xs
xsm
sm
md
lg

พท.ใช้แผนแก้ รธน.เป็นรายมาตรา “เหลิม” ลุยถกเหนือ-อีสาน มั่นใจผ่านฉลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี(แฟ้มภาพ)
“ร.ต.อ.เฉลิม” เผยพรรคปรับแผนแก้ รธน.เป็นรายมาตรา เชื่อชัดเจนกว่าวาระ 3 ที่ไม่ยุ่งในมาตราเกี่ยวข้องสถาบัน พร้อมตั้งธงรวมศาล ตั้ง กกต.-ป.ป.ช.จากสภา และ ส.ว.มีแต่เลือกตั้ง และเตรียมถก ปชช.เน้นภาคเหนือ-อีสาน มั่นใจแก้ รธน.ฉลุย ย้ำเร็วกว่าตั้ง ส.ส.ร.ประชามติ สวน “ค้อนปลอม” พท.ไม่มีมติถอน พ.ร.บ.ปรองดอง และไม่หวั่น พธม.กดดัน ปัดพูด พ.ร.บ.ปรองดองฉบับ “เป็ดเหลิม” แต่แย้มไม่เอา 4.6 หมื่นล้านคืนนายใหญ่ถึงจบ เหน็บ “มาร์ค” ใส่เสื้อแดงปราศัยเพราะเคืองโดนขุดหนีทหาร

วันนี้ (30 ก.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้ข้อสรุปจริงๆ แล้วเหลือเพียงแนวทางเดียวในการแก้ไขเป็นรายมาตรา ซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันในวงในลึกๆที่ยังเปิดเผยไม่ได้ เพียงแต่ว่ามีบางส่วนก็ยังคิดที่จะลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ต่อไป และแม้ว่าตนจะยังไม่ได้รับมอบหมายในการทำความเข้าใจกับประชาชน แต่ส่วนตัวก็ได้ทำหน้าที่อยู่แล้วร่วมกับนายสุธรรม แสงประทุม และนายอดิศร เพียงเกษ ที่เตรียมการว่าในวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ของทุกสัปดาห์ จะตระเวนเปิดเวทีสร้างเข้าใจ โดยเน้นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือเป็นหลัก รวมไปถึงการเปิดเวทีปราศรัยที่ลานคนเมือง กทม.ด้วย ส่วนในพื้นที่ภาคใต้นั้นอาจจะไปที่ จ.ภูเก็ต และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเชื่อว่าการทำความเข้าใจในลักษณะนี้จะทำให้แรงเสียดทานลดน้อยลง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องมีการสลายขั้วหรือสีในสังคมก่อนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องละลายพฤติกรรม เพียงแต่ทำความเข้าใจกับประชาชนเท่านั้น ในความเป็นจริงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ซึ่งทำให้ประชาชนเลือกเข้ามาถึง 265 เสียง ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จ เพราะการแก้ไขเป็นรายมาตรามีความชัดเจนกว่าการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่หลายฝ่ายเกรงว่าจะแก้ไขในมาตราที่ไม่เหมาะสม ทั้งที่รายละเอียดก็ระบุว่า ไม่แก้ไขในส่วนที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งมีความพยายามจะไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ เมื่อเป็นอย่างนี้เราก็ลงเป็นรายมาตราดีกว่า เบื้องต้นก็เป็นไปตามที่ตนได้เสนอไปก่อนหน้านี้ 5 ประเด็น อาทิ วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องมาโดยรัฐสภา รวมไปถึงการควบรวมศาล

เมื่อถามว่ามีความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราจะล่าช้า รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นความเป็นห่วงของคนที่ไม่เข้าใจ เพราะจริงๆ แล้วหากแก้ไขเป็นรายมาตรารวดเร็วกว่าการตั้ง ส.ส.ร.ด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่ต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร.หรือการทำประชามติ โดยเฉพาะการทำประชามติที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้เสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะผ่าน

สำหรับกรณีที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้ถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ.... ออกจากวาระประชุมสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ความเห็นดังกล่าวไม่ใช่จุดยืนของพรรคเพื่อไทย เพราะนายสมศักดิ์ไม่เคยเข้าประชุมพรรค ซึ่งที่ประชุมก็มีการยืนยันแล้วว่าไม่ถอนวาระ ส่วนภาคประชาชนโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเสนอให้ถอนวาระนี้ออกจากสภาฯ นั้น ก็เชื่อว่าจะไม่เป็นกดดันนายสมศักดิ์ และคงไม่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในห้องประชุมเหมือนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถึงเวลาที่ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ฉบับที่ร่างโดย ร.ต.อ.เฉลิมจะออกมาเปิดเผยหรือยัง รองนายกฯกล่าวว่า ไม่ขอพูดเรื่องนี้ เกรงว่าจะถูกตำหนิ แต่ในความเห็นตนคิดว่าสิ่งใดที่ทำแล้วไม่สำเร็จก็ไม่ควรลองผิดลองถูก แต่ควรที่จะศึกษาสิ่งแวดล้อมสถานการณ์รอบด้านมากกว่า ที่สำคัญต้องยอมรับว่าพรรคเราไม่มีตัวช่วย และเขากำลังจะสหบาทา จึงไม่ควรเปิดช่อง ต้องรัดกุม เชื่อว่าจากนี้ต่อไปคงดีขึ้น

เมื่อถามถึงความมั่นใจในการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “อย่าไปเอา 4.6 หมื่นล้านคืนก็จบ”

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สวมเสื้อสีแดงขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะเชื่อว่านายอภิสิทธิ์อาจจะอารมณ์เสียจากเรื่องที่ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดการแถลงข่าวเรื่องที่นายอภิสิทธิ์หลบหนีการเข้ารับราชการทหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น