“สาทิตย์” โวยนายกฯ-รมว.ยุติธรรมใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายค้าน สั่งตรวจสอบผู้บริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วมผ่าน ปชป. แม้คนแก่ที่เป็นอัมพฤกษ์ก็ไม่เว้น จี้หยุดใช้อำนาจรัฐรังแกประชาชน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียกตัวผู้บริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วมผ่านไปยังพรรคประชาธิปัตย์มาให้ถ้อยคำทั้ง 191 รายว่า การกระทำของดีเอสไอกำลังสร้างความตื่นตระหนกและความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้บริจาคโดยมีการใช้อำนาจรัฐข่มขู่โดยใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือ โดยสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ได้ออกหนังสือขอเชิญผู้บริจาคเข้าให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนและส่งมอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้บริจาคบางรายบริจาคเงินขั้นต่ำเพียง 100-500 บาท หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่เป็นอัมพฤกษ์รวมทั้งคนที่อยู่ต่างจังหวัด เช่น สงขลา ก็ยังต้องเดินทางมาให้ถ้อยคำเพราะกลัวว่าจะเป็นความผิด
ทั้งนี้ ตนได้ตั้งข้อสังเกตถึงขั้นตอนการสอบสวนที่มีความผิดปกติ เพราะมีความพยายามสอบถามถึงเรื่องธุรกิจส่วนตัวและเชื่อมโยงว่าเหตุใดถึงบริจากให้แก่พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งคาดว่าจะมีการขยายผลเชิงลึกไปยังผู้บริจาคอี่นๆ ด้วย เชื่อว่าเรื่องนี้มีการนำประเด็นการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และเหมือนมีการตั้งธงไว้ล่วงหน้า ซึ่งเมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ใช้อำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง
นายสาทิตย์เรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หยุดใช้อำนาจรัฐโดยใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องรังแกประชาชนได้แล้ว ทั้งนี้ตนจะนำเรื่องนี้ร้องต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าการทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ และกำลังกลั่นแกล้งประชาชนให้ตกเป็นเครื่องมือ เพราะจากการสอบถามผู้บริจาคเขาก็มองว่าทั้งที่เป็นคนช่วยบ้านเมืองโดยร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วม แต่ทำไมต้องโดนสอบสวนเหมือนกับโจรผู้ร้าย ซึ่งส่วนตัวตนมองว่าประชาชนไม่ใช่ผู้ต้องหาแต่อย่างใด และคดีนี้ทางดีเอสไอก็ไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่กลับมีการแจ้งหนังสือไปยังประชาชนทุกราย จึงเห็นว่าควรใช้วิธีตรวจสอบทางอื่นหรือไม่ ไม่ใช่เล่นเกมการเมืองแบบนี้
