รองนายกฯ เน้นใช้หลักรัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว หวังสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี กำชับตำรวจทุกพื้นที่บูรณาการแผนปรามมาเฟียให้เวลา 90 วันต้องเกิดเป็นรูปธรรม จี้ภาค 8 เร่งจับกุม 2 โจรแทงแหม่มออสเตรเลียเสียชีวิตที่ภูเก็ต
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ อุบลราชธานี สุโขทัย ตาก และกาญจนบุรี ตัวแทนจากกรมขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า ร่วมกันประชุมแนวทางการแก้ปัญหานักท่องเที่ยว เพื่อรองรับนโยบายรัฐบาลเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 1 ชม.
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนของรัฐบาลดูแลการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ดูแล คุ้มครองไม่ให้เกิดความเอารัดเอาเปรียบ ตรวจตราให้เกิดความเรียบร้อยในเรื่องยานพาหนะต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยมีรายได้จากกการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี และเป็นจังหวะพอดีที่เกิดเหตุการณ์คนร้ายชิงทรัพย์สุภาพตรี 2 ราย ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ที่ จ.ภูเก็ต เสียชีวิต 1 ราย และอีก 1 รายบาดเจ็บ เรื่องนี้ได้เร่งรัดให้ พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.8 สืบสวนสอบสวนให้ได้คนร้ายโดยเร็ว และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.สั่งการให้ พล.ต.อ.ปานศิริลงพื้นที่ควบคุมด้วยตนเอง เรื่องนี้สำคัญเพราะรัฐบาลเน้นให้ดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว จากนี้ไปจะเข้มข้นยิ่งขึ้น
“ผมเน้นใช้หลักรัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ บูรณาการทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ผู้ว่า ทหาร กรมเจ้าท่า กรมขนส่ง ทำงานเป็นระบบ เพื่อจัดระเบียบการท่องเที่ยวใหม่ ตามบัญชาของท่านนายกรัฐมนตรี” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไม่มีการบูรณาการ ก็ต่างคนต่างทำ จากนี้ต่อไปก็ไม่มี เราได้ทำรายละเอียดที่ต้องแก้ไขแต่ละพื้นที่อยู่แล้ว ปัญหามีอยุ่ ที่ภูเก็ตมีปัญหาแท็กซี่ป้ายดำ นักเลงท้องถิ่น เจ็ตสกี ที่ตั้ง เตียงผ้าใบ ส่วนมาเฟีย ต้องไม่มี หรืออาจจะไม่หมดไป แต่ต้องอยู่ในกรอบ ตนให้นโยบายให้ใช้หลักรัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ มีการคุยเจรจากันก่อน หากไม่เชี่อก็ใช้ไม้แข็ง ตำรวจท้องที่ต้องรับผิดชอบ เขารู้รายละเอียด รู้ว่าพื้นที่ เรื่องนี้ ต้องคุยกับใคร นักการเมืองท้องถิ่นเป็นอย่างไร จากนี้ต่อไป 90 วันต้องดีขึ้น แก้ไม่ยาก เพราะที่ผ่านมาไม่ได้รวมกันคิด รัฐบาลยังไม่ได้เอาจริง และรัฐบาลชุดที่แล้วก็ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ จากนี้ไป เราได้บูรณาการกัน และนายกรัฐมนตรีเอาจริง
“จากนี้ไปต้องเจรจาก่อน ใครไม่เชื่อค่อยทำบัญชี ลิสต์รายเชื่อ ถ้าท้องที่เจรจาไม่ได้ ผมไปเอง ถ้าเจรจาไม่เป็นผลก็ต้องจับกุม” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว และว่าส่วนตำรวจท่องเที่ยว ที่ว่าน้อยไป ก็ให้ ผบก.ทท.ทำบันทึกเสนอ เครื่องมือเครื่องไม้น้อยไปอย่างไร เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล
