วานนี้(30 เม.ย.55)นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีนาย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาประธานรัฐสภามีหนังสือเรียกประชุมรัฐสภาด่วน เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค.โดยพลการ ไม่มีการหารือกับวิป 3 ฝ่ายว่า ยืนยันว่า ไม่ได้เร่งรีบ รวบรัด การเรียกประชุมดังกล่าวเป็นการทำตามข้อหารือที่วิป3ฝ่ายเสนอมาให้ที่ประชุมรับทราบ ไม่ได้กำหนดขึ้นเอง แล้วจะมาบอกว่า รวบรัดเร่งรีบได้อย่างไร ที่ผ่านมาก็ทำตามมติวิป3ฝ่ายทุกเรื่อง ส่วนข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยให้สมาชิกรัฐสภาที่สงวนคำแปรญัตติ และสงวนความเห็น อภิปรายการแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2 ได้คนละ20-30 นาที เพื่อไม่ให้การประชุมเกิดความยืดเยื้อนั้น คงต้องรอถามความเห็นจากที่ประชุมรัฐสภาว่า จะยินยอมหรือไม่ เพราะไม่มีข้อบังคับระบุไว้ว่า จะให้อภิปรายได้คนละกี่นาที
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงกรอบเวลาการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระสอง ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติจะเสร็จสิ้นเมื่อใดว่าในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 1-3 พ.ค. นั้น มีความเป็นไปได้ว่า จะไม่แล้วเสร็จ เพราะยังเหลือสมาชิกรัฐสภาที่สงวนคำแปรญัตติ และสงวนความเห็นอีกจำนวนมาก อีกทั้งมีหลายประเด็นที่จะมีการถกเถียงกันอย่างหนักเช่น มาตรา 291/ 6 ว่าด้วยที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สายวิชาการ จำนวน 22 คน, มาตรา 291/11 ว่าด้วยระยะเวลายกร่างรัฐธรรมนูญ และมาตรา 291/13 ว่าด้วยการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เบื้องต้นคาดว่่าการประชุมในเรื่องดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้อย่างช้าสัปดาห์หน้า หรือไม่เกินกลางเดือน พ.ค.
“หากคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลไม่ขัดข้อง และขยายเวลาประชุมให้ พร้อมจะให้ฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ ตามที่เสนอคำแปรญัตติไว้ ผมอยากขอให้ประธานในที่ประชุมควบคุมประเด็นที่อภิปรายไม่ให้ซ้ำประเด็นเหมือนการอภิปรายในวาระ 1 หากประธานไม่สามารถควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในประเด็นได้ ก็จะมีการประท้วงไปเรื่อยๆ ทำให้การประชุมต้องยืดเยื้อออกไปอีก”นายสามารถ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามความเป็นจริงเพราะในขณะนี้ยังมีสมาชิกที่สงวนคำแปรญัตติต้องการอภิปรายอีกมาก โดยในวันที่ 1 พ.ค.จะเริ่มอภิปรายมาตรา 291/6 ก็ยังมีสมาชิกที่รออภิปรายจำนวนมาก หากรัฐบาลต้องการให้เร็วขึ้น กรรมาธิการก็ควรรับฟังเหตุผลและพิจารณาว่าจะปรับปรุงแก้ไขได้หรือไม่ เพราะทางรัฐบาลปฏิเสธที่จะการหารือสี่ฝ่าย ต่อกรรมาธิการ ฯ รัฐบาล สว. และฝ่ายค้าน แต่ร้องการผลักดันตามความต้องการของตัวเองพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการแสดงความไม่เหฯด้วยต่อบทบัญญัติต่าง ๆ เพราะมีปัญหาว่ารัฐบาลจะรวบอำนาจทำให้เชื่อได้ว่า ส.ส.ร.จะมีลักษณะที่สนองตอบแค่เสียงข้างมาก ซึ่งไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น รัฐธรรมนูญควรเป็นกฎหมายสำหรับทุกคน ไม่ใช่กฎหมายสำหรับเสียงข้างมาก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่มีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค. โดยที่ประชุมแสดงความกังวลกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์และส.ว.บางคนใช้เวลาในการแปรญัตติมาก รวมทั้งมักจะอภิปรายนอกกรอบการแปรญัตติ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีการเสนอว่าควรกำหนดกรอบเวลาการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาที่ขอสงวนคำแปรญัตติและสงวนความเห็น
เพื่อไม่ให้การอภิปรายยืดเยื้อ รวมทั้งยังเสนอให้งดการถ่ายทอดสดการแปรญัตติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านใช้เวทีนี้ยื้อเวลาหรือใช้เป็นช่องทางโจมตีรัฐบาลมากกว่าการอภิปรายในข้อดีและข้อเสียของการแก้รัฐธรรมนูญด้วย อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการหารือในที่ประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้งว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ ในการประชุมระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค.นั้น พรรคเพื่อไทยจะจัดทีมคอยประท้วงอย่างเข้มข้น นำโดยส.ส.หญิงและส.ส.กทม.ของพรรค เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายออกนอกประเด็นอีก รวมทั้งเพื่อให้การอภิปรายในวาระ 2 นั้นจบทันในสัปดาห์หน้า เพราะหากปล่อยให้ฝ่ายค้านอภิปรายนอกกรอบเช่นนี้ ประชุมต่อไปอีก 1 เดือนก็คงไม่จบ เพราะฝ่ายค้านเอาแต่เล่นเกมยืดเยื้อ
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงกรอบเวลาการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระสอง ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติจะเสร็จสิ้นเมื่อใดว่าในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาในเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 1-3 พ.ค. นั้น มีความเป็นไปได้ว่า จะไม่แล้วเสร็จ เพราะยังเหลือสมาชิกรัฐสภาที่สงวนคำแปรญัตติ และสงวนความเห็นอีกจำนวนมาก อีกทั้งมีหลายประเด็นที่จะมีการถกเถียงกันอย่างหนักเช่น มาตรา 291/ 6 ว่าด้วยที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สายวิชาการ จำนวน 22 คน, มาตรา 291/11 ว่าด้วยระยะเวลายกร่างรัฐธรรมนูญ และมาตรา 291/13 ว่าด้วยการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เบื้องต้นคาดว่่าการประชุมในเรื่องดังกล่าวจะแล้วเสร็จได้อย่างช้าสัปดาห์หน้า หรือไม่เกินกลางเดือน พ.ค.
“หากคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลไม่ขัดข้อง และขยายเวลาประชุมให้ พร้อมจะให้ฝ่ายค้านอภิปรายเต็มที่ ตามที่เสนอคำแปรญัตติไว้ ผมอยากขอให้ประธานในที่ประชุมควบคุมประเด็นที่อภิปรายไม่ให้ซ้ำประเด็นเหมือนการอภิปรายในวาระ 1 หากประธานไม่สามารถควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในประเด็นได้ ก็จะมีการประท้วงไปเรื่อยๆ ทำให้การประชุมต้องยืดเยื้อออกไปอีก”นายสามารถ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ต้องว่ากันไปตามความเป็นจริงเพราะในขณะนี้ยังมีสมาชิกที่สงวนคำแปรญัตติต้องการอภิปรายอีกมาก โดยในวันที่ 1 พ.ค.จะเริ่มอภิปรายมาตรา 291/6 ก็ยังมีสมาชิกที่รออภิปรายจำนวนมาก หากรัฐบาลต้องการให้เร็วขึ้น กรรมาธิการก็ควรรับฟังเหตุผลและพิจารณาว่าจะปรับปรุงแก้ไขได้หรือไม่ เพราะทางรัฐบาลปฏิเสธที่จะการหารือสี่ฝ่าย ต่อกรรมาธิการ ฯ รัฐบาล สว. และฝ่ายค้าน แต่ร้องการผลักดันตามความต้องการของตัวเองพรรคประชาธิปัตย์จึงต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการแสดงความไม่เหฯด้วยต่อบทบัญญัติต่าง ๆ เพราะมีปัญหาว่ารัฐบาลจะรวบอำนาจทำให้เชื่อได้ว่า ส.ส.ร.จะมีลักษณะที่สนองตอบแค่เสียงข้างมาก ซึ่งไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น รัฐธรรมนูญควรเป็นกฎหมายสำหรับทุกคน ไม่ใช่กฎหมายสำหรับเสียงข้างมาก
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่มีพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค. โดยที่ประชุมแสดงความกังวลกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์และส.ว.บางคนใช้เวลาในการแปรญัตติมาก รวมทั้งมักจะอภิปรายนอกกรอบการแปรญัตติ ดังนั้นที่ประชุมจึงมีการเสนอว่าควรกำหนดกรอบเวลาการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาที่ขอสงวนคำแปรญัตติและสงวนความเห็น
เพื่อไม่ให้การอภิปรายยืดเยื้อ รวมทั้งยังเสนอให้งดการถ่ายทอดสดการแปรญัตติแก้รัฐธรรมนูญวาระ 2 เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านใช้เวทีนี้ยื้อเวลาหรือใช้เป็นช่องทางโจมตีรัฐบาลมากกว่าการอภิปรายในข้อดีและข้อเสียของการแก้รัฐธรรมนูญด้วย อย่างไรก็ตาม คงต้องมีการหารือในที่ประชุมร่วมรัฐสภาอีกครั้งว่าจะเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ ในการประชุมระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค.นั้น พรรคเพื่อไทยจะจัดทีมคอยประท้วงอย่างเข้มข้น นำโดยส.ส.หญิงและส.ส.กทม.ของพรรค เพื่อไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายออกนอกประเด็นอีก รวมทั้งเพื่อให้การอภิปรายในวาระ 2 นั้นจบทันในสัปดาห์หน้า เพราะหากปล่อยให้ฝ่ายค้านอภิปรายนอกกรอบเช่นนี้ ประชุมต่อไปอีก 1 เดือนก็คงไม่จบ เพราะฝ่ายค้านเอาแต่เล่นเกมยืดเยื้อ