กทม.เข้าใจเหตุ “ธาริต” พยายามทำจ้างบีทีเอสเดินรถเป็นคดีพิเศษ เหตุใกล้โยกย้าย เผยพร้อมส่งเอกสารข้อเท็จจริงให้คณะกรรมการคดีพิเศษชุดใหม่พิจารณา
วันนี้ (7 ส.ค.) เวลา 13.30 น. นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษา นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงข่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ออกมาแถลงข่าวว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือตอบกลับข้อซักถามของดีเอสไอใน 2 ประเด็น คือ โครงการระบบขนส่งมวลชนของ กทม.ที่ได้ดำเนินการเมื่อปี 2535 เป็นกิจการเกี่ยวกับรถราง ซึ่ง รมว.มหาดไทย ได้เคยอนุมัติให้สัมปทานตามประกาศคณะปฏิบัติที่ 58 ดังนั้น การที่กทม.ทำสัญญาจ้างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ เคที บริหารโครงการระบบขนส่งมวลชน และต่อมาได้ทำสัญญาจ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง จึงเป็นการดำเนินการที่มีลักษณะเป็นกิจการรถราง ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ในบังคับประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 ซึ่งจากการตรวจสอบยังไม่ปรากฏว่า รมว.มหาดไทย ได้เคยอนุญาต หรือให้สัมปทานเกี่ยวกับสัญญาทั้ง 2 ฉบับ ดังนั้น จึงถือว่าการต่อสัญญาทั้ง 2 ฉบับเป็นอำนาจของมหาดไทยไม่ใช่ กทม.
นายอัศวัชร์ กล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่า กทม.ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.บริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ในการว่าจ้างเคทีบริหารระบบสาธารณูปโภค และสามารถจ้างบีทีเอสเดินรถไฟฟ้าได้ ซึ่งได้ยืนยันมาโดยตลอดว่า ไม่ได้แตะ ไม่ได้ต่อสัญญาสัมปทาน หากเกี่ยวข้องกับสัมปทานต้องขออนุญาต รมว.มหาดไทย อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นอำนาจโดยตรง แต่การจ้างเดินรถไฟฟ้า สามารถใช้อำนาจของผู้ว่าฯ กทม.บริหารงานได้ อย่างไรก็ตาม จากนี้ดีเอสไอจะทำหนังสือถึง กทม.เคที และกลุ่มบริษัท ธนายง ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ได้รับสัมปทานบีทีเอส เพื่อให้ทั้ง 3 หน่วยงานชี้แจงกลับมา และเมื่อดีเอสไอได้รับคำตอบแล้วก็เสนอเรื่องให้ประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็น กคพ.ชุดใหม่ เนื่องจากชุดเดิมจะหมดวาระในวันที่ 7 กันยายนนี้
“ ผมเข้าใจอธิบดีดีเอสไอที่ต้องพยายามทำเรื่องบีทีเอสเป็นคดีพิเศษให้ได้ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ใกล้ฤดูโยกย้าย ผมตั้งข้อสังเกตว่า มีนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง และอาจจะดึงเรื่องนี้ลากยาวไปจนถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สมัยหน้า เพื่อดิสเครดิต” นายอัศวัชร์ กล่าว
นายอัศวัชร์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ กทม.พร้อมส่งเอกสารชี้แจง กคพ.ชุดใหม่อีกครั้ง และเป็นเอกสารที่เคยนำชี้แจง กคพ.มาแล้ว อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอสามารถพิจารณาเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษได้ตั้งแต่ที่มีการประชุม กคพ.ครั้งที่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องยื้อเรื่องนี้เอาไว้ จึงอยากให้ กคพ.ชุดต่อไปพิจารณาอย่างรอบคอบและรอบด้าน เพื่อผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ
