xs
xsm
sm
md
lg

ธปท .เผยภาพรวม ศก. เดือน มี.ค.55 ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งภาคการบริโภค และการลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท. เผยภาพรวม ศก. เดือน มี.ค.55 ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งภาคการบริโภค และการลงทุน ภาคการผลิตส่วนใหญ่กลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติ แต่ห่วงเงินเฟ้อยังเร่งตัวขึ้นจากราคาพลังงาน คาดมีโอกาสแตะ 4%

นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมีนาคม 2555 และไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ภาวะเศรษฐกิจในเดือนมีนาคม 2555 ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยระดับการผลิตในหลายอุตสาหกรรมปรับขึ้นมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดอุทกภัย

ส่งผลให้การส่งออกในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่อง สาหรับทางด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อการค้า และการกู้ของธนาคารพาณิชย์เพื่อปรับฐานะเงินตราต่างประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งขึ้นจากราคาพลังงานเป็นสาคัญ

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทย มีดังนี้

การผลิตภาคอุตสาหกรรม ระดับการผลิตในภาพรวมฟื้นตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่ เนื่องจากอุตสาหกรรมส่วนใหญ่สามารถกลับมาผลิตได้ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดอุทกภัย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก ประกอบกับผู้ผลิตบางรายเร่งผลิตมากกว่าระดับปกติเพื่อทดแทนผู้ผลิตที่ยังผลิตได้ไม่เต็มที่ เช่น การผลิตของอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่งผลให้อัตราการใช้กาลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 68.1 จากร้อยละ 62.5 ในเดือนก่อน

อย่างไรก็ดี ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมยังหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 3.2 เนื่องจากอุตสาหกรรมบางส่วนยังมีข้อจากัดในการผลิต สำหรับผลผลิตสินค้าเกษตรหดตัวร้อยละ 0.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เนื่องจากผลผลิตข้าวในปีก่อนอยู่ในระดับสูงจากการเลื่อนการเพาะปลูก และเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังได้เร็วกว่าฤดูปกติ ขณะที่ผลผลิตสินค้าเกษตรสำคัญหลายชนิด ยังขยายตัวทั้งยางพารา ปาล์มน้ามัน อ้อย มันสาปะหลัง และหมวดปศุสัตว์ ด้านราคาสินค้าเกษตรยังหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 8.4 จากระยะเดียวกันปีก่อน จากผลของฐานราคายางพาราที่สูงในปีก่อน ประกอบกับความต้องการซื้อยางพาราจากจีน และผู้ประกอบการในประเทศชะลอตัว ส่งผลให้รายได้เกษตรกรหดตัวร้อยละ 8.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน

การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมปรับดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ อย่างไรก็ดี การส่งออกโดยรวมหดตัวร้อยละ 6.8 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการส่งออกสินค้าเกษตรเป็นสาคัญ เป็นผลจากราคายางพาราที่ลดลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน และปริมาณการส่งออกข้าวที่ลดลงเนื่องจากราคาส่งออกของไทยสูงกว่าประเทศคู่แข่ง สำหรับภาคการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต่างประเทศมีจานวน 1.9 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ญี่ปุ่น และลาว ส่งผลให้อัตราการเข้าพักที่ปรับฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน สะท้อนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่กลับมา แม้จะมีเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานครเมื่อเดือนก่อน

สำหรับการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง จากปัญหาการขาดแคลนสินค้าที่คลี่คลายลง และความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัว ร้อยละ 3.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของเครื่องชี้ในทุกหมวด โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และยอดจาหน่ายยานยนต์โดยเฉพาะรถยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งทาให้ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวร้อยละ 9 โดยเฉพาะการลงทุนซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์ และการนาเข้าสินค้าทุนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์

เศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น ส่งผลให้การนำเข้าขยายตัวร้อยละ 21.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า อีกทั้งในเดือนนี้ยังมีปัจจัยพิเศษที่ทาให้การนำเข้าน้ามันดิบเพิ่มขึ้นมากเนื่องจากโรงกลั่นน้ามันในประเทศสำรองน้ามันดิบเพิ่มขึ้น จากความกังวลต่อปัญหาความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ประกอบกับมีโรงกลั่นน้ามันบางแห่งนำเข้าเพื่อเร่งผลิตก่อนการปิดซ่อมบำรุงในเดือนพฤษภาคม

ภาครัฐมีบทบาทกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง สะท้อนจากรายจ่ายรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการ รายจ่ายเงินโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงผลจากการปรับค่าตอบแทนข้าราชการ สาหรับการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นจากภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรขาเข้า สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเร่งนำเข้าสินค้าประเภทรถยนต์และชิ้นส่วน อย่างไรก็ตาม ภาษีสรรพสามิตยังคงหดตัว จากผลของการขยายระยะเวลาลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล รายจ่ายที่ขยายตัวมากกว่ารายได้ ทาให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด 180.3 พันล้านบาท

เสถียรภาพเศรษฐกิจ หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อการค้าและการกู้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์เพื่อปรับฐานะเงินตราต่างประเทศจากการที่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของการส่งออกและการไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.45 เร่งขึ้นจากเดือนก่อน ตามราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นและการทยอยจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของน้ำมันเบนซินและแอลพีจีในภาคขนส่ง ขณะที่ราคาอาหารสดชะลอลงต่อเนื่องตามราคาเนื้อสัตว์จากปัญหาอุปทานล้นตลาดเป็นสาคัญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.77 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากราคาในเกือบทุกหมวดโดยเฉพาะราคาอาหารสาเร็จรูป

ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ปี 2555 ฟื้นตัวในทุกภาคเศรษฐกิจ หลังปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนในห่วงโซ่การผลิตจากปัญหาอุทกภัยคลี่คลายลงมาก ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรม การบริโภค การลงทุน และการส่งออกปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ภาครัฐยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น หลังพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจาปี 2555 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ การจ้างงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น