xs
xsm
sm
md
lg

ขย่ม! แท๊ปเล็ต 8พันล้าน ซักฟอกงบ 56 กว่า 2.4 ล้านล้านวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-โพลเผยคนอยากได้เนื้อหาสภาถกงบปี56 พท.ดักคอ ปชป.จ้องใช้อภิปรายงบฯ 56 เป็นเวทีซ้อมย่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล สั่งตั้ง 20 องครักษ์ ประท้วงตัดเกม โต้ จัดทำงบรายจ่ายแบบกินรวบ ปัดตั้งงบผี “ปชป.”เตรียมพร้อมชำแหละงบปี56 วันนี้ เผยจัดหนัก “แท๊ปเล็ต” 8,800 ล้าน

วานนี้ (20พ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในกทม. และปริมณฑล จำนวน 1,405 คน ระหว่างวันที่ 17-20 พ.ค. 2555 ตามที่รัฐสภาได้กำหนดให้วันที่21-23พ.ค.มีการอภิปรายเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 โดยร้อยละ 19.03 ระบุว่า จะมีการติดตามอย่างแน่นอน เพราะอยากรู้เหตุผลของรัฐบาลในการนำงบประมาณไปใช้จ่าย โดยร้อยละ50.30 จะติดตามถ่ายทอดสด และตามข่าวทางโทรทัศน์

ประชาชนร้อยะ 53.92 ระบุว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากการฟังอภิปรายในครั้งนี้ พราะจะได้รู้ว่าในปีหน้ารัฐบาลจะมีแนวทางในการช่วยเหลืออย่างไร สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ฯลฯ และร้อยละ59.23 สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นอยากฟัง จากรัฐบาล คือการชี้แจงเหตุและผลของการนำงบประมาณไปใช้ในเรื่องต่างๆที่ชัดเจน ตรงไปตรงมา ร้อยละ56.50 ประชาชนอยากฟัง และอยากเห็นจากฝ่ายค้าน คือการซักถามในเรื่องที่เป็นประโยชน์ ตรงประเด็น ไม่พูดนอกเรื่อง

ส่วนสิ่งที่ประชาชนไม่อยากเห็น/ไม่อยากฟัง จากรัฐบาล ร้อยละ47.66 คือการทะเลาะเบาะแว้ง ใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ ใช้สิทธิประท้วงกันไปมา และจากฝ่ายค้านร้อยละ50.74 การทะเลาะเบาะแว้ง มุ่งแต่เอาชนะกันโดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชน หลังการอภิปรายงบประมาณเสร็จสิ้น ร้อยละ57.67 เห็นว่า การเมืองไทยยังคงเหมือนเดิม คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง รัฐบาลมีเสียงข้างมาก บ้านเมืองแตกแยกเหมือนเดิม ฯลฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีการเตรียมการไว้อย่างดีเพราะมีหลายแง่มุมที่ต้องเสนอต่อรัฐบาลและประชาชน โดยนโยบายเรื่องงบประมาณซึ่งภาพรวมเป็นการขาดดุล ในทางมหภาค น่าจะมีความเหมาะสม แต่ขณะเดียวกันจะเห็นได้ว่าทิศทางยุทธศาสตร์ของงบประมาณโดยเฉพาะปัญหาระยะยาวของประเทศ มีการแก้ไขน้อยมากซึ่งจะเป็นแง่มุมที่ต้องนำเสนอแก่ประชาชนและรัฐบาล รวมถึงมีหลายโครงการในการจัดซื้อจัดจ้างทุตริตคอรัปชั่น และสิ่งที่จำโดยให้ควาสำคัญเป็นพิเศษคือประเด็นที่รัฐบาลปรับยุทธศาสตร์ระยะยาวในแง่การสร้างความเป็นธรรมในสังคม ในการสร้างระบบสวัสดิการ ถูกเพิกเฉยละเลยค่อนข้างมาก กลายเป็นว่าพยายามจะทุ่มเทในนโยบายประชานิยม ที่ผสมมากับการส่งเสริมให้เกิดความแตกแยก โดยเฉพาะการเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง การทำกองทุนต่างๆที่มีลักษณะของการนำเงื่อนไขทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าการตั้งงบฯครั้งนี้ดูเหมือนการขาดดุลจะลดลงแต่ซ่อนไว้ด้วยส่วนนอกงบประมาณจำนวนมาก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เห็นว่ามีเงินกู้จำนวน 3.5 แสนล้านบาท เป็นส่วนหนึ่ง ที่สำคัญคือความไม่ชัดเจนในการบริหารเรื่องพลังงาน เรื่องนโยบายการจัดเก็บภาษี ซึ่งมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ก็จะเป็นปัญหาในอนาคต ซึ่งหลายโครงการ อาทิ โครงการรับจำนำจะเป็นปัญหาในอนาคตค่อนข้างมาก และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้กองทุนน้ำมัน หรือภาษีน้ำมันที่จะมีการเปลียนแปลงหรือไม่ แม้ภาษีมูลค่าเพิ่มที่รัฐบาลพูดไว้ก่อนหน้านี้ก็ตาม

ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุม ส.ส.ของพรรคที่ได้เข้าชื่อขอใช้สิทธิอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 วงเงิน 2.44 ล้านล้านบาท ระหว่างวันที่ 21-23 พ.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมการอภิปรายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล เป็นประธานการประชุม โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 3 ชม. ทั้งนี้นายอุดมเดช กล่าวภายหลังการประชุมว่า มีส.ส.เพื่อไทยเสนอตัวในการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายปี 56 ทั้งหมด 82 คน ก็คงให้สิทธิได้พูดทุกคน แต่จะเฉลี่ยเวลาให้พูดกันคนละ 5 นาทีเท่านั้น โดยกำชับให้พูดเข้าประเด็นและกระชับที่สุด โดยให้พูดเรื่องการนำงบประมาณมาลงในพื้นที่ตัวเองให้น้อยที่สุด ซึ่งดูแล้วฝ่ายค้านก็คงพูดให้เกิดความเสียหายในการตั้งงบประมาณรายจ่ายปี 56 ของกระทรวงต่างๆ ซึ่งรัฐมนตรีและส.ส.รัฐบาลคงต้องช่วยกันชี้แจง อย่างไรก็ตามหากมีการอภิปรายนอกประเด็นพาดพิงนอกเรื่องให้เกิดความเสียหาย ก็จะให้สิทธิส.ส.ชี้แจงได้ทันที

ด้านนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันว่า การจัดทำงบรายจ่ายปี 56 ของรัฐบาล มีการขาดดุลแค่ 3 แสนล้านบาท จากเม็ดเงิน 2.44 ล้านล้านบาท ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้ดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจภาพรวมดีขึ้น ขณะที่สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์มีการตั้งงบขาดดุลมากกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ถึง 6 แสนล้านบาท ทั้งนี้เชื่อว่า รัฐบาลชุดนี้จะบริหารเศรษฐกิจได้โตไม่ต่ำกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อว่า จะจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ทำให้ประเทศมีรายได้มากขึ้น ส่วนการจัดทีมประท้วงนั้น ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะการอภิปรายงบประมาณไม่เหมือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้านชอบพูดนอกประเด็น เนื่องจากการอภิปรายครั้งนี้มีการแบ่งเวลาไว้แล้ว ฝ่ายละ 13 ชั่วโมง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุว่า ภาพรวมการจัดทำงบประมาณแต่ละกระทรวงเป็นการจัดงบแบบกินรวบ โดยเฉพาะกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยดูแลเช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงไอซีที กระทรวงคมนาคม และงบฉุกเฉินนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะงบประมาณของกระทรวงเหล่านี้ที่เพิ่มขึ้น เพราะต้องการยกระดับการพัฒนาฝีมือแรงงาน การพัฒนาคุณภาพนักเรียนในโครงการแจกแท็บเล็ต ซึ่งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยทำเรื่องเหล่านี้

"งบฉุกเฉินที่เพิ่มขึ้น โดยให้นายกฯ เป็นผู้พิจารณาได้เองนั้น ก็เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่งบผี หรือเอื้อประโยชน์ให้นายกฯ อยากให้พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายงบฯ อย่างสร้างสรรค์ เพราะทราบว่า พรรคประชาธิปัตย์จะใช้การอภิปรายงบประมาณครั้งนี้ เป็นเวทีย่อยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นเวทีโจมตีทางการเมือง ทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เตรียมทีมคอยประท้วงกว่า 20 คน คอยท้วงติงหากมีการอภิปรายนอกกรอบงบประมาณ" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรค ได้เชิญตัวแทนจากสำนักงบประมาณมาชี้แจงเรื่องการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 เนื่องจากพรรคเห็นว่า การจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ยังมีข้อสงสัยจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารประเทศหรือไม่ โดยเรื่องนี้รัฐบาลจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้ 2.1 ล้านล้านบาทได้ เนื่องจากรัฐบาลตั้งงบขาดดุล 3 แสนล้านบาท จึงเป็นห่วงว่าจะมีการมารีดภาษีจากประชาชน นักธุรกิจ พ่อค้าหรือไม่ นอกจากนี้งบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการจัดสรรงบลดลง โดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนรากหญ้า เพราะเป็นกระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่

"พรรคยังเป็นห่วงงบเหมาจ่ายรายหัวบัตรทอง ที่ไม่เพิ่มขึ้นในรอบ 10 ปี ทั้งที่ควรจะมีการเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อประมาณ 3.5-4 เปอร์เซนต์ แต่ปรากฏว่า เงินเหมาจ่ายกลับเท่ากับปีที่แล้ว ซึ่งจะกระทบกับการรักษาพยาบาลของประชาชน ขณะที่งบจัดซื้อแท๊ปเล็ต 8,800 ล้านบาท พบว่า เป็นเพียงงบซื้อเครื่องเพียงอย่างเดียว ไม่มีงบสำหรับการติดตั้งสัญญาณไวไฟและอินเตอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนที่ติดไวไฟมีเพียง 700 แห่งจาก 30,000 แห่งทั่วประเทศ สำหรับงบบริหารจัดการน้ำกว่า 43,000 ล้านบาท เป็นงบที่ไปซ้ำซ้อนกับงบ พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทหรือไม่ ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงให้ได้ว่า เหตุใดเมื่อมีเงินอยู่แล้ว จึงมาขอจัดงบเพิ่มอีก" โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวและว่า
 
นายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า จะให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับตั้งงบไว้เพียง 420 ล้านบาท เช่นเดียวกับงบการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ที่ตั้งไว้เพียง 400 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่ปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น แต่รัฐบาลตั้งงบมาแก้ปัญหาแค่ 1,400 ล้านบาท อย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทย ได้เวลาในการอภิปราย 134 นาทีหรือกว่า 2 ชั่วโมง โดยพรรคได้วางตัวผู้อภิปรายไว้ 10 กว่าคน
กำลังโหลดความคิดเห็น