โฆษก กมธ.งบปี 56 เผยที่ประชุมถกงบวิทย์ 8 พันล้าน ยันไม่ปรับลด แต่ติดใจสำรวจก้อนเมฆ งงขอ 200 ล้าน ซื้ออุปกรณ์ ทั้งๆ ที่สำนักฝนหลวงก็มี ด้าน “วรวัจน์” แจง ครม.แค่วางแผน โบ้ยความคิด “ปลอด” คนเดียว พบ กมธ.แนะสำรวจรอยพญานาคที่ราชบุรี
วันนี้ (5 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายบุญยอด สุขถิ่นไทย โฆษกกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการจัดสรรงบประมาณในส่วนของกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สารสนเทศ จำนวน 8,000 ล้านบาท โดยกรรมาธิการไม่ได้มีการเสนอปรับลดเนื่องจากเห็นว่าเป็นหน่วยงานที่สมควรให้การสนับสนุนพัฒนาให้มากยิ่งขึ้น แต่มีกรรมาธิการบางส่วนยังติดใจในประเด็นโครงการสำรวจก้อนเมฆ ที่แม้นาซ่าจะถอนตัวออกไปแล้ว แต่ทางรัฐบาลยังมีท่าทีจะดำเนินการต่อเอง โดย น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ซักถามถึงความจำเป็นที่ต้องซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบก้อนเมฆ จากกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติเงิน 200ล้านบาทจากงบ พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ทำไมถึงต้องซื้อในเมื่อสำนักฝนหลวงของกรมอุตุนิยมวิทยา ก็มีอุปกรณ์เครื่องมือชนิดนี้ ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า ครม.ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ เป็นเพียงการวางโครงการเบื้องต้นเท่านั้นว่า หากนาซ่าไม่มาทำโครงการนี้แล้วทางไทยก็ต้องทำเอง เรื่องการขอเบิกงบประมาณจึงเป็นความคิดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีคนเดียว
“แม้จะไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา เพราะไม่ได้ใช้งบประมาณปี 56 โดยเลี่ยงไปใช้งบเงินกู้ก็ตาม แต่ทางกรรมาธิการจะติดตามดูเรื่องนี้ ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ซื้อไป เพื่อใช้ทำอะไร ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรเพิ่มภาระให้กับประเทศ” นายบุญยอดกล่าว
นายบุญยอดกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาในส่วนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 3,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงบอุดหนุนการทำวิจัย 2,000 ล้านบาท ทางที่ประชุมไม่ติดใจปรับลดเช่นกันเพราะเห็นถึงความสำคัญของงานวิจัยที่ต้องใช้เวลา และงบประมาณสูง แต่มีกรรมาธิการบางคนเห็นว่าควรทำประโยชน์ได้มากกว่านี้ เช่น นางกัลยา รุ่งวิจิตรชัย กรรมาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งคำถามถึงกรณีที่มีข่าวว่ามีร่องรอยพญานาคไปปรากฏที่วัดชมพูพล อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และมีประชาชนแตกตื่นไปดูจำนวนมาก ทำไมไม่มีหน่วนงานใดของกระทรวงไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์กลับปล่อยให้เป็นความเชื่อของคนไทยบางกลุ่ม ซึ่งมีกรรมาธิการหลายได้คนแสดงความเห็นด้วย เช่น นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา รองประธานกรรมาธิการ จึงขอสำนักงานฯส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจตรวจสอบและมารายงานต่อที่ประชุมต่อไป โดยนายทวีศักดิ์ กออนัตกุล ผู้อำนวยการสำนักงานฯ กล่าวว่าอาจต้องขอความร่วมมือกับทางวัดด้วยการนำเอาสารเคมี หรือดินมาทำการสำรวจตรวจสอบ หรืออาจจะขอตั้งกล้องวงจรปิดในระยะเวลาหลายวันเพื่อจะได้รวบรวมหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ หวังว่าทางวัดจะให้ความร่วมมือด้วย เพราะไม่ได้มุ่งจับผิด แต่ถ้าเป็นข้อสงสัยของประชาชน
อย่างไรก็ตาม มีกรรมาธิการหลายคนแสดงความเป็นห่วงต่อปัญหาสังคมไทยที่มีความเชื่องมงาย ที่มีแนวโน้มจะขยายวงกว้างขึ้น โดยเพราะการนำเสนอของสื่อบางสำนักที่สามารถชักจูงความเชื่อของประชาชนได้ จึงควรจะมีการกระตุกสังคม ไม่ให้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงได้