ASTVผู้จัดการรายวัน – คลังคาดยอดใช้สิทธิรถยนต์คันแรกพุ่งกว่า 5 แสนคันใช้เงินคืนภาษีประมาณ 3 หมื่นล้านบาท พร้อมขยายเวลารับจองไม่อั้นตามมติ ครม.ที่ให้ได้ถึงสิ้นปี เตรียมเปิดทางรถรุ่นใหม่ที่เข้าข่ายได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการได้ ฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริดส้มหล่นหากประชาชนจองก่อนสิ้นปี
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามมติของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ขยายเวลารับมอบรถยนต์และยื่นเอกสารหลักฐานตามมาตรการรถคันแรกออกไป 90 วันหลังรับมอบรถนั้นเพื่อเป็นการชดเชยกับระยะเวลาที่โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน อะไหล่รถยนต์หยุดดำเนินการเนื่องจากประสบอุทกภัยและเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียสิทธิได้รับเงินคืนภาษีเนื่องจากได้รับการส่งมอบรถล้าช้าจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ โดยยื่นยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ค่ายรถยนต์แต่อย่างใด และยอมรับว่าการขยายเวลาดังกล่าวอาจส่งผลให้ยอดซื้อรถคันแรกที่เข้าโครงการพุ่งทะลุเกินกว่า 5 แสนคันและรัฐต้องคนภาษีมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสิ้นปีที่นับจากยอดใบจองน่าจะได้ตัวเลขที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามแม้โครงการจะเปิดกว้างมากขึ้นและไม่กำหนดจำนวนคันจำนวนเงินที่คืนภาษีแต่เชื่อว่าจะไม่กระทบรายได้ของรัฐมากนัก เพราะจะเป็นการทยอยคืนภาษีในปีถัดไปหลังจากครอบครอง 1 ปี อีกทั้งถือเป็นกระบวนการเตรียมพร้อมรองรับการเปิดรับเออีซีในปี 2558 ที่กำลังจะมาถึงซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต้องเร่งผลิตมากขึ้นเพื่อขายในตลาดที่ใหญ่ขึ้นอยู่แล้ว
นายเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ขณะนี้มียอดจองซื้อรถยนต์ใหม่ 4 แสนคันและมีการส่องมอบและยื่นขอคืนภาษีแล้ว 1.2 แสนคันเป็นเงิน 8 พันล้านบาท โดยจะมีอัตราเพิ่มขึ้น 25% ในแต่ละเดือน โดยคาดว่าสิ้นปีนี้อาจมีการส่งมอบรถยนต์ได้ถึง 2 แสนคัน และจากที่ประเมินพบว่าการส่งมอบรถยนต์อาจล่าช้าไปถึงปีหน้าประมาณ 6-9 เดือนหรือไม่เกิน 1 ปีนับจากวันที่จองซึ่งยังถือว่าเข้าข่ายได้รับสิทธิยื่นหลักฐานเพิ่มเติมในการขอคืนภาษีจากที่ต้องยื่นมาขอใช้สิทธิก่อนในช่วงสิ้นปี ซึ่งประกอบด้วยสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสัญญาเช่าซื้อ สำเนาบัญชีเงินฝากและใบจอง
สำหรับเอกสารที่ต้องยื่นเพิ่มเติมภายใน 90 วันหลังจากรับรถนั้นต้องมี สำเนาคู่มือจดทะเบียน สำเนาเอกสารการรับมอบรถ สำเนาสัญญาเช่าซื้อมาแสดงด้วย ส่วนของผู้ที่ได้รบมอบรถยนต์แล้วสามารถยื่นเอกสารตามที่กรมสรรพสามิตกำหนดภายในวันที่ 31 ธันวาคม โดยในระหว่างวันทำการให้ยื่นได้ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสาขา ส่วนวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันหยุดราชการสามารถยื่นได้ทางอินเตอร์เน็ต โดยชื่อผู้ซื้อและผู้จองต้องเป็นคนเดียวกันไม่เช่นนั้นจะถือว่าเสียสิทธิ
นายเบญจากล่าวว่า สำหรับรถยนต์ที่เข้าข่ายได้สิทธินั้นกรมสรรพสามิตยังเปิดกว้างรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตออกมาในช่วงนี้ถึงสิ้นปี แต่ต้องยื่นเรื่องมาที่กรมเพื่อตรวจสอบก่อน เช่น กรณีของฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริดนั้นยังไม่ได้เสนอมาที่กรมฯ แต่อย่างใด ส่วนการตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิคืนเงินนั้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ระบบที่เชื่อมโยงกับกรมขนส่งทางบกจะเริ่มตรวจสอบได้จริง และเดือนกันยายนนี้อาจจะเริ่มมีผู้ได้รับสิทธิคืนเงินประมาณ 300 ราย โดยขั้นตอนการคืนนั้นกรมบัญชีกลางจะตรวจสอบเอกสารว่ามีการยื่นเลขบัญชีเข้ามาหรือไม่ เพราะจะดำเนินการโอนเงินคืนให้ทางบัญชี
“เชื่อว่าการขยายเวลาดังกล่าวไม่กระทบผู้ผลิต เพราะแต่ละรายจะมีกำลังการผลิตที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของโตโยต้านั้นไม่อยากให้ขยายด้วยซ้ำเพราะเป็นค่ายที่มีกำลังการผลิตสูงสุดและไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแต่อย่างใดแต่ที่ขยายเวลาเพราะเกรงว่าประชาชนจะเสียสิทธิมากกว่า” นางเบญจา กล่าว.
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตามมติของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ขยายเวลารับมอบรถยนต์และยื่นเอกสารหลักฐานตามมาตรการรถคันแรกออกไป 90 วันหลังรับมอบรถนั้นเพื่อเป็นการชดเชยกับระยะเวลาที่โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน อะไหล่รถยนต์หยุดดำเนินการเนื่องจากประสบอุทกภัยและเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียสิทธิได้รับเงินคืนภาษีเนื่องจากได้รับการส่งมอบรถล้าช้าจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ โดยยื่นยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ค่ายรถยนต์แต่อย่างใด และยอมรับว่าการขยายเวลาดังกล่าวอาจส่งผลให้ยอดซื้อรถคันแรกที่เข้าโครงการพุ่งทะลุเกินกว่า 5 แสนคันและรัฐต้องคนภาษีมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสิ้นปีที่นับจากยอดใบจองน่าจะได้ตัวเลขที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามแม้โครงการจะเปิดกว้างมากขึ้นและไม่กำหนดจำนวนคันจำนวนเงินที่คืนภาษีแต่เชื่อว่าจะไม่กระทบรายได้ของรัฐมากนัก เพราะจะเป็นการทยอยคืนภาษีในปีถัดไปหลังจากครอบครอง 1 ปี อีกทั้งถือเป็นกระบวนการเตรียมพร้อมรองรับการเปิดรับเออีซีในปี 2558 ที่กำลังจะมาถึงซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต้องเร่งผลิตมากขึ้นเพื่อขายในตลาดที่ใหญ่ขึ้นอยู่แล้ว
นายเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ขณะนี้มียอดจองซื้อรถยนต์ใหม่ 4 แสนคันและมีการส่องมอบและยื่นขอคืนภาษีแล้ว 1.2 แสนคันเป็นเงิน 8 พันล้านบาท โดยจะมีอัตราเพิ่มขึ้น 25% ในแต่ละเดือน โดยคาดว่าสิ้นปีนี้อาจมีการส่งมอบรถยนต์ได้ถึง 2 แสนคัน และจากที่ประเมินพบว่าการส่งมอบรถยนต์อาจล่าช้าไปถึงปีหน้าประมาณ 6-9 เดือนหรือไม่เกิน 1 ปีนับจากวันที่จองซึ่งยังถือว่าเข้าข่ายได้รับสิทธิยื่นหลักฐานเพิ่มเติมในการขอคืนภาษีจากที่ต้องยื่นมาขอใช้สิทธิก่อนในช่วงสิ้นปี ซึ่งประกอบด้วยสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสัญญาเช่าซื้อ สำเนาบัญชีเงินฝากและใบจอง
สำหรับเอกสารที่ต้องยื่นเพิ่มเติมภายใน 90 วันหลังจากรับรถนั้นต้องมี สำเนาคู่มือจดทะเบียน สำเนาเอกสารการรับมอบรถ สำเนาสัญญาเช่าซื้อมาแสดงด้วย ส่วนของผู้ที่ได้รบมอบรถยนต์แล้วสามารถยื่นเอกสารตามที่กรมสรรพสามิตกำหนดภายในวันที่ 31 ธันวาคม โดยในระหว่างวันทำการให้ยื่นได้ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสาขา ส่วนวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันหยุดราชการสามารถยื่นได้ทางอินเตอร์เน็ต โดยชื่อผู้ซื้อและผู้จองต้องเป็นคนเดียวกันไม่เช่นนั้นจะถือว่าเสียสิทธิ
นายเบญจากล่าวว่า สำหรับรถยนต์ที่เข้าข่ายได้สิทธินั้นกรมสรรพสามิตยังเปิดกว้างรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ผลิตออกมาในช่วงนี้ถึงสิ้นปี แต่ต้องยื่นเรื่องมาที่กรมเพื่อตรวจสอบก่อน เช่น กรณีของฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริดนั้นยังไม่ได้เสนอมาที่กรมฯ แต่อย่างใด ส่วนการตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิคืนเงินนั้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ระบบที่เชื่อมโยงกับกรมขนส่งทางบกจะเริ่มตรวจสอบได้จริง และเดือนกันยายนนี้อาจจะเริ่มมีผู้ได้รับสิทธิคืนเงินประมาณ 300 ราย โดยขั้นตอนการคืนนั้นกรมบัญชีกลางจะตรวจสอบเอกสารว่ามีการยื่นเลขบัญชีเข้ามาหรือไม่ เพราะจะดำเนินการโอนเงินคืนให้ทางบัญชี
“เชื่อว่าการขยายเวลาดังกล่าวไม่กระทบผู้ผลิต เพราะแต่ละรายจะมีกำลังการผลิตที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของโตโยต้านั้นไม่อยากให้ขยายด้วยซ้ำเพราะเป็นค่ายที่มีกำลังการผลิตสูงสุดและไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแต่อย่างใดแต่ที่ขยายเวลาเพราะเกรงว่าประชาชนจะเสียสิทธิมากกว่า” นางเบญจา กล่าว.