xs
xsm
sm
md
lg

คอ.นธ.เสนอ 4 ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ตั้งคณะผู้บริหาร-ปกครองรูปแบบพิเศษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุกฤษ มงคลนาวิน (แฟ้มภาพ)
คณะกรรมการว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ เตรียมเสนอรัฐบาลใน 4 ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ตั้งคณะผู้บริหารจังหวัดชายแดนใต้ ปกครองรูปแบบพิเศษเหมือนกรุงเทพฯ ตั้งคณะทำงานพิเศษคลี่คลายคดีต่างๆ ในพื้นที่ ใช้เทคโนโลยีช่วยเจ้าหน้าที่จัดการคนร้าย

ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ วันนี้ (11 ก.ค.) นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ) กล่าวถึงการดำเนินการของ คอ.นธ.ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีการศึกษาถึงกรณีปัญหาภาคใต้ โดยได้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้” ว่า ภายหลังจากที่ คอ.นธ.ได้ศึกษาสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันพบว่ามีสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง และแม้จะมีการดำเนินการในภาคาส่วนต่างๆ แต่ปัญหาก็ยังคงดำรงอยู่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนซับซ้อนและเชื่อมโยงกัน ทั้งในระดับบุคคล โครงสร้าง และระดับวัฒนธรรม ทั้งนี้ คอ.นธ.จึงขอเสนอให้รัฐบาลมีการดำเนินการตามแนวทาง 4 ยุทธศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ ดังนี้

1. ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง โดยรัฐบาลต้องปรับปรุงหรือบูรณาการหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เป็นเอกภาพต่อเนื่อง ในการบริหารจัดการทางการเมืองการปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใน 3 ปี ก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 และเป็นช่วงเวลาที่ปฏิบัติตามนโยบายการบริหาร และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2555-2557 ด้วยการสรรหาและแต่งตั้ง “คณะผู้บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของ ศอ.บต. และรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่และบริหารราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ และราชการส่วนอื่น ทั้งนี้จะประกอบไปด้วย เลขา ศอ.บต.เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหาร มีกรรมการอื่นๆ ซึ่งเปรียบเสมือนทีมงานของ ศอ.บต.ในการปฏิบัติงาน

ส่วนวิธีการได้มาซึ่งคณะบริหารนั้น จะมาจากคณะกรรมการสรรหาจำนวน 7 คน ทำหน้าที่สรรหาผู้บริหาร จากบัญชีคณะบุคคลที่สมัครหรือเสนอบัญชีรายชื่อเข้ามาเป็นทีม

2. ยุทธศาสตร์ด้านการปกครองและการบริหารราชการที่ควรการพิจารณาปรับปรุงควบคู่กับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงโดยต้องมีหลักการบริหารจัดการท้องถิ่นของตัวเองอย่างแท้จริงในรูปแบบการปกครองเช่นเดียวกันกับ “กรุงเทพมหานคร” หรือ “เมืองพัทยา” ที่เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษ เพื่อให้การบริหารราชการในแต่ละจังหวัดเหมาะสม คล่องตัว เหมาะสมกับวิถีชีวิต อัตลักษณ์ของสังคม

3. ยุทธศาสตร์ด้านการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องมีคณะทำงานชุดพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่แสวงข้อเท็จจริงที่ประชาชนไมได้รับความเป็นธรรม และคลี่คลายคดีความที่เกี่ยวกับความไม่สงบ พร้อมๆกับการพิจารณายกเลิกกฎหมายความมั่นคงที่ไม่เป็นธรรมที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ อาทิ การยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2458

4. ยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยแบ่งออกเป็น (1) การให้กรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมออกกฎกระทรวงแก้ไขเพิ่มเติมให้รถยนต์และยานพาหนะทุกชนิดติดตั้งเทคโนโลยี RFID เพื่อแสดงอัตลักษณ์รถยนต์ บอกข้อมูลเกี่ยวกับเลขทะเบียนรถ (2) นำเทคโนโลยี RFID มาใช้กับจุดตรวจหรือจุดสกัดยานพาหนะ ร่วมกับระบบCCTV การตรวจยาเสพติด (3) การเพิ่มแสงสว่างตามแนวคิด “แสงสว่างส่องทาง แสงสว่างส่องใจ” โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะนำไปเสนอต่อรัฐบาลภายใน 2 สัปดาห์ โดย คอ.นธ.จะประชุมร่วมกับนายกฯรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น