xs
xsm
sm
md
lg

อัดดีเอสไอรับใช้การเมือง ขู่ฟ้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (8ส.ค.) ที่รัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกตัวผู้บริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วม ผ่านทางพรรคประชาธิปัตย์ มาให้ถ้อยคำทั้ง 191 ราย ว่า ขณะนี้การกระทำของดีเอสไอ กำลังสร้างความตื่นตระหนก และความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริจาคโดยมีการใช้อำนาจรัฐข่มขู่ ใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือ โดยสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ได้ออกหนังสือขอเชิญผู้บริจาคเข้าให้ถ้อยคำ ต่อพนักงานสอบสวน และส่งมอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้บริจาคบางรายบริจาคเงินขั้นต่ำเพียง 100-500 บาท หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่เป็นอัมพฤกษ์ รวมทั้งคนที่อยู่ต่างจังหวัด เช่น จ.สงขลา ก็ยังต้องเดินทางมาให้ถ้อยคำ เพราะกลัวว่าจะเป็นความผิด
ทั้งนี้ตนได้ตั้งข้อสังเกตถึงขั้นตอนการสอบสวนที่มีความผิดปกติ เพราะมีความพยายามสอบถามถึงเรื่องธุรกิจส่วนตัว และเชื่อมโยงว่าเหตุใดถึงบริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งคาดว่า จะมีการขยายผลเชิงลึกไปยังผู้บริจาคอี่นๆ ด้วย เชื่อว่าเรื่องนี้มีการนำประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเหมือนมีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า ซึ่งเมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ใช้อำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม นายสาทิตย์ เรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม หยุดใช้อำนาจรัฐ โดยใช้ดีเอสไอ เป็นเครื่องมือรังแกประชาชนได้แล้ว ทั้งนี้ตนจะนำเรื่องนี้ร้องต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าการทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่และกำลังกลั่นแกล้งประชาชนให้ตกเป็นเครื่องมือ เพราะจากการสอบถามผู้บริจาค เขาก็มองว่า ทั้งที่เป็นคนช่วยบ้านเมืองโดยร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วม แต่ทำไมต้องโดนสอบสวนเหมือนกับโจรผู้ร้าย ซึ่งตนมองว่าประชาชน ไม่ใช่ผู้ต้องหาแต่อย่างใด และคดีนี้ทางดีเอสไอ ก็ไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่กลับมีการแจ้งหนังสือไปยังประชาชนทุกราย จึงเห็นว่า ควรใช้วิธีตรวจสอบทางอื่นหรือไม่ ไม่ใช่มาเล่นเกมการเมืองอย่างนี้

**ฟ้องดีเอสไอปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

วานนี้ ( 8 ส.ค.) นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษานายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลรายละเอียดข้อเท็จจริง กรณีทำสัญญาเดินรถไฟฟ้ากับ บริษัทระบบส่งขนมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เพื่อฟ้องร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบธรรม ตามมาตรา 157 ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ภายหลังที่ผ่านมากทม.ได้ชี้แจงรายละเอียดกับ 12 หน่วยงาน แต่มีแค่ ดีเอสไอเท่านั้น ที่พยายามไม่เข้าใจ และให้ข่าวเป็นลบกับกทม. รวมทั้งแถลงข่าวทั้งที่ยังไม่ได้ข้อมูลมาโดยตลอด
นายอัศวัชร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กทม.จะเตรียมคำวินิจฉัยเกี่ยวกับ คำสั่งคณะปฎิวัติ 58 และพ.ร.บ.ร่วมทุนของคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อปี 2555 , 2535 , 2546 และ2550 ให้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้รับทราบ โดยจะส่งไปรษณีย์ถึงกคพ. ฝ่ายผู้ทรงคุณวุฒิชุดใหม่ และคณะกรรมการทั้งหมดทุกคน ให้ทราบข้อเท็จจริงก่อนการประชุมอีกครั้ง เพื่อให้พิจารณาคดีด้วยความรอบคอบและเที่ยงธรรมด้วย ทั้งนี้ กทม.เคารพสิทธิเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด แต่กทม.ต้องขอใช้สิทธิตามกฎหมาย เนื่องจากมื่อปี 2549 กคพ. เคยถูกร้องเรียนกรณีรับเรื่องที่กคพ.ไม่มีอำนาจมาแล้วเช่นกัน
"ดีเอสไอ มีความพยายามจะผลักดันเรื่องบีทีเอส ให้เป็นคดีพิเศษให้ได้ สิ่งที่ กทม.กลัวคือการใช้อำนาจแบบไม่เป็นธรรม ให้คณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณา อาจจะสร้างความเสื่อมเสียขององค์กรในกระบวนการยุติธรรม และนำไปสู่ความรับผิดชอบทางกฎหมายได้" นายอัศวัชร์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น