xs
xsm
sm
md
lg

ชัด!คนปทุมฯไม่เอาพท. เลือกตั้งท้องถิ่นพ่ายซ้ำสนามใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - คอนเฟิร์ม! คนปทุมธานีไม่เอา"เพื่อไทย" แพ้เลือกตั้ง 2 วันติด ทั้ง ส.ส.และนายก อบจ. โดยเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 5 แพ้ "เกียรติศักดิ์" จากปชป. เลือกตั้งนายก อบจ. ก็แพ้ "ชาญ พวงเพ็ชร" คนใกล้ชิดพรรคภูมิใจไทย กกต.เผยพร้อมประกาศรับรองโดยเร็ว หากไม่มีเรื่องร้องเรียน "มาร์ค"ได้ทีข่ยมซ้ำ รัฐบาลแพ้เพราะแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ยอมรับศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 3 เชียงใหม่ ยากกว่าที่ปทุมฯ "สุริยะใส" ระบุเหตุจากปัญหาอุทกภัย ความล้มเหลวทางนโยบาย และปัญหาความแตกแยกภายใน ด้าน "ธิดาแดง" ซัดผู้สมัคร พท. ขี้เกียจเอง ไม่เกี่ยวกระแสเสื้อแดงวูบ

วานนี้ (22 เม.ย.) มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.) ซึ่งเห็นการแข่งขันกันระหว่างนายชาญ พวงเพชร อดีตนายกอบจ. ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพรรคภูมิใจไทย กับว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายชาญ ได้ 214,429 คะแนน ส่วนว่าที่ร.ต.สุเมธ ได้ 110,974 คะแนน ทั้งนี้ มีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 344,708 คน คิดเป็นร้อยละ 49 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 10,979 คน บัตรเสีย 6,327 ใบ

ทั้งนี้นับเป็นความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย ในสนามเลือกตั้งจ.ปทุมธานี 2 วันติดต่อกัน เนื่องจากเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็มีการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ปทุมธานี เขต 5 โดยนายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ จากพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ได้ 24,119 คะแนน แพ้แก่นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 2 ได้ 27,981 คะแนน ส่วนนายณรงค์ชัย ปัญญานนทชัย พรรคไทยมหารัฐพัฒนา หมายเลข 3 ได้ 347 คะแนน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเพียงร้อยละ 37 เท่านั้น

** กกต.เผยยังไม่มีเรื่องร้องเรียน

นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึง การเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 5 ปทุมธานี ที่มีผู้มาสิทธิเลือกตั้งเพียงร้อยละ 37 ว่า ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก เนื่องจากที่ผ่านมาใน จ.ปทุมธานี มีการเลือกตั้งบ่อยครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการเลือกตั้ง นายกเทศบาลเมืองลาดสวาย อ.ลำลูกกา ต่อมาก็มาเลือกตั้งซ่อมส.ส. และก็เลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี อีก จึงเป็นปัญหาทำให้ประชาชนไม่ค่อยออกมาใช้สิทธิเท่าที่ควร

สำหรับภาพรวมของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ในครั้งนี้ เป็นไปด้วยเรียบร้อย ยังไม่มีปัญหาใดๆ หรือการร้องเรียนด้วยลายลักษณ์อักษร ถึงเหตุการณ์ที่ส่อไปทางทุจริตแต่อย่างใด หากไม่มีการร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้ง ทางกกต.จะประการรับรองผลการเลือกตั้งโดยเร็ว แต่หากมีการร้องเรียนเกิดขึ้น กกต.ต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนภายใน 30 วัน จึงจะประกาศรับรองผลได้

ส่วนกรณีที่ทาง กกต.จว.ปทุมธานี ระบุว่า มีการร้องเรียนด้วยวาจาว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัครหลายรายนั้น เรื่องนี้ยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามายังกกต.กลาง ทั้งในเรื่องของใบเหลือง ใบแดง คงต้องรอดูก่อน

**รัฐบาลแพ้เพราะปัญหาปากท้อง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวขอบคุณชาวปทุมธานี ที่ให้โอกาส ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค หลังจากที่ว่างเว้นการมีส.ส.ในพื้นที่นี้มาเป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งคิดว่าเป็นความดีความชอบของผู้สมัคร ที่ทำงานต่อเนื่องในเรื่องน้ำท่วม แต่ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ส.ส.หรือไม่ได้เป็นส.ส. เมื่อเกิดปัญหาต้องทำงานใกล้ชิดกับประชาชน แบบเกาะติด

ขณะเดียวกันคะแนนเสียงที่หายไปของรัฐบาล ทางรัฐบาลก็คงต้องไปทบทวนดูว่า มีเหตุมีปัจจัยอะไรบ้าง ซึ่งรัฐบาลควรจะรับไปพิจารณาในทางสร้างสรรค์ เพื่อปรับปรุงการทำงานของตัวเองด้วย เพราะคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างใกล้เคียงกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย หายไปค่อนข้างชัดเจน

สำหรับจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ ที่มีเพียงแค่ 30 % นั้น นายอภิสิทธิ์ เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่ก็คาดการณ์กันอยู่แล้วว่า คนจะไปใช้สิทธิน้อย เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวสงกรานต์ และการเลือกตั้งล่วงหน้า ก็อยู่ในช่วงสงกรานต์เลย และน่าจะเป็นตัวบ่งบอกว่า ประชาชนยังไม่พึงพอใจกับพรรคการเมืองทั้งสองพรรค จึงควรช่วยกันปรับปรุงการทำงาน ด้วยการสร้างศรัทธาให้ประชาชน ทำให้การเมืองแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งตนเรียกร้องมาตลอดว่าการเมืองต้องแก้ปัญหาปากท้อง เรื่องค่าครองชีพให้ชาวบ้าน มากกว่าจะเป็นเรื่องปัญหาของนักการเมืองเอง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า พรรคกำลังพิจารณาผู้สมัครลงรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.เชียงใหม่ แทนน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.เพื่อไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จากการซุกหนี้ 100 ล้าน แต่ยอมรับว่า การจะชนะพรรคเพื่อไทย ในเขตเลือกตั้งนี้คงยากกว่าที่ จ.ปทุมธานี เพราะที่จ.ปทุมธานี เดิมพรรคแพ้อยู่หมื่นกว่าคะแนน แต่ที่ จ.เชียงใหม่ แพ้หลายหมื่น อย่างไรก็ตาม พรรคพร้อมที่จะส่งผู้สมัครไปเสนอตัวรับใช้ประชาชน

** "ยะใส" ชี้ชัดรัฐบาล"ขาลง"

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า การที่ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย แพ้เลือกตั้งให้กับผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ แบบพลิกความคาดหมายนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่ตกต่ำของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยทั้งๆ ที่การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทย มีการระดมทรัพยากร สรรพกำลัง และกลไกรัฐลงไปช่วยมากมายหลายรูปแบบ มีการเชิญนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรค และแกนนำเสื้อแดง ลงไปช่วยปราศรัยหาเสียงอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ยังแพ้ ซึ่งน่าจะเกิดจากสาเหตุ 3 ประการ

1. จากการบริหารจัดการอุทกภัยที่ล้มเหลวของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย รวมทั้งแผนฟื้นฟูเยียวยา ก็ยังล่าช้าไม่มีประสิทธิภาพ

2. ความล้มเหลวทางนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ปรากฏเป็นจริงอย่างที่หาเสียงไว้ ซ้ำร้ายการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพ ทำให้เกิดปัญหาข้าวยากหมากแพง รุนแรงอีกครั้งหนึ่ง พื้นที่จ.ปทุมธานี มีทั้งชนชั้นกลางใหม่ และคนระดับล่าง และผู้ใช้แรงงานอาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งคนกลุ่มนี้ สัมผัสปัญหาข้าวยากหมากแพงโดยตรง

3 . เกิดจากการชิงการนำชิงบทบาทกันเอง ระหว่างแกนนำเสื้อแดง กับแกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งรอยร้าวนี้ชัดเจนขึ้น หลังพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งทั่วไปที่ผ่านมา พอได้อำนาจมาการจัดสรรบทบาท และตำแหน่งทางการเมืองทำให้ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ไม่พอใจ ถูกลดบทบาท เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปให้บทบาทกับแกนนำม็อบเสื้อแดง มากกว่าคนทำงานในพรรคโดยตรง

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ตอกย้ำถึงขาลงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และความเสื่อมของคนเสื้อแดง อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะก่อนเลือกตั้งซ่อม มีการออกแบบกันในวงในว่า จะต้องให้ผู้สมัครเพื่อไทย ชนะแบบถล่มทลาย เพื่อกลบกระแสความล้มเหลวการแก้ปัญหาน้ำท่วม และความล้มเหลวทางนโยบาย แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทย ก็ไม่สามารถปิดฟ้าด้วยฝ่ามือได้

สถานการณ์ในขณะนี้ เป็นโอกาสดีที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องเร่งให้ข้อมูลตีแผ่ความล้มเหลวทางนโยบายของรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่แค่การแถลงตอบโต้กับฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่ต้องให้ข้อมูลเข้าถึงคนระดับล่าง หรือชาวบ้านในต่างจังหวัด เพราะคนในเมืองเริ่มเห็นปัญหาชัดเจนแล้ว

นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรย่ามใจกับผลเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพราะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และแถบภาคกลาง การหาเสียงหรือเปิดโปงความล้มเหลวของรัฐบาลอาจจะทำได้ง่าย และประชาชนแถบนี้เข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าคนในต่างจังหวัดอยู่แล้ว ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ อาจสะท้อนแค่สุ้มเสียงจากชนชั้นกลางเท่านั้น ยังไม่ใช่คนระดับล่างจริงๆ ซึ่งเป็นจุดที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ทางการเมืองมาตลอด

**พท.เตรียมหาสาเหตุแพ้เลือกตั้งซ่อม

นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยอมรับในความพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ทั้งที่เป็นพื้นที่เดิมของพรรค โดยจะวิเคราะห์เหตุผลที่ทำให้ประชาชนตัดสินใจครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นเพียง 1 เสียง แต่ทางพรรคถือเป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่า สาเหตุมาจากการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ลงพื้นที่ช่วยประชาชนในช่วงน้ำท่วมที่ จ.ปทุมธานีนั้น ไม่จริง เพราะรัฐบาล และส.ส.ของพรรคให้ความสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม อย่างต่อเนื่อง

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า การประชุมพรรคในวันนี้ (23 เม.ย.) จะหารือถึงผลเลือกตั้งซ่อมจ.ปทุมธานี ที่ผู้สมัครของพรรคแพ้การเลือกตั้ง โดยเชื่อว่า สาเหตุมาจากการที่ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งค่อนข้างน้อย โดยไม่ใช่เป็นเรื่องความขัดแย้งกับกลุ่ม นปช.ในพื้นที่ แต่อาจจะเป็นเรื่องของอารมณ์ของประชาชน ต่อการช่วยเหลือปัญหาอุทกภัย เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

** อ้างไม่เกี่ยวกระแสเสื้อแดงแผ่ว

นางธิดา ฐาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ที่ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กว่า 3,000 คะแนน ว่า การพ่ายแพ้อาจเกิดจากการเลือกตั้งที่จัดขึ้นแบบกระทันหัน อีกทั้งอาจจะเกิดจากที่ตัว ส.ส.เองลงพื้นที่ไม่ทั่วถึง ในช่วงที่เกิดอุทกภัย ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยต้องนำประสบการณ์นี้มาปรับปรุงการทำงานในครั้งต่อไป

" อยากจะบอกว่า การพ่ายแพ้ในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสคนเสื้อแดงลดหรือเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด เพราะการทำงานของ ส.ส.ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง ยืนยันว่า คนละส่วนกัน อย่านำมารวมกัน อีกอย่างหนึ่งคือกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดปทุมธานี ก็มีหลายกลุ่ม ประชาชนก็อาจจะเลือกหรือไม่ก็ได้ อันนี้ก็เป็นสิทธิ"นางธิดา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยแพ้การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับกรณีที่ทางพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาประโคมข่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญ ม. 291 และผ่านกฎหมายเรื่องการปรองดองของรัฐบาล เพื่อพาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศไทยหรือไม่ นางธิดา กล่าวว่า ตรงนี้ไม่เกี่ยวเลย พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีศักดิ์ศรี เอาเกียรติภูมิ ของส.ส.มาทำลายในสภาฯ จนประชนเขาไม่อยากที่จะดูถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯ ผ่านทางโทรทัศน์แล้ว เพราะเบื่อพวกที่ทำลายตัวเอง.
กำลังโหลดความคิดเห็น