นายบุญยอด สุขถิ่นไทย โฆษกกรรมาธิการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2556 กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการจัดสรรงบประมาณในส่วนของ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน 8,000 ล้านบาท โดยกรรมาธิการ ไม่ได้มีการเสนอปรับลด เนื่องจากเห็นว่าเป็นหน่วยงานที่สมควรให้การสนับสนุน พัฒนาให้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีกรรมาธิการบางส่วน ยังติดใจในประเด็นโครงการสำรวจก้อนเมฆ ที่แม้นาซา จะถอนตัวออกไปแล้ว แต่ทางรัฐบาลยังมีท่าทีจะดำเนินการต่อเอง
โดย น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ซักถามถึงความจำเป็น ที่ต้องซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบก้อนเมฆ จากโครงการที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติงบประมาณ 200 ล้านบาท จากงบฯ พ.ร.ก. เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ว่า ทำไมถึงต้องซื้อ ในเมื่อสำนักฝนหลวง ของกรมอุตุนิยมวิทยา ก็มีอุปกรณ์เครื่องมือชนิดนี้
ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่าครม.ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ เป็นเพียงการวางโครงการเบื้องต้นเท่านั้นว่า หากนาซาไม่มาทำโครงการนี้แล้ว ทางไทยก็คงต้องทำเอง เรื่องการขอเบิกงบประมาณ จึงเป็นความคิดของนายปลอดประสพ คนเดียว
" แม้จะไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา เพราะไม่ได้ใช้งบประมาณปี 56 โดยเลี่ยงไปใช้งบเงินกู้ก็ตาม แต่ทางกรรมาธิการ จะติดตามดูเรื่องนี้ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ซื้อไปเพื่อใช้ทำอะไร ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ควรเพิ่มภาระให้กับประเทศ "
นายบุญยอด กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาในส่วนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 3,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงบอุดหนุนการทำวิจัย 2,000 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุม ไม่ติดใจปรับลดเช่นกันเพราะเห็นถึงความสำคัญของงานวิจัย ที่ต้องใช้เวลา และงบประมาณสูง แต่ก็มีกรรมาธิการบางคนเห็นว่า ควรทำประโยชน์ได้มากกว่านี้ เช่น นางกัลยา รุ่งวิจิตรชัย กรรมาธิการ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งคำถาม ถึงกรณีที่มีข่าวว่า มีร่องรอยพญานาคไปปรากฏที่ วัดชมพูพล อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และมีประชาชนแตกตื่นไปดูจำนวนมาก ทำไมไม่มีหน่วนงานใดของกระทรวงฯ ไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ กลับปล่อยให้เป็นความเชื่อของคนไทยบางกลุ่ม ซึ่งมีกรรมาธิการหลายคน ได้แสดงความเห็นด้วย เช่น นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา รองประธานกรรมาธิการ จึงขอสำนักงานฯ ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจตรวจสอบและมารายงานต่อที่ประชุมต่อไป โดยนายทวีศักดิ์ กออนัตกุล ผู้อำนวยการสำนักงานฯ กล่าวว่า อาจต้องขอความร่วมมือกับทางวัด ด้วยการนำเอาสารเคมี หรือดินมาทำการสำรวจตรวจสอบ หรืออาจจะขอตั้งกล้องวงจรปิดในระยะเวลาหลายวัน เพื่อจะได้รวบรวมหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ หวังว่าทางวัดจะให้ความร่วมมือด้วย เพราะไม่ได้มุ่งจับผิด แต่ถ้าเป็นข้อสงสัยของประชาชน
อย่างไรก็ตาม มีกรรมาธิการหลายคน แสดงความเป็นห่วงต่อปัญหาสังคมไทย ที่มีความเชื่องมงาย ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะการนำเสนอของสื่อบางสำนัก ที่สามารถชักจูงความเชื่อของประชาชนได้ จึงควรจะมีการกระตุกสังคม ไม่ให้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงได้
อย่างไรก็ตาม มีกรรมาธิการบางส่วน ยังติดใจในประเด็นโครงการสำรวจก้อนเมฆ ที่แม้นาซา จะถอนตัวออกไปแล้ว แต่ทางรัฐบาลยังมีท่าทีจะดำเนินการต่อเอง
โดย น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ กรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ซักถามถึงความจำเป็น ที่ต้องซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบก้อนเมฆ จากโครงการที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติงบประมาณ 200 ล้านบาท จากงบฯ พ.ร.ก. เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท ว่า ทำไมถึงต้องซื้อ ในเมื่อสำนักฝนหลวง ของกรมอุตุนิยมวิทยา ก็มีอุปกรณ์เครื่องมือชนิดนี้
ขณะที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่าครม.ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ เป็นเพียงการวางโครงการเบื้องต้นเท่านั้นว่า หากนาซาไม่มาทำโครงการนี้แล้ว ทางไทยก็คงต้องทำเอง เรื่องการขอเบิกงบประมาณ จึงเป็นความคิดของนายปลอดประสพ คนเดียว
" แม้จะไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา เพราะไม่ได้ใช้งบประมาณปี 56 โดยเลี่ยงไปใช้งบเงินกู้ก็ตาม แต่ทางกรรมาธิการ จะติดตามดูเรื่องนี้ว่ามีความจำเป็นหรือไม่ ซื้อไปเพื่อใช้ทำอะไร ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ควรเพิ่มภาระให้กับประเทศ "
นายบุญยอด กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาในส่วนสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 3,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงบอุดหนุนการทำวิจัย 2,000 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุม ไม่ติดใจปรับลดเช่นกันเพราะเห็นถึงความสำคัญของงานวิจัย ที่ต้องใช้เวลา และงบประมาณสูง แต่ก็มีกรรมาธิการบางคนเห็นว่า ควรทำประโยชน์ได้มากกว่านี้ เช่น นางกัลยา รุ่งวิจิตรชัย กรรมาธิการ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งคำถาม ถึงกรณีที่มีข่าวว่า มีร่องรอยพญานาคไปปรากฏที่ วัดชมพูพล อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และมีประชาชนแตกตื่นไปดูจำนวนมาก ทำไมไม่มีหน่วนงานใดของกระทรวงฯ ไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ กลับปล่อยให้เป็นความเชื่อของคนไทยบางกลุ่ม ซึ่งมีกรรมาธิการหลายคน ได้แสดงความเห็นด้วย เช่น นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬา รองประธานกรรมาธิการ จึงขอสำนักงานฯ ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจตรวจสอบและมารายงานต่อที่ประชุมต่อไป โดยนายทวีศักดิ์ กออนัตกุล ผู้อำนวยการสำนักงานฯ กล่าวว่า อาจต้องขอความร่วมมือกับทางวัด ด้วยการนำเอาสารเคมี หรือดินมาทำการสำรวจตรวจสอบ หรืออาจจะขอตั้งกล้องวงจรปิดในระยะเวลาหลายวัน เพื่อจะได้รวบรวมหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ หวังว่าทางวัดจะให้ความร่วมมือด้วย เพราะไม่ได้มุ่งจับผิด แต่ถ้าเป็นข้อสงสัยของประชาชน
อย่างไรก็ตาม มีกรรมาธิการหลายคน แสดงความเป็นห่วงต่อปัญหาสังคมไทย ที่มีความเชื่องมงาย ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะการนำเสนอของสื่อบางสำนัก ที่สามารถชักจูงความเชื่อของประชาชนได้ จึงควรจะมีการกระตุกสังคม ไม่ให้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงได้