xs
xsm
sm
md
lg

ฉลุย!ตรึงราคาสินค้า4เดือน เอกชนลั่นขอเป็นครั้งสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เอกชนยอม! ตรึงราคาสินค้า 4 เดือนตามคำขอถึงสิ้นก.ย.นี้ ด้านหอการค้าไทยลั่น ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่รัฐจะใช้วิธีนี้ หลังใช้มาแล้วถึง 41 ครั้ง “ยรรยง”เดินหน้าคุมจานด่วน กำหนดราคาแนะนำในห้าง ฟู้ดคอร์ท สำนักงาน ยกเว้นหาบแร่ แผงลอย ขณะที่โฆษกปชป. จี้ "บุญทรง-ยรรยง"รับผิดชอบ หลังครม.ตีตกมาตรการควบคุมอาหารสำเร็จรูป 10 รายการ แนะแก้ปัญหาที่พลังงาน-ต้นทุน-ค่าแรง 300 บาท

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 200 รายว่า ผู้ประกอบการในกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในชีวิตประจำวัน วัสดุก่อสร้าง กระดาษ และบริภัณฑ์ขนส่ง ซึ่งมีสินค้าครอบคลุมตลาดกว่า 90% พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการจำหน่ายสินค้าราคาเดิมต่อไปอีก 4 เดือน หรือจนถึงเดือนก.ย.2555 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน

“ผู้ประกอบการบอกเองว่า ถึงไม่ขอ ก็จะไม่ขึ้นราคาสินค้าอยู่แล้ว เพราะตอนนี้การแข่งขันกันสูง หากมีการปรับราคาขึ้นไป ก็อาจจะเสียส่วนแบ่งการตลาดได้”นายบุญทรงกล่าว

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงมาตรการดูแลราคาสินค้าเพิ่มเติม โดยเอกชนเสนอให้เพิ่มเงินเหรียญหมุนเวียนในระบบตลาดให้มากขึ้น เพื่อช่วยชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะที่ผ่านมา สินค้าบางรายการปรับเพิ่มขึ้นครั้งละ 5-10 บาท ซึ่งสูงเกินต้นทุนที่แท้จริง เช่น ข้าวไข่เจียวจาก 5 บาท เป็น 10 บาท ทั้งที่ราคาไข่ไก่เพิ่มขึ้นไม่กี่สตางค์ เพราะอ้างว่าไม่มีเงินเหรียญทอนให้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเสนอไปยังกระทรวงการคลังให้พิจารณาต่อไป รวมทั้งจะรณรงค์ให้ประชาชน เลือกซื้อสินค้าคุ้มค่า ราคาประหยัดมากขึ้น

ด้านนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เอกชนได้แจ้งว่าการปรับขึ้นค่าแรงกระทบต่อต้นทุนเพียง 0.25% และส่วนใหญ่ยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการไม่ให้ราคาปรับได้ แต่มีกลุ่มเครื่องดื่ม น้ำอัดลม ที่ขอให้รัฐบาลพิจารณาการเก็บเงินชดเชยเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลลดลงจาก กก.ละ 5 บาท เหลือ 4 บาท เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต หลังจากไม่ได้ขึ้นราคาสินค้ามาตั้งแต่ปี 2548 ทั้งที่ต้นทุน และราคาสินค้าอย่างอื่นปรับขึ้นมาก

ส่วนการดูแลอาหารปรุงสำเร็จ สัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการในการกำกับดูแล ก่อนเสนอครม. อนุมัติให้เป็นสินค้าควบคุมอีกครั้ง โดยหลักเกณฑ์จะพิจารณาถึงการกำหนดราคาในแต่ละเมนูที่แตกต่างกัน ไม่ใช่กำหนดราคาขายเดียวกันทุกเมนู รวมถึงมุ่งเน้นไปยังผู้ประกอบการที่อยู่ในศูนย์อาหาร (ฟูดคอร์ท) ของห้างค้าปลีก และห้างสรรพสินค้า ศูนย์อาหารในสำนักงาน และในสถานที่ราชการ รวมถึงร้านอาหารในตลาดสด และกำหนดใน 7 จังหวัดนำร่องที่รัฐบาลปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไปแล้ว 300 บาท แต่จะไม่คุมร้านค้ารายย่อย รวมถึงหาบเร่ แผงลอย

“การเสนอให้ครม.เห็นชอบให้อาหารปรุงสำเร็จเป็นสินค้าควบคุม ในการประชุมครม. เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้หมายความว่า จะกำหนดราคาขายสูงสุด หรือกำหนดราคาควบคุมเหมือนอย่างน้ำตาลทราย แต่การเป็นสินค้าควบคุม ยังมีอีกหลายมาตรการที่จะใช้ได้ เช่น ให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บ ซึ่งอย่างอาหารปรุงสำเร็จ ก็จะมีหลายมาตรการที่จะดูแล เช่น การประกาศราคาแนะนำ หรือหากดึงราคาลงมาไม่ได้ ก็จะใช้มาตรการรุนแรง คือ กำหนดราคาขายสูงสุด เป็นต้น”นายยรรยงกล่าว

นายวิชัย อัศรัสกร กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า ทุกรัฐบาลใช้วิธีการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง โดยขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนตรึงราคามาโดยตลอด นับตั้งแต่ขอความร่วมมือตรึงราคาจนถึงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 41 แล้ว ซึ่งเอกชนที่สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ ก็พร้อมที่จะช่วย แต่ที่ตรึงไม่ได้ รัฐต้องเปิดทางให้มีการหารือ โดยเฉพาะหลังจากพ้นระยะ 4 เดือนไปแล้ว ก็ต้องไม่มาขอให้ตรึงราคาอีก ควรจะปล่อยให้กลไกตลาดทำงาน สินค้าตัวไหนต้นทุนเพิ่มขึ้น ทั้งจากค่าแรง ค่าพลังงาน และค่าไฟ ก็ต้องให้ปรับขึ้น แต่การปรับขึ้นต้องไม่เกินไปกว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

“เอกชนส่วนใหญ่ยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว ถ้าใครไม่ให้ความร่วมมือก็ดูเหมือนแล้งน้ำใจ แต่ไม่ใช่ว่า รัฐบาลจะใช้วิธีการนี้ตลอดไป ถ้าหลัง 4 เดือนแล้ว ต้องให้กลไกตลาดทำงาน”

นายบุรินทร์ ธนถาวรลาภ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการข้าวถุงยังไม่มีการยื่นขอปรับราคา เพราะราคาที่จำหน่ายในตลาดปัจจุบันข้าวถุงบรรจุ 5 กก. มีตั้งแต่ 108-230 บาท ซึ่งยังต่ำกว่าราคาเพดานสูงสุดของกรมการค้าภายในที่กำหนดไว้ที่ 250 บาท เพราะต้นทุนการรับซื้อข้าวยังอยู่ในระดับกก.ละ 16-18 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้คงราคาจำหน่ายได้ แต่หากต้นทุนการซื้อข้าวสูงขึ้น เป็นเรื่องในระยะยาวที่จะพิจารณา

***ปชป.จี้"บุญทรง-ยรรยง"รับผิดชอบ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ประชุมครม. ตีตกประกาศควบคุมอาหารสำเร็จรูป 10 รายการ ตามข้อเสนอของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ว่า เรื่องนี้พรรคเห็นด้วย เพราะเห็นว่าไม่ควรใช้กฎหมายมากดขี่ข่มเหงประชาชน เพราะทางเลือกของรัฐบาลเป็นทางเลือกที่ผิด ถือว่าโชคดีที่ ครม.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว แต่ขอเรียกร้องว่า ต้องเลิกแนวคิดการโยนภาระให้กับประชาชน เพราะขณะนี้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พยายามปฏิเสธความรับผิดชอบ และคิดนโยบายแก้ไขปัญหาของแพงโดยการผลักภาระให้กับประชาชนผู้บริโภค ขณะนี้ผู้ประกอบการยืนยันว่า ต้นทุนที่สูงขึ้น มาจากการขึ้นราคาพลังงาน และค่าขนส่ง รวมทั้งค่าแรง 300 บาทด้วย

" ถ้ายังแกล้งโง่ ไม่แก้ไขที่จุดอ่อน เชื่อว่าปัญหาไม่มีวันจบ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องค่าขนส่ง และพลังงาน รวมทั้งค่าแรง 300 บาท ที่ปรับขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าให้สูงขึ้นในขณะนี้ หากยังไปแก้ประเด็นอื่น ก็จะเป็นลิงแก้แห ความจริงเมื่อเสนอนโยบายไปแล้วครม.ตีตก ทั้งสองคนต้องรับผิดชอบ เพื่อแสดงสปิริต เพราะประชาชนต้องทนอยู่กับรัฐมนตรีและปลัดคนนี้ต่อไป" นายชวนนท์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น