xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ชะลอแก้ รธน.-แช่ร่าง กม.ปรองดอง “เพื่อแม้ว”ถอยก่อนลุย!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานหลังจากการประชุมเพื่อหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เมื่อ 31ก.ค.2555
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เป็นที่แน่นอนแล้วว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะชะลอการผลักดันกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ ที่มีผลต่อความเป็นความตายของรัฐบาล น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกไปก่อน

นั่นคือ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่มีการชะลอการลงมติวาระ 3 ออกไป

และ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่มีการเลื่อนจากวาระเร่งด่วนที่ 1 ไปอยู่ในวาระที่ 11 โดยเลื่อนเอาร่าง พ.ร.บ.อื่น 10 ฉบับขึ้นมาพิจารณาก่อน

ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้ประชุมกันที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เมื่อวันที่ 31ก.ค. และมีมติออกมาเป็นแถลงการณ์ อ้างว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มีที่มาจากคณะรัฐประหาร เป็นบ่อเกิดของความอยุติธรรมและความขัดแย้งที่ดำรงอยู่และกำลังดำเนินไปในสังคมไทย การเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และรัฐสภาเลือกจากผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือฉบับใหม่ จากนั้นก็นำไปให้ประชาชนลงประชามติ รัฐธรรมนูญที่ยกร่างโดยประชาชนและหากได้รับความเห็นชอบจากประชาชนจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมและสร้างเสริมประชาธิปไตยให้สมบูรณ์ขึ้น          

          แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2555 ว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้น ควรจะให้ประชาชนได้ลงประชามติเสียก่อนว่าสมควรจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ หรือให้รัฐสภาใช้อำนาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ซึ่งเป็นการสอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 นั้น ได้ทำให้เกิดปัญหาและข้อสงสัยในทางปฏิบัติหลายประการทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเห็นพ้องกันว่า 

1)ให้จัดตั้งคณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างเป็นระบบและเร่งด่วน ทั้งในแง่เนื้อหาและกระบวนการเพื่อเป็นแนวทางให้พรรคร่วมรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ได้ร่วมกันพิจารณาหาทางออกที่เหมาะสมให้แก่ประเทศชาติและประชาชนต่อไป ภายใต้บริบทของการทำความเข้าใจและการร่วมมือกันของทุกฝ่าย       
   
          2)ในระหว่างการรอผลการศึกษาของคณะทำงานดังกล่าว ควรจะมีการชะลอการลงมติในวาระที่ 3 ไปสักระยะหนึ่งก่อน          
          3)ให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลโดยการร่วมมือกับทุกภาคส่วน รณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจถึงความมุ่นมั่นของพรรคร่วมรัฐบาลที่กล่าวมาข้างต้น โดยเน้นการสถาปนาหลักนิติรัฐ นิติธรรม ให้ปรากฏเป็นจริงในสังคม เพื่อให้สามารถบริหารและพัฒนาประเทศไปได้ตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา

ส่วนการเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาตินั้น ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดพิเศษ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ได้มีมติเลื่อนระเบียบวาระร่าง พ.ร.บ.ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้วขึ้นมาพิจารณาก่อน 10 ฉบับ เช่น ร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ... ร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพแพทย์แผนไทย พ.ศ... ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ... ร่าง พ.ร.บ.ประกอบโรคศิลปะ พ.ศ... ร่าง พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่..) พ.ศ... ซึ่งเมื่อมีการพิจารณากฎหมายทั้ง 10 ฉบับเสร็จแล้ว จึงจะเป็นการพิจารณาเรื่องด่วน คือ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติที่อยู่ในวาระแรกต่อไป

การชะลอลงมติวาระ 3 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเลื่อนร่าง พ.ร.บ.อื่น 10 ฉบับ ขึ้นมาพิจารณาก่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ดูผิวเผินก็คล้ายกับว่ารัฐบาลได้ยอมถอยให้ฝ่ายต่อต้านแล้ว

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปดูคำแถลงของพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 31 ก.ค.จะเห็นว่า แม้จะให้ชะลอการลงมติวาระ 3 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน แต่เมื่อดูในรายละเอียดของแถลงการณ์ จะพบว่า มีการให้ร้ายรัฐธรรมนูญ 2550 ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากคณะรัฐประหาร มีการเปิดทางให้คนของคณะรัฐประหารเข้าไปอยู่ในองค์กรอิสระต่างๆ และเป็นต้นเหตุของความอยุติธรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

ทั้งยังได้แสดงท่าทีไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ค.ในหลายประเด็น อาทิ การรับคำร้องโดยตรงโดยไม่จำเป็นต้องผ่านอัยการ การที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าเจตนารมณ์ของตัวรัฐธรรมนูญสำคัญกว่าเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนการลงประชามติว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น พรรคร่วมฯ ก็อ้างว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะให้ใครทำ

ที่สำคัญแถลงการณ์พรรคร่วมฯ ได้อ้างว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามการลงมติวาระ 3 ในร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่ค้างอยู่ และไม่ได้บอกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เพียงแต่แนะนำให้ทำประชามติก่อนเท่านั้น ทั้งยังอ้างว่า มีตุลาการรัฐธรรมนูญ 4 ท่านใน 8 คน มีความเห็นในคำวินิจฉัยส่วนตนว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจวินิจฉัยเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรา 291

ขณะที่คำแนะนำให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรานั้น ยังไม่มีแกนนพำพรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาลคนใดออกมาขานรับ นอกจากจะบอกว่า หากแก้ไขรายมาตราก็จะใช้เวลานานกว่าจะแล้วเสร็จ รวมทั้งอ้างว่า มีร่างเดิมค้างอยู่แล้ว การเสนอร่างใหม่ที่มีเนื้อหาลักษณะเดียวกันเข้าไปทำไม่ได้

นั่นแสดงว่า ท่าทีของพรรคร่วมฯ จริงๆ แล้ว คือต้องการให้เดินหน้าการลงมติวาระ 3 เพื่อนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป ซึ่งน่าจะถูกใจผู้บงการตัวจริงมากกว่า เพราะเสร็จเร็วกว่า และสามารถปกปิดวาระซ่อนเร้นได้ง่ายกว่าการแก้ไขรายมาตรา
ยิ่งเมื่อดูรายชื่อคณะทำงาน 11 คน ที่พรรคร่วมตั้งขึ้นมาเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีพรรคเพื่อไทย 7 คน โดยมีนายโภคิน พลกุล เป็นประธาน ซึ่งนายโภคินเคยแสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการให้เดินหน้าลงมติวาระ 3 ไปเลย รวมทั้งยังให้สัมภาษณ์ว่าในระหว่างที่คณะทำงานกำลังศึกษาอยู่ จะไม่มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรานั้น ก็พอจะคาดเดาได้ว่า ผลการศึกษาที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาตินั้น แม้จะเลื่อนกฎหมายอื่นมาพิจารณาก่อน 10 ฉบับ แต่ทั้ง 10 ฉบับนี้ ก็ประมาณกันว่าจะใช้เวลาพิจารณาเพียง 1 เดือน ก็เท่ากับว่า รัฐบาลยอมซื้อเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น

เมื่อดูจากคำอภิปรายของนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในที่ประชุมสภาผู้แทนฯ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ว่า การเลื่อนกฎหมายทั้ง 10 ฉบับขึ้นมาพิจารณาก่อนเพราะอยากจะรอคอยโอกาสให้ฝ่ายค้านเปลี่ยนใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยหาเสียงเลือกตั้งเอาไว้ว่าจะเสนอกฎหมายเข้ามา

ดูจากท่าทีของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เคยบอกว่าให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง แต่ภายหลังได้ออกมาปฏิเสธเป็นพัลวันว่าไม่เคยพูด

ขณะที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สายตรงของ ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันว่าจะไม่มีการถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดองออกจากสภาแน่นอน อ้างว่า หากยังคงอยู่ในวาระการพิจารณาก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด โดยระหว่างที่เรื่องยังค้างอยู่รัฐบาลควรจะดำเนินการสานเสวนาและทำความเข้าใจกับประชาชน เมื่อตกผลึกแล้วก็สามารถนำมาพิจารณาได้

ทั้งหมดนี้ คือข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ว่า การชะลอการลงมติวาระ 3 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเลื่อนเอาร่าง พ.ร.บ.อื่น 10 ฉบับ มาพิจารณาก่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เป็นเพียงการซื้อเวลา หลอกล่อให้ฝ่ายตรงข้ามตายใจ เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น

ขณะที่เป้าหมายใหญ่คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับและผ่านกฎหมายปรองดอง เพื่อลบล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเร็วที่สุด ยังคงอยู่

-แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน หลังจากการประชุมเพื่อหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เมื่อ 31 ก.ค.2555
กำลังโหลดความคิดเห็น