ในช่วงเดือนมิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา เรื่องราวที่เกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญได้รับฟ้องของกลุ่มบุคคลที่กล่าวหานักการเมือง ทั้ง ส.ส. และ ส.ว.ได้ร่วมกันกระทำการล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550
เพียงแค่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำฟ้องก็ถูกถล่มจากบรรดานักการเมืองซีกรัฐบาลอย่างหยาบคาย แม้แต่คนระดับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาล ยังร่วมกันออกมาถล่มศาลรัฐธรรมนูญอย่างเมามัน ตามมาด้วยตัวเอ้ของคนเสื้อแดง ได้ออกมาตั้งเวทีถล่มศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งยังข่มขู่ครอบครัวด้วยการเปิดเผยชื่อบุตร-ภรรยา พร้อมที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ โดยไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนใดคิดจะออกมาห้ามปราม
หลังจากโดนศาลรัฐธรรมนูญยื่นเรื่องให้ศาลอาญาถอนประกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตามไปด่าศาลถึงหน้าที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ สื่อทั้งหลายก็พากันประโคมข่าว ดุจดังดารานำเรื่อง “อึ่งอ่างรกโลก”
มีนายกรัฐมนตรีหญิงที่ไร้ความสามารถที่จะดูแลผู้คนของตัวเองได้ ปล่อยให้พวกถ่อยสถุลทั้งหลายออกมาจาบจ้วงศาล อันเป็นกรณีตัวอย่างที่เลวร้ายสำหรับเยาวชน บ้านเมืองเราหาคนดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือ จะต้องจำใจยอมให้คนชั่วกดขี่ข่มเหงน้ำใจกันไปถึงเมื่อไหร่
หมดจากเรื่องรัฐธรรมนูญ มาเรื่องนาซ่ากับอู่ตะเภา มีคนท้วงติงมากมาย ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านเท่านั้น กลับถูกกล่าวหาโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า “ผู้คัดค้านเป็นพวกไม่รักชาติ” ตามมาด้วยคำพูดกวนโอ๊ยของนายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ฯลฯ
หลังจากนาซ่าถอนตัวออกไป ปลอดประสพยังขู่ซ้ำว่า “หากน้ำท่วมอย่ามาโทษรัฐบาล” แค่นาซ่ามาสำรวจชั้นบรรยากาศ ชั้นเมฆในช่วงเวลา 2-3 เดือนมันจะแก้น้ำท่วมบ้านเราได้จริงหรือ ในขณะที่อเมริกาเองยังไฟไหม้ป่าวินาศสันตะโร พายุถล่มหลายเมืองยับเยิน ก็ยังไม่มีปัญญาแก้
คนเสื้อแดงเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ ทวงอำนาจรัฐคืน ลงทุนเผาบ้านเผาเมือง ฆ่าพวกเดียวกันแล้วจ่ายเงินปิดปาก
ปัจจุบันอำนาจรัฐอยู่ในมือแบบเบ็ดเสร็จ รัฐบาลของคนเสื้อแดง รัฐสภาก็เป็นสีแดงไปหมดแล้ว ข้าราชการยังต้องตัดสูทใหม่เป็นสีแดง บางคนลงทุนใส่กางเกงในแดงเพื่อเอาใจนักการเมือง ยังต้องการอะไรอีกถึงต้องเที่ยวไล่คุกคามคนอื่น ตำรวจ อัยการ DSI คุมได้หมด เหลือศาลเท่านั้นที่ยังไม่ยอมรับถุงขนม
นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีที่มาเป็นนักการเมืองโดยไม่เคยคาดหวัง มีพี่ชายเป็นนักโทษหนีคดีอาญา และเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย พี่ชายแต่งตั้งมาเพื่อให้หาทางช่วยตนเองให้พ้นผิด
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง สมัยยังดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีที่ดินยายเนื่องถูกโอนกลายเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์
นอกจากนายเก่ง การุณ ที่โดนคดีทำร้ายร่างกาย และกำลังจะถูกถอนสภาพการเป็น ส.ส.แล้วยังมีอันธพาลในคราบนักการเมืองอีกมากมายหลายคน สุมหัวกันอยู่ในพรรคนี้
ลองดูตัวอย่างคำตัดสินของ ป.ป.ช.กรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ กรณีส่งเสือไปจีน
ข้อเท็จจริงในการไต่สวน
บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ซู จำกัด ได้ทำเรื่องขออนุญาตเพื่อส่งเสือโคร่งเบงกอล จำนวน 100 ตัว ไปยังสวนสัตว์ สาธารณะ SANYA MAITREE CONCEPT CO., LTD. ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยขอให้กระทำในนามของกรมป่าไม้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะอธิบดีกรมป่าไม้ นายมานพ เลาห์ประเสริฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพันธุ์พืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) ได้ร่วมกันพิจารณาอนุญาตตามี่บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ซู จำกัดร้องขอ โดยได้ลงนามอนุญาตเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2545 ให้ส่งเสือจำนวน 100 ตัวไปจีนได้ในนามของกรมป่าไม้
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 23 และมาตรา 26 เหตุเพราะกรณีเรื่องนี้เป็นการขออนุญาตส่งออกเพื่อประโยชน์ในกิจการสวนสัตว์สาธารณะของบริษัทเอกชน มิใช่การเพาะพันธุ์หรือเพื่อกิจการสวนสัตว์สาธารณะซึ่งกระทำโดยราชการ จึงเป็นการกระทำที่เอื้อให้กับบริษัทเอกชนดังกล่าวได้รับประโยชน์จากการส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือโคร่ง) เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาจากการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าการกระทำของนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายมานพ เลาห์ประเสริฐ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง และเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และส่งรายงานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งคนต่อไป
ผลการดำเนินการทางวินัย
ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษ ไล่ออก
นอกจากนี้นายปลอดประสพยังได้รับงบประมาณจากนักโทษหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร กว่า 2 พันล้านบาท ทำสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งขาดทุนมาตลอด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดูแลน้ำท่วม คุมงบประมาณมหาศาล ล่าสุดเพิ่งสวมตอนาซ่าของบวิจัยเมฆไปอีก 200 ล้าน
รัฐบาลที่มีแต่คนเลวอย่างมีสาระเช่นนี้ ควรแล้วหรือที่จะไว้ใจให้บริหารประเทศต่อไป
เพียงแค่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำฟ้องก็ถูกถล่มจากบรรดานักการเมืองซีกรัฐบาลอย่างหยาบคาย แม้แต่คนระดับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาล ยังร่วมกันออกมาถล่มศาลรัฐธรรมนูญอย่างเมามัน ตามมาด้วยตัวเอ้ของคนเสื้อแดง ได้ออกมาตั้งเวทีถล่มศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งยังข่มขู่ครอบครัวด้วยการเปิดเผยชื่อบุตร-ภรรยา พร้อมที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ โดยไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนใดคิดจะออกมาห้ามปราม
หลังจากโดนศาลรัฐธรรมนูญยื่นเรื่องให้ศาลอาญาถอนประกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ถึงกับเลือดขึ้นหน้า ตามไปด่าศาลถึงหน้าที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญ สื่อทั้งหลายก็พากันประโคมข่าว ดุจดังดารานำเรื่อง “อึ่งอ่างรกโลก”
มีนายกรัฐมนตรีหญิงที่ไร้ความสามารถที่จะดูแลผู้คนของตัวเองได้ ปล่อยให้พวกถ่อยสถุลทั้งหลายออกมาจาบจ้วงศาล อันเป็นกรณีตัวอย่างที่เลวร้ายสำหรับเยาวชน บ้านเมืองเราหาคนดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือ จะต้องจำใจยอมให้คนชั่วกดขี่ข่มเหงน้ำใจกันไปถึงเมื่อไหร่
หมดจากเรื่องรัฐธรรมนูญ มาเรื่องนาซ่ากับอู่ตะเภา มีคนท้วงติงมากมาย ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านเท่านั้น กลับถูกกล่าวหาโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า “ผู้คัดค้านเป็นพวกไม่รักชาติ” ตามมาด้วยคำพูดกวนโอ๊ยของนายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ฯลฯ
หลังจากนาซ่าถอนตัวออกไป ปลอดประสพยังขู่ซ้ำว่า “หากน้ำท่วมอย่ามาโทษรัฐบาล” แค่นาซ่ามาสำรวจชั้นบรรยากาศ ชั้นเมฆในช่วงเวลา 2-3 เดือนมันจะแก้น้ำท่วมบ้านเราได้จริงหรือ ในขณะที่อเมริกาเองยังไฟไหม้ป่าวินาศสันตะโร พายุถล่มหลายเมืองยับเยิน ก็ยังไม่มีปัญญาแก้
คนเสื้อแดงเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ ทวงอำนาจรัฐคืน ลงทุนเผาบ้านเผาเมือง ฆ่าพวกเดียวกันแล้วจ่ายเงินปิดปาก
ปัจจุบันอำนาจรัฐอยู่ในมือแบบเบ็ดเสร็จ รัฐบาลของคนเสื้อแดง รัฐสภาก็เป็นสีแดงไปหมดแล้ว ข้าราชการยังต้องตัดสูทใหม่เป็นสีแดง บางคนลงทุนใส่กางเกงในแดงเพื่อเอาใจนักการเมือง ยังต้องการอะไรอีกถึงต้องเที่ยวไล่คุกคามคนอื่น ตำรวจ อัยการ DSI คุมได้หมด เหลือศาลเท่านั้นที่ยังไม่ยอมรับถุงขนม
นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีที่มาเป็นนักการเมืองโดยไม่เคยคาดหวัง มีพี่ชายเป็นนักโทษหนีคดีอาญา และเป็นผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย พี่ชายแต่งตั้งมาเพื่อให้หาทางช่วยตนเองให้พ้นผิด
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ก็ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง สมัยยังดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีที่ดินยายเนื่องถูกโอนกลายเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์
นอกจากนายเก่ง การุณ ที่โดนคดีทำร้ายร่างกาย และกำลังจะถูกถอนสภาพการเป็น ส.ส.แล้วยังมีอันธพาลในคราบนักการเมืองอีกมากมายหลายคน สุมหัวกันอยู่ในพรรคนี้
ลองดูตัวอย่างคำตัดสินของ ป.ป.ช.กรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ กรณีส่งเสือไปจีน
ข้อเท็จจริงในการไต่สวน
บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ซู จำกัด ได้ทำเรื่องขออนุญาตเพื่อส่งเสือโคร่งเบงกอล จำนวน 100 ตัว ไปยังสวนสัตว์ สาธารณะ SANYA MAITREE CONCEPT CO., LTD. ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยขอให้กระทำในนามของกรมป่าไม้
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะอธิบดีกรมป่าไม้ นายมานพ เลาห์ประเสริฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดของสัตว์ป่าและพันธุ์พืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) ได้ร่วมกันพิจารณาอนุญาตตามี่บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ซู จำกัดร้องขอ โดยได้ลงนามอนุญาตเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2545 ให้ส่งเสือจำนวน 100 ตัวไปจีนได้ในนามของกรมป่าไม้
ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 23 และมาตรา 26 เหตุเพราะกรณีเรื่องนี้เป็นการขออนุญาตส่งออกเพื่อประโยชน์ในกิจการสวนสัตว์สาธารณะของบริษัทเอกชน มิใช่การเพาะพันธุ์หรือเพื่อกิจการสวนสัตว์สาธารณะซึ่งกระทำโดยราชการ จึงเป็นการกระทำที่เอื้อให้กับบริษัทเอกชนดังกล่าวได้รับประโยชน์จากการส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครอง (เสือโคร่ง) เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาจากการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่าการกระทำของนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายมานพ เลาห์ประเสริฐ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง และเป็นความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และส่งรายงานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งคนต่อไป
ผลการดำเนินการทางวินัย
ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษ ไล่ออก
นอกจากนี้นายปลอดประสพยังได้รับงบประมาณจากนักโทษหนีคดี ทักษิณ ชินวัตร กว่า 2 พันล้านบาท ทำสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ซึ่งขาดทุนมาตลอด ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดูแลน้ำท่วม คุมงบประมาณมหาศาล ล่าสุดเพิ่งสวมตอนาซ่าของบวิจัยเมฆไปอีก 200 ล้าน
รัฐบาลที่มีแต่คนเลวอย่างมีสาระเช่นนี้ ควรแล้วหรือที่จะไว้ใจให้บริหารประเทศต่อไป
