พท.ยืนยันไม่ถอยแก้ รธน.ทั้งฉบับ แต่ขอเวลาทำความเข้าใจกับประชาชน เช่นเดียวกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ต้องดำเนินการต่อ เพียงแต่ชะลอไว้ก่อนในช่วงนี้ ด้าน ส.ส.อีสาน อ้อนมี ส.ส.มากแต่ได้ รมต.น้อย เรียกร้องพรรคจริงใจกับชาวอีสาน “ภูมิธรรม” รับเป็นตัวกลางนำเสียงสะท้อน ส.ส.เสนอ “นายกฯปู” โดยเฉพาะความไม่มีเอกภาพในพรรค และ การประสานงานภายใน
ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จอมเทียน พัทยา จ.ชลบุรี วันนี้ (29 ก.ค.) มีการรายงานสรุปผลการประชุมกลุ่มย่อยเรื่อง “การปรับขบวนภายใน บทบาท และทิศทางการเมืองของเพื่อไทย” หลังจากมีการประชุมกลุ่มย่อย เพื่อหารือเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.ปรองดอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปรับขบวนการทำงานของพรรค เดินหน้าเข้าหาประชาชน และการปรับขบวนการทำงานในสภาไปเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ก.ค.โดยที่ประชุมมอบให้ ส.ส.แต่ละภาคสะท้อนมุมมองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และการปรับขบวนการทำงานของพรรค
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะตัวแทนภาคอีสาน เสนอว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เราไม่อยากแพ้ จะทำอะไรขอให้คิดถึงหัวใจประชาชนด้วย เวลาที่ ส.ส.เสนอเรื่องประชาธิปไตยในสภา พรรคก็ต้องมีประชาธิปไตยให้พวกตนด้วย และขอให้พรรคเพื่อไทยเร่งแก้ปัญหาราคาข้าว เพราะทุกจังหวัดมีปัญหาเรื่องนี้ รวมถึงการประชุมพรรค ขอให้รัฐมนตรีเข้าประชุมด้วย ถ้าไม่มาฟังแล้ว จะแก้ปัญหาได้อย่างไร
ส่วนเรื่องงานในสภา พรรคต้องใส่ใจทุ่มเทมากกว่านี้ เพราะสภาคือหัวใจของสนามรบ ขณะที่การแบ่งโซนตามโครงสร้างใหม่ของพรรคก็มะงุมมะงาหรา รัฐมนตรีรับโทรศัพท์ไม่เป็น ต่อไปต้องประสานงานในโซนให้ดี ทั้งนี้ ในส่วนตำแหน่งรัฐมนตรี ภาคอีสาน มี ส.ส.มาก แต่กลับมีรัฐมนตรีน้อย พรรคเพื่อไทยต้องให้ความจริงใจ ทุ่มเทให้คนอีสานมากกว่านี้ 10 เท่า ถึงจะได้ใจพวกตน
นางบุญรื่น ศรีธเรศ ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.อีสาน มี 104 เสียง ถือว่า เยอะมาก มีคุณภาพกันทั้งนั้น ก็ขอให้คิดเรื่องการพิจารณาตำแหน่งให้ด้วย เพราะ ส.ส.อีสานสามารถทำได้
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะตัวแทนภาคเหนือ กล่าวว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ส.ส.ภาคเหนือ ยืนยันว่า ต้องจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้องเดินหน้าต่อไป โดยมี ส.ส.มายกร่าง ตามนโยบายที่หาเสียงไว้ แต่หากจะต้องทำประชามติตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็น แต่หลักสำคัญคือ ต้องจัดทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ไม่ควรถอน แต่อาจชะลอไว้ โดยให้เลื่อนเอา พ.ร.บ.ฉบับอื่นมาพิจารณาแทนไป และระหว่างนี้ให้เอาเวลาไปทำเวทีสานเสวนาเพื่อได้ข้อสรุป จากนั้นค่อยมาพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง ต่อไป
ส่วนการปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลนั้น สิ่งที่ ส.ส.ภาคเหนือ เป็นห่วง คือ การรับจำนำข้าวที่ต้องมีกระบวนการสื่อสารไปถึงรัฐมนตรี เพราะวันนี้เข้าพบรัฐมนตรียาก ควรมีคณะกรรมการชุดหนึ่งมาช่วยประสานงาน ส.ส.เพื่อนำปัญหาไปบอกรัฐมนตรี และขอให้ติดตามดูแลการใช้งบประมาณแผ่นดินไม่ไห้มีการทุจริต เพราะจากการที่ ส.ส.ได้ไปติดตาม เห็นหลายเรื่อองส่อไปถึงการทุจริตคอร์รัปชัน ขณะที่ปัญหาเรื่องการแบ่งโซน 19 โซน ตามโครงสร้างใหม่นั้น ควรนำระบบภาคกลับคืนมา ไม่ควรแบ่งเป็น 19 โซน เพราะมีปัญหาข้อมูลที่ลงไปถึง ส.ส.ไม่ตรงกัน ขอเสนอให้ทุกสัปดาห์มีการประชุมภาคร่วมกันทั้งหมดจะได้รู้ปัญหาในภาคตรงกัน
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องรัฐธรรมนูญ รู้สึกสบายใจที่นายกฯ ระบุว่า เราถอยเพื่อรุก เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แต่อย่างน้อยพรรคต้องสร้างความมั่นใจให้คนภายนอก ว่า พรรคพร้อมขับเคลื่อนรุกไปข้างหน้า แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะขณะนี้กองเชียร์ไม่มั่นใจว่า เราถูกกระทำฝ่ายเดียวหรือไม่ จึงอยากให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ช่วยสร้างความมั่นใจให้ประชาชนด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องการโยกย้ายทหาร ที่ทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าประชาชน อาจได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้น อาจจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกประชาชนได้ หากปล่อยให้โยกย้าย ขรก.แบบเสรี ไม่ให้มีการให้นโยบาย ก็จะตอบคำถามสังคมลำบาก
นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เสนอว่า การแยกโซนมีผลเสียมากกว่าผลดี ควรกลับมาประชุมรวมกันเหมือนเดิม ในส่วน กทม.อยากฝากปัญหาการเลือกตั้ง กทม.ให้พรรคเร่งดำเนินการเตรียมการ เพราะตั้งแต่เป็นพรรคเพื่อไทย ไม่เคยเตรียมการเรื่องเลือกผู้ว่าฯ กทม.ขณะที่เรื่องน้ำท่วมก็อยากให้พรรคไปร่วมแก้ปัญหากับ กทม.และรัฐบาลต้องเร่งพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินให้เป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวประท้วง เพราะจะมีปัญหากระทบต่อพรรค และ ส.ส.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการผอ.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่ ส.ส.ได้สะท้อนมาแสดงให้เห็นว่า ยังมีปัญหาที่พรรคยังไม่สามารถจัดระบบรองรับความต้องการของ ส.ส.และสะท้อนว่า ยังมีปัญหาความเป็นเอกภาพภายในพรรค แต่ตนเพิ่งมารับผิดชอบงานด้านบริหารแค่ 2 สัปดาห์ แม้มีหลายเรื่องที่ตอบสนอง ส.ส.ไม่ได้ แต่เราก็ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนชนะการเลือกตั้ง จะนำปัญหาทั้งหมดที่ส.ส.สะท้อนมาไปกราบเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อแก้ปัญหาต่อไป หลายเรื่องถ้าได้พูดคุยประสานงานกัน จะคลี่คลายได้ ส่วนเรื่องรัฐมนตรีก็พยายามจัดเวทีให้ได้มีโอกาสคุยกับ ส.ส.แต่รัฐมนตรีอาจมีภารกิจมาก จนดูเหมือนละเลยคุยกับ ส.ส.ซึ่งพรรคจะเป็นตัวเชื่อมประสานให้ ส.ส.ได้คุยกับรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญและปรองดองนั้น ยืนยันไม่ถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และร่างแก้รัฐธรรมนญ ออกจากสภา แต่จะดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไร ต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล และหารือในวิปรัฐบาลต่อไป ยืนยันว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ จะไม่มีความรีบร้อนในการเดินหน้าโหวตวาระ 3 โดยจะดำเนินการทำความเข้าใจกับประชาชนให้เข้าใจถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า จะช้าหรือเร็วมีสาเหตุมาจากอะไร ทั้งนี้ อาจจะดำเนินการแก้ไขในบางมาตรา บางประเด็นที่ยังมีความกังวลใจ เพื่อให้การแก้รัฐธรรมนูญมีความคล่องตัวขึ้น เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่สมาชิกมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะนำไปหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล