“อภิสิทธิ์” ชี้ “นพดล” พูดชัดไม่ถอนร่างแก้ไข รธน.-พ.ร.บ.ปรองดอง เพราะ “นช.แม้ว” สั่ง สะท้อนรัฐบาลก้าวไม่พ้นผลประโยชน์ “ทักษิณ” เตือนต้องฟังเสียงประชาชนส่วนใหญ่ อย่าอ้างเฉพาะที่เป็นประโยชน์ของตัวเอง ทำบ้านเมืองสะดุด งง “ขุนค้อน” พลิกลิ้นไม่ถอนร่างปรองดอง ทั้งที่เคยโวจะถอดชนวนความขัดแย้ง ระบุเป็นบทพิสูจน์รับใช้นักโทษหนีคดี เฉ่ง “ยิ่งลักษณ์” ประเมินสถานการณ์พลาด วิเคราะห์หลัง มิ.ย. ของถูก เศรษฐกิจดี แต่ของจริงตรงกันข้าม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเย็นวันนี้ (31 ก.ค.) เพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติว่า ยังไม่ทราบข้อยุติว่าจะเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองเพื่อให้เกิดความหวาดระแวง ความขัดแย้ง ควรถอนทั้งสองเรื่องออกไป เพราะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องมาสร้างปัญหาให้แก่บ้านเมืองซึ่งในขณะนี้มีปัญหามากอยู่แล้ว ทั้งเศรษฐกิจ และภาคใต้
ดังนั้น พ.ร.บ.เกี่ยวกับความปรองดองทั้ง 4 ฉบับที่ค้างอยู่ในวาระแรกก็ควรถอนออกไป รวมถึงเรื่องรัฐธรรมนูญ จากนั้นมาตั้งหลักใหม่ว่าความปรองดองที่แท้จริง การแก้รัฐธรรมนูญจะทำอย่างไรให้เกิดความร่งมมือทุกฝ่าย
คุณนพดล ปัทมะ ก็พูดเองว่าที่ไม่ยอมถอนทั้งรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ปรองดองเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้ถอน ทั้งหมดที่เป็นปัญหาความขัดแย้งเพราะทั้งสองเรื่องนี้เป็นการทำเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายกับบ้านเมืองในเรื่องของระบบกฎหมาย จึงควรเอาสองเรื่องนี้ออกไป จากนั้นมาคุยกันว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรให้ดีขึ้น การปรองดองที่แท้จริงก็จะไมเป็นปัญหา แต่ส่วนที่เป็นปัญหาควรถอนออกไปบ้านเมืองจะได้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้ รัฐบาลจะได้ผลักดันนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ทั้งหมดจึงอยู่ที่ว่าพรรคเพื่อไทย รัฐบาล จะก้าวพ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้หรือยัง เพราะบ้านเมืองกับประชาชนมีปัญหารอการแก้ไขอยู่เยอะ ทั้งเศรษฐกิจ ภาคใต้ และปัญหาอื่นๆ ไม่ควรจะมาขัดแย้งด้วยเรื่องเหล่านี้"
นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความประหลาดใจที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯระบุว่าไม่เคยเสนอให้ถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดองเพราะไม่ใช่หน้าที่ของประธานสภาว่า ก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์เป็นคนพูดเองว่าไม่ควรทำเรื่องนี้และจะไปพูดคุยกับเจ้าของร่างให้ถอนออกไป ตนยังให้สัมภาษณ์สนับสนุนว่าควรทำ จึงแปลกใจมากที่วันนี้บอกว่าไม่เคยพูด
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเปลี่ยนท่าทีนี้สะท้อนว่าสุดท้ายแล้ว นายสมศักดิ์ อยู่ภายใต้การครอบงำของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะต้องพิสูจน์กันในช่วงนี้ว่าจะมีใครบ้างเอาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศมาเป็นตัวตั้ง เพราะหากยังค้างเรื่องเหล่านี้ไว้ในสภาก็จะเป็นความอึมครึม ความไม่แน่นอน ความตึงเครียดอยู่เรื่อยๆ และสุ่มเสี่ยงต่อความขัดแย้ง เพราะคนที่ไม่เห็นด้วยมีมาก อีกทั้งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรรัฐมนตรีระบุว่า ไม่สนใจกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จะออกมาชุมนุมต่อต้านนั้น ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่สเห็นว่า ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่จะออกมาคัดค้านเรื่องนี้ เพราะเป็นปัญหาความไม่ถูกต้องจะทำให้มีคนจำนวนมากที่เห็นว่าจะเป็นปมความขัดแย้งใหม่ และเรื่องจะไม่จบง่าย ๆ แต่จะกลายเป็นวามขัดแย้งที่ดึงศักยภาพของประเทศ ความเรียบร้อยของบ้านเมือง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นรองนายกฯมีเรื่องความมมั่นคง ภาคใต้ต้องดูแล จึงไม่ควรมาเสียเวลาในการถกเถียงเรื่องนี้แต่ควรไปทำหน้าที่ของตัวเอง
"รัฐบาลพูดถึงประชาชนมาโดยตลอด เมื่อกระแสความคิดเห็นต่างๆ สะท้อนว่าให้ถอน ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับ พ.ร.บ.ปรองดองก็กลับเพิกเฉยต่อเสียงของประชาชน ผมอยากให้ตั้งหลักใหม่เพื่อเดินหน้าบ้านเมืองเพราะถ้าการเมืองไม่นิ่งก็น่าเป็นห่วงเนื่องจากขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจรัฐบาลก็ประเมินผิดพลาด นายกฯเคยบอกว่าหลังมิถุนายนของจะถูกลง เศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น กรณีภาคใต้รัฐบาลต้องทบทวนอย่างจริงจัง"