ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”วางกรอบคุมอาหารปรุงสำเร็จ เล็งคุมราคาเป็นรายจังหวัด เน้นเมนูคนนิยม กระเพรา ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ยันหาบเร่แผงลอย-ปั๊มน้ำมัน ไม่โดนคุม
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลอาหารปรุงสำเร็จว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรอบเป้าหมายที่จะกำกับดูแลอาหารปรุงสำเร็จ ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติให้กระทรวงพาณิชย์มากำหนดมาตรการให้ชัดเจน โดยได้หารือถึงประเภทของอาหารปรุงสำเร็จที่จะใช้มาตรการกำกับดูแล รูปแบบการค้า และจังหวัด ที่จะใช้มาตรการ ซึ่งได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ไปศึกษาข้อมูล และนำกลับมาเสนอที่ประชุมครั้งต่อไปในอีก 1-2 สัปดาห์หน้า
สำหรับประเภทอาหารที่จะใช้มาตรการกำกับดูแล จะต้องเป็นอาหารที่ประชาชนนิยมบริโภค เช่น ข้าวกระเพราไก่-หมู, ข้าวผัดไก่-หมู, ก๋วยเตี๋ยวไก่-หมู เป็นต้น ส่วนรูปแบบการค้า จะใช้มาตรการกับเฉพาะในสถานที่ที่ประชาชนนิยมเข้าไปบริโภค เช่น ฟู้ดคอร์ทตามห้างค้าปลีก และห้างสรรพสินค้า ศูนย์อาหารในสำนักงาน และสถานที่ราชการ หรือในตลาดสด แต่จะไม่รวมถึงการขายอาหารตามหาบเร่แผงลอย หรือตามสถานีบริการน้ำมัน เพราะขายราคาต่ำ และมีการแข่งขันกันดีอยู่แล้ว
ส่วนในพื้นที่เป้าหมาย จะเน้นไปที่จังหวัดที่ราคาอาหารปรุงสำเร็จผันผวน และประชาชนได้รับผลกระทบมาก เช่น ใน 7 จังหวัดนำร่องที่รัฐบาลปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท และอาจรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว และยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน วิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จด้วยว่ามีต้นทุนหลักจากอะไร เพราะการขายในบางสถานที่ ต้นทุนหลักไม่ได้อยู่ที่ตัววัตถุดิบอาหาร แต่อยู่ที่ค่าเช่าสถานที่ ค่าส่วนแบ่งการขาย เป็นต้น
“แนวทางการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ จะไม่ใช่การกำหนดราคากลาง เพื่อให้ขายเท่ากันทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่จะกำหนดราคาขายเป็นรายจังหวัด โดยจังหวัดใหญ่ๆ หรือจังหวัดที่มีเศรษฐกิจดี ก็จะมีราคาสูงกว่าจังหวัดที่เศรษฐกิจไม่ดี คาดว่า ประชุมคณะอนุกรรมการฯ อีก 2-3 ครั้ง ก็น่าจะนำเสนอให้รมว.พาณิชย์พิจารณา ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้” นายยรรยงกล่าว
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลอาหารปรุงสำเร็จว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรอบเป้าหมายที่จะกำกับดูแลอาหารปรุงสำเร็จ ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติให้กระทรวงพาณิชย์มากำหนดมาตรการให้ชัดเจน โดยได้หารือถึงประเภทของอาหารปรุงสำเร็จที่จะใช้มาตรการกำกับดูแล รูปแบบการค้า และจังหวัด ที่จะใช้มาตรการ ซึ่งได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ไปศึกษาข้อมูล และนำกลับมาเสนอที่ประชุมครั้งต่อไปในอีก 1-2 สัปดาห์หน้า
สำหรับประเภทอาหารที่จะใช้มาตรการกำกับดูแล จะต้องเป็นอาหารที่ประชาชนนิยมบริโภค เช่น ข้าวกระเพราไก่-หมู, ข้าวผัดไก่-หมู, ก๋วยเตี๋ยวไก่-หมู เป็นต้น ส่วนรูปแบบการค้า จะใช้มาตรการกับเฉพาะในสถานที่ที่ประชาชนนิยมเข้าไปบริโภค เช่น ฟู้ดคอร์ทตามห้างค้าปลีก และห้างสรรพสินค้า ศูนย์อาหารในสำนักงาน และสถานที่ราชการ หรือในตลาดสด แต่จะไม่รวมถึงการขายอาหารตามหาบเร่แผงลอย หรือตามสถานีบริการน้ำมัน เพราะขายราคาต่ำ และมีการแข่งขันกันดีอยู่แล้ว
ส่วนในพื้นที่เป้าหมาย จะเน้นไปที่จังหวัดที่ราคาอาหารปรุงสำเร็จผันผวน และประชาชนได้รับผลกระทบมาก เช่น ใน 7 จังหวัดนำร่องที่รัฐบาลปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท และอาจรวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว และยังได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน วิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จด้วยว่ามีต้นทุนหลักจากอะไร เพราะการขายในบางสถานที่ ต้นทุนหลักไม่ได้อยู่ที่ตัววัตถุดิบอาหาร แต่อยู่ที่ค่าเช่าสถานที่ ค่าส่วนแบ่งการขาย เป็นต้น
“แนวทางการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ จะไม่ใช่การกำหนดราคากลาง เพื่อให้ขายเท่ากันทุกจังหวัดทั่วประเทศ แต่จะกำหนดราคาขายเป็นรายจังหวัด โดยจังหวัดใหญ่ๆ หรือจังหวัดที่มีเศรษฐกิจดี ก็จะมีราคาสูงกว่าจังหวัดที่เศรษฐกิจไม่ดี คาดว่า ประชุมคณะอนุกรรมการฯ อีก 2-3 ครั้ง ก็น่าจะนำเสนอให้รมว.พาณิชย์พิจารณา ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้” นายยรรยงกล่าว
