xs
xsm
sm
md
lg

จ่อขึ้นบัญชีดำคุมราคาฟูดคอร์ท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พาณิชย์”นัดห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ถกสัปดาห์หน้า บี้ลดค่าส่วนแบ่งการขาย (จีพี) ลงเหลือ 20% หลังพบเก็บสุดโหดถึง 35% เป็นต้นเหตุทำให้อาหารปรุงสำเร็จราคาสูงลิ่ว ลั่นหากไม่ร่วมมือจับเป็นบริการควบคุมแน่ พร้อมเบรกห้างห้ามขึ้นค่าขนสินค้า โดยอ้างน้ำมัน

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ จะเชิญผู้ประกอบการห้างค้าปลีก (โมเดิร์นเทรด) และห้างสรรพสินค้าทุกราย มาหารือสัปดาห์หน้า เพื่อขอความร่วมมือปรับลดค่าส่วนแบ่งการขาย (จีพี) ที่เรียกเก็บจากผู้ค้าอาหารปรุงสำเร็จภายในศูนย์อาหาร (ฟูดคอร์ท) ของห้าง จากปัจจุบันที่เรียกเก็บจากผู้ค้าเฉลี่ยสูงถึง 30-35% ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าเช่าพื้นที่ เช่น เงินประกัน ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าก๊าซหุงต้ม จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาอาหารปรุงสำเร็จในฟูดคอร์ทของห้างสูงเกินจริง

ทั้งนี้ กรมฯ จะขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการปรับลดค่าจีพีลงเหลือ 20% เพื่อให้ราคาอาหารในฟูดคอร์ทปรับลดลงตาม แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ ก็จะใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น เช่น เสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พิจารณาให้ค่าจีพีเป็นบริการควบคุม ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยจะกำหนดอัตราที่เหมาะสม และถ้าไม่ปฏิบัติตามก็จะมีโทษตามกฎหมาย และยังจะดูไปถึงค่าไฟฟ้า และน้ำประปา ที่ห้างเก็บจากผู้ค้าว่าเหมาะสมหรือไม่ด้วย

“ธุรกิจหลักของห้าง คือ ค้าปลีก ค้าส่ง ไม่ใช่มาหากำไรกับการขายอาหาร อีกทั้งอาหารในฟูดคอร์ทก็ไม่ใช่อาหารทางเลือกอีกแล้ว แต่เป็นอาหารที่จำเป็น เพราะเมื่อประชาชนไปซื้อของในห้าง ก็ต้องกินข้าว”นางวัชรีกล่าว

นางวัชรีกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ทำหนังสือไปถึงผู้ประกอบการห้างค้าปลีกทุกราย โดยขอความร่วมมือไม่ให้มีการปรับขึ้นค่ากระจายสินค้า (ดีซี) หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) ว่าห้างขอปรับขึ้นค่ากระจายสินค้า โดยบางห้างขอขึ้นสูงถึง 15% ทั้งๆ ที่ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศมีแนวโน้มลดลง จึงไม่มีเหตุผลที่จะปรับขึ้นค่าดีซี
เพราะจะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้ผู้ผลิตสินค้า และอาจมีผลทำให้ราคาสินค้าปลายทางสูงขึ้น และประชาชนเดือดร้อนได้

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมธงฟ้า ไทยช่วยไทย ครั้งที่ 2” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 มิ.ย.นี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานีว่า มั่นใจว่าจะสามารถดูแลอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ให้อยู่ในกรอบที่วางไว้ 3.3-3.8% ได้ เพราะแนวโน้มราคาสินค้าอาหารในปีนี้ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้งขณะนี้ ราคาสินค้าค่อนข้างทรงตัว และมีบางรายการลดราคาลงแล้ว เช่น หมูเนื้อแดง จึงขอให้ประชาชนลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับราคาอาหาร ในส่วนของอาหารปรุงสำเร็จ กระทรวงฯ จะพยายามออกประกาศราคาแนะนำให้เร็วที่สุด ขณะที่สินค้ากลุ่มอื่น ทั้งวัสดุก่อสร้าง เหล็ก และปุ๋ย ก็น่าจะอยู่ระดับที่ทรงตัวเช่นกัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน ห้างค้าปลีกและห้างสรรพสินค้า มีการเรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากผู้ค้าอาหารในศูนย์อาหาร 30-35% ค่าเงินประกัน 50,000-100,000 บาท และยังมีค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้มอีก ส่งผลให้ราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จในห้างสูงกว่าที่ขายในตลาดทั่วไป โดยราคาในห้างค้าปลีก ข้าวราดแกง 1 อย่าง ราคา 30 บาท ราดแกง 2 อย่าง 35-40 บาท
ข้าวกระเพราหมู-ไก่ 35-40 บาท ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น 35 บาท ส่วนในห้างสรรพสินค้า ข้าวราดแกง 1 อย่าง 30-35 บาท ข้าวราดแกง 2 อย่าง 40-45 บาท ข้าวกระเพราะหมู-ไก่ 40-45 บาท ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น 40 บาท

ทั้งนี้ เมื่อคำนวณส่วนแบ่งรายได้ที่ห้างค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าจะได้รับจากผู้ค้า เช่น ราคาอาหาร 30 บาท ห้างจะได้ส่วนแบ่งที่จานละ 9.81 บาท ขณะที่ผู้ค้าจะได้สุทธิ 18.23 บาท ราคาจานละ 35 บาท ห้างจะได้ 11.45 บาท ผู้ค้าจะได้ 21.26 บาท จานละ 40 บาท ห้างจะได้ 13.04 บาท ผู้ค้าได้ 24.30 บาท และจานละ 45 บาท ห้างจะได้ 14.72 บาท และผู้ค้าได้ 27.34 บาท แต่หากสามารถเจรจาให้ห้างฯปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆลงเหลือเพียง 20% จะทำให้ราคาอาหารจากจานละ 30 บาท ลดลงได้อีก 4.20 บาท ราคา 35 บาท ลดลงได้ 4.91 บาท ราคา 40 บาท ลดลงได้ 5.60 บาท และราคา 45 บาท ลดลงได้ 6.31 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น