูกน้องในกุฎิของผมที่ผมสร้างขึ้นมา แต่การที่นายดำรงค์ถูกตั้งกรรมการสอบมาเกี่ยวกับผมได้อย่างไร เพราะผมไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.สัญจร ที่จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาโดยไปเจรจาเรื่องนาซา และเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 2 ส.ค. นี้ เมื่อกลับมาก็มาเจอกับข่าวแบบนี้ เขาจะรักษาป่าได้ผมก็ดีใจและภูมิใจ เมื่อก่อนพวกนี้ก็เดินตามผมแต่ไปๆ มาๆ ผมกลับเป็นคนผิด" นายปลอดประสพกล่าวทิ้งท้าย.
ด้านนายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินและป่าไม้ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง การเตรียมยื่นเอกสารให้ ป.ป.ช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกับนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ไม่ดำเนินการรื้อถอนบ้านทะเลหมอกรีสอร์ต ทั้งที่ศาลพิพากษาว่ามีความผิดและให้รื้อถอน โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหากับนายปลอดประสพ แม้จะเคยมีเรื่องขัดแย้งกันจริง แต่นานมาแล้ว และเรื่องได้จบลงไปแล้ว แต่ต้องการความเป็นธรรมกรณีนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้าไปรื้อถอนการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อีกทั้งที่เรื่องนี้น่าจะดำเนินการตั้งนานแล้ว สมัยที่นายปลอดประสพ เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ จนถึงเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ แต่ไม่ได้ดำเนินการ ถือว่าเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่ และจะไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. แต่ขอดูเอกสาร หลักฐานทั้งหมดก่อน ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะทำอย่างไร คิดว่าถ้าอ่านเอกสารครบถ้วนทั้งหมดแล้วจะให้คำตอบ เพราะหากทำอะไรไปโดยปราศจากหลักฐานดูจะไม่เหมาะ
ด้านนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวว่า กรณีของนายปลอดประสพ อาจเกี่ยวข้องกับการรื้อถอนบ้านทะเลหมอก ที่นายดำรงค์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปรื้อ และทางเจ้าของรีสอร์ต บอกว่านายปลอดประสพ รับปากว่าจะให้เช่า ซึ่งที่ผ่านมานายปลอดประสพ ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า เป็นคนแรกที่เข้าไปจัดการกับรีสอร์ตที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยส่วนตัวเห็นว่านายปลอดประสพอาจจะหวังดี ในเมื่อเขาสร้างขึ้นมาแล้วไม่อยากให้ทุบให้เสียของ น่าจะโอนให้ราชการมาใช้ประโยชน์จะดีกว่า แต่ความหวังดีนั้นอาจจะเป็นยาพิษ จึงเป็นปัญหาขึ้นมา ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความชัดเจนแล้วว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ไม่สามารถให้เอกชนเช่าได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนการที่กรมอุทยานกำลังจะไปรื้อรีสอร์ตกลางน้ำที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ปลายเดือนนี้ ทางนายดำรงค์ ได้แจ้งให้ทราบเรียบร้อยแล้ว และตนขอร้องว่า ให้ทำด้วยความละมุนละม่อม และให้ไปดำเนินการในตอนกลางวัน อย่าไปกลางคืน เพราะจะทำให้ผู้คนตกใจ ซึ่งนายดำรงค์ได้รับปาก อย่างไรก็ตาม เรื่องการรื้อถอนเป็นหน้าที่ ใครละเลยต้องเจอมาตรา 157 อาจถึงขั้นติดคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้ รู้สึกเสียดายที่นายดำรงค์ จะเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วัน เพราะเป็นคนมีความรู้ความสามารถดีมาก โดยตั้งใจว่าจะแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากระทรวงทรัพยากรฯ แต่เท่าที่คุยล่าสุดนายดำรงค์ บอกว่าเหนื่อยแต่จะทำหน้าที่จนวันสุดท้าย และหลังเกษียณอายุแล้วตั้งใจจะไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหมู ที่ จ.เชียงราย
ด้านนาย เทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า ขณะนี้มีรีสอร์ต และบ้านพักตากอากาศที่อยู่ระหว่างดำเนินการรื้อถอนอีก 22 หลัง เป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่ 2 หลัง คือ บ้านผางามรีสอร์ต และอิมภูฮิม รีสอร์ต ก่อนหน้านี้ ทั้งหมดร้องขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว และให้เพิกถอนคำสั่งการรื้อถอน แต่ศาลไม่คุ้มครอง และไม่เพิกถอนคำสั่งเกือบทั้งหมด แต่เพื่อความรอบคอบ อยู่ระหว่างให้ฝ่ายนิติกร ตรวจสอบขั้นตอนที่จะดำเนินการรื้อถอนอยู่
สำหรับบ้านทะเลหมอกรีสอร์ต ขณะนี้อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่เอาเศษวัสดุต่างๆ ออกให้หมด ควบคู่ไปกับให้ฝ่ายวิศวกรรมของกรมอุทยานฯ ประเมินค่ารื้อถอนทั้งหมดว่าเป็นเงินเท่าไร เพื่อจะไปฟ้องร้องทางแพ่งให้เจ้าของรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะประมาณ 12.7 ล้านบาท.
ทั้งนี้นายสมัครมีความแค้นกับตนเป็นการส่วนตัว เนื่องจากถูกย้ายจากหัวหน้าหน่วยป้องกันไฟป่าสมัยตนเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ เขาจึงโกรธตนกับ นายธานี วิระยะรัตนพรผอ.สำนักป้องกันไฟป่าขณะนั้น ซึ่งเป็นหัวหน้าของเขาถึงกับไปเปลี่ยนชื่อตัวเองว่า เหนือธานี และกล่าวหาตนกับนายธานีว่าไปกลั่นแกล้งเขา ซึ่งนายธานีมีการฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท มีการดำเนินคดีกัน และศาลตัดสินจำคุกนายสมัคร แต่ให้รอลงอาญา นอกจากนั้นนายสมัครยังมีกรณีโกงค่าเบี้ยเลี้ยงของลูกน้อง หรือทุจริตอมเงินหลวง ซึ่ง อกพ.กรมป่าไม้ และอกพ.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีมติให้ปลดออก แต่นายวิษณุ เครืองาม ประธาน อกพ. กระทรวงเกษตรฯ ในเวลานั้นมีเมตตาจึงให้เพียงให้ลดขั้นเงินเดือน ซึ่งเรื่องนี้นายสมัครก็โกรธตนอีก และทำเรื่องฟ้อง ซึ่งต่อมาศาลก็ยกฟ้อง และนายสมัครต้องเปลี่ยนมาใช้ชื่อเดิม
“สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมพบกับนายสมัครที่สนามบิน จ.เชียงใหม่ ระหว่างกำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังการประชุมเรื่องปลูกป่า นายสมัครเจอผมก็ด่าผมใหญ่โต ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดผมไม่ยอมแน่และจะฟ้องนายสมัครแน่นอน ” นายปลอดประสพกล่าว
ส่วนกรณีบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทรีสอร์ทที่ระบุว่านายปลอดประสพพยายามดำเนินการให้มีการเช่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานต่อนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า กรณีบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทตนไปจับกุมเมื่อปี 2543 และ ศาลตัดสินเมื่อปี 2544 ตนฟ้องแพ่งและอาญาแต่เขาไม่อุทธรณ์ และเขาจะยกที่ดิน อาคาร 20 หลังให้ทางราชการ เราก็ยกอาคารมาขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ ตนจะต้องไปทุบทำไมในเมื่อเขายกให้ จากนั้นทางบ้านทะเลหมอกรีสอร์ทขอเช่า แต่ก็ไม่เคยมีการให้เช่าเลย การที่บอกว่าตนจะให้เช่านั้น เขาโกหก จากนั้นเปลี่ยนอธิบดีกรมอุทยานฯ และปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ไปอีกหลายคนก็ยังมีเรื่องนี้อยู่ จนคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความออกมาว่าให้เช่าไม่ได้
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามมีข้อยกเว้นกรณีที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ตนไปจับดำเนินดคีอาญาและแพ่ง ต่อมาก็มีการเอาไปขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ให้เช่าได้ โดยกรมอัยการในสมัยนั้นเป็นฝ่ายทำเรื่องไปที่กรมธนารักษ์ เมื่อถามว่าเจ้าของรีสอร์ทเป็นฝ่ายนำเอกสารลงลายมือนายปลอดประสพในเรื่องการพิจารณาให้เช่าพื้นที่อุทยานฯ ทับลานมาเปิดเผย นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในเรื่องเอกสารก็อ้างได้ เขาทำหนังสือถึงอธิบดีกี่คนตนก็ไม่ทราบ ว่าขอเช่า แต่ไม่เคยมีใครให้เช่า เราแนะนำเขาว่าอย่ารื้อเลย ให้เราเสีย แล้ววันหนึ่งค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะในในพื้นที่เกาะเสม็ดกรมธนารักษ์สามารถดำเนินการได้ ถ้าผิดก็ต้องผิดที่กรมอัยการหรือหน่วยงานที่ทำกรณีเกาะเสม็ด
“ถามว่าการให้เช่าพื้นที่ทำร้านอาหาร ร้านค้า ในอุทยานฯ ทำได้หรือไม่ ก็เห็นทำกันในทุกอุทยานฯ แล้วเอาระเบียบตรงไหนมาทำ ถ้าให้เช่าพื้นที่แล้วผิด ร้านค้า ร้านอาหารในทุกอุทยานฯ ก็ถือว่าผิดหมด ผมเสียใจมาก โดยเฉพาะกรณีนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ ที่ถูกตั้งคณะกรรมการสอบกรณีเข้ารื้อถอนบ้านทะเลหมอก นายดำรงค์ถือเป็นลูกน้องในกุฎิของผมที่ผมสร้างขึ้นมา แต่การที่นายดำรงค์ถูกตั้งกรรมการสอบมาเกี่ยวกับผมได้อย่างไร เพราะผมไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.สัญจร ที่จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่อยู่ที่สหรัฐอเมริกาโดยไปเจรจาเรื่องนาซา และเดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 2 ส.ค. นี้ เมื่อกลับมาก็มาเจอกับข่าวแบบนี้ เขาจะรักษาป่าได้ผมก็ดีใจและภูมิใจ เมื่อก่อนพวกนี้ก็เดินตามผมแต่ไปๆ มาๆ ผมกลับเป็นคนผิด" นายปลอดประสพกล่าวทิ้งท้าย.
ด้านนายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักจัดการที่ดินและป่าไม้ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง การเตรียมยื่นเอกสารให้ ป.ป.ช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกับนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ไม่ดำเนินการรื้อถอนบ้านทะเลหมอกรีสอร์ต ทั้งที่ศาลพิพากษาว่ามีความผิดและให้รื้อถอน โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหากับนายปลอดประสพ แม้จะเคยมีเรื่องขัดแย้งกันจริง แต่นานมาแล้ว และเรื่องได้จบลงไปแล้ว แต่ต้องการความเป็นธรรมกรณีนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้าไปรื้อถอนการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อีกทั้งที่เรื่องนี้น่าจะดำเนินการตั้งนานแล้ว สมัยที่นายปลอดประสพ เป็นอธิบดีกรมป่าไม้ จนถึงเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ แต่ไม่ได้ดำเนินการ ถือว่าเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่ และจะไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. แต่ขอดูเอกสาร หลักฐานทั้งหมดก่อน ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะทำอย่างไร คิดว่าถ้าอ่านเอกสารครบถ้วนทั้งหมดแล้วจะให้คำตอบ เพราะหากทำอะไรไปโดยปราศจากหลักฐานดูจะไม่เหมาะ
ด้านนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวว่า กรณีของนายปลอดประสพ อาจเกี่ยวข้องกับการรื้อถอนบ้านทะเลหมอก ที่นายดำรงค์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปรื้อ และทางเจ้าของรีสอร์ต บอกว่านายปลอดประสพ รับปากว่าจะให้เช่า ซึ่งที่ผ่านมานายปลอดประสพ ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า เป็นคนแรกที่เข้าไปจัดการกับรีสอร์ตที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน โดยส่วนตัวเห็นว่านายปลอดประสพอาจจะหวังดี ในเมื่อเขาสร้างขึ้นมาแล้วไม่อยากให้ทุบให้เสียของ น่าจะโอนให้ราชการมาใช้ประโยชน์จะดีกว่า แต่ความหวังดีนั้นอาจจะเป็นยาพิษ จึงเป็นปัญหาขึ้นมา ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตีความชัดเจนแล้วว่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ไม่สามารถให้เอกชนเช่าได้ ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนการที่กรมอุทยานกำลังจะไปรื้อรีสอร์ตกลางน้ำที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ปลายเดือนนี้ ทางนายดำรงค์ ได้แจ้งให้ทราบเรียบร้อยแล้ว และตนขอร้องว่า ให้ทำด้วยความละมุนละม่อม และให้ไปดำเนินการในตอนกลางวัน อย่าไปกลางคืน เพราะจะทำให้ผู้คนตกใจ ซึ่งนายดำรงค์ได้รับปาก อย่างไรก็ตาม เรื่องการรื้อถอนเป็นหน้าที่ ใครละเลยต้องเจอมาตรา 157 อาจถึงขั้นติดคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้ รู้สึกเสียดายที่นายดำรงค์ จะเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วัน เพราะเป็นคนมีความรู้ความสามารถดีมาก โดยตั้งใจว่าจะแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษากระทรวงทรัพยากรฯ แต่เท่าที่คุยล่าสุดนายดำรงค์ บอกว่าเหนื่อยแต่จะทำหน้าที่จนวันสุดท้าย และหลังเกษียณอายุแล้วตั้งใจจะไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหมู ที่ จ.เชียงราย
ด้านนาย เทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า ขณะนี้มีรีสอร์ต และบ้านพักตากอากาศที่อยู่ระหว่างดำเนินการรื้อถอนอีก 22 หลัง เป็นรีสอร์ตขนาดใหญ่ 2 หลัง คือ บ้านผางามรีสอร์ต และอิมภูฮิม รีสอร์ต ก่อนหน้านี้ ทั้งหมดร้องขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว และให้เพิกถอนคำสั่งการรื้อถอน แต่ศาลไม่คุ้มครอง และไม่เพิกถอนคำสั่งเกือบทั้งหมด แต่เพื่อความรอบคอบ อยู่ระหว่างให้ฝ่ายนิติกร ตรวจสอบขั้นตอนที่จะดำเนินการรื้อถอนอยู่
สำหรับบ้านทะเลหมอกรีสอร์ต ขณะนี้อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่เอาเศษวัสดุต่างๆ ออกให้หมด ควบคู่ไปกับให้ฝ่ายวิศวกรรมของกรมอุทยานฯ ประเมินค่ารื้อถอนทั้งหมดว่าเป็นเงินเท่าไร เพื่อจะไปฟ้องร้องทางแพ่งให้เจ้าของรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะประมาณ 12.7 ล้านบาท.