“แหม่ม วิชุดา” แจ้งจับแม่บ้านย่องลักทรัพย์

ดาราสาว “แหม่ม วิชุดา” แจ้งความจับแม่บ้านแสบ แอบย่องเข้าบ้านลักทรัพย์ ต่อหน้าพ่อซึ่งนอนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ พร้อมมอบภาพที่กล้องวงจรปิดจับไว้ได้ให้เป็นหลักฐาน แถมหลอกให้โอนเงินเพื่อขอลากลับต่างจังหวัด แต่กลับหายตัวเข้ากลีบเฆม

วันนี้ (14 ส.ค.) น.ส.วิชุดา พยัคเทศ อายุ 35 ปี หรือแหม่ม วิชุดา พินดัม ดาราสาวชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 61/26 ซอยลาดพร้าว 31 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.พหลโยธิน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกแม่บ้านขโมยทรัพย์สินภายในบ้านเมื่อประมาณช่วงสิ้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งนำภาพวงจรปิดที่บ้านกำลังยกขโมยทีวี มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบ

พ.ต.ท.สุชัยเปิดเผยว่า วันนี้ น.ส.วิชุดามาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันว่าถูกนางปาณิสรา ศรีวิชา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 10 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นแม่บ้านเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้าน โดยก่อนหน้านี้ น.ส.วิชุดาได้รับนางปาณิสราเข้าเป็นแม่บ้านเพื่อดูแลพ่อที่ป่วยเมื่อประมาณพฤศจิกายน 2554 ซึ่งจ่ายค่าจ้างให้เดือนละ 10,000 บาท และดูแลมาเรื่อยไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม พ่อของ น.ส.วิชุดาก็ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลเป็นประจำ จากนั้นเมื่อวันที่ 2 ส.ค. นางปาณิสราก็ได้ส่งข้อความมาที่มือถือของ น.ส.วิชุดาว่าจะขอลากลับต่างจังหวัดเพื่อไปงานศพแฟน และขอให้โอนเงินล่วงหน้าไป 20,000 บาท น.ส.วิชุดาจึงโอนไปให้

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ส.ค. น.ส.วิชุดาจึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมพ่อ และสอบถามพยาบาลจึงทราบว่านางปาณิสราไม่ได้มาเฝ้าไข้ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. หลังจากนั้น น.ส.วิชุดาจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามก็ไม่สามารถติดต่อได้ และในวันที่ 6 ส.ค. น.ส.วิชุดาจึงได้เข้าไปที่บ้านก็พบทรัพย์สินบางส่วนหายไป จึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดูก็พบภาพที่นางปาณิสรากำลังขนของออกไปจากบ้าน โดยที่มีพ่อของ น.ส.วิชุดานอนอยู่บนเตียง เหตุเกิดในวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทรัพย์สินที่หายไปมีโทรทัศน์ 1 เครื่อง กุญแจจักรยานยนต์ 2 ดอก และเครื่องเล่นดีวีดี จากนั้นในวันนี้จึงได้เข้าแจ้งความดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ขอหมายเรียกตัวนางปาณิสรามาสอบปากคำเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและรับทราบข้อกล่าวหา แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถติดได้ ซึ่งจะต้องรอให้นางปาณิสราเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย